เมื่อบ้านกลายเป็นเป้า! ชายมาเลเซียถูกญาติสวมรอยใช้ที่อยู่กู้หนี้นอกระบบ ถูกข่มขู่ถึงชีวิต
เรื่องราวสุดระทึกขวัญที่เกิดขึ้นกับชายชาวมาเลเซีย วัย 32 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นพนักงานตรวจสภาพรถยนต์ และอาศัยอยู่กับภรรยา มารดา และลูกน้อยวัย 1 ขวบครึ่ง ในรัฐยะโฮร์บาห์รู เขาต้องตกใจสุดขีดเมื่อกลับจากท่องเที่ยวและพบว่าบ้านของเขาถูกสาดด้วยสีแดงสด พร้อมกับทิ้งข้อความระบุชื่อลูกพี่ลูกน้องวัย 33 ปี ซึ่งไม่ค่อยได้ติดต่อกันมานานแล้วว่าเป็นผู้ติดหนี้ "อาหลง" (เงินกู้นอกระบบ) นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับเขา
เมื่อปี 2023 บ้านของเขาก็เคยถูกสาดสีแดงมาแล้วจากเรื่องเดียวกันนี้ โดยลูกพี่ลูกน้องได้ส่งหลักฐานการโอนเงินจำนวน 500 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 13,000 บาท) เพื่อยุติเรื่อง แต่ครั้งนี้กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง และหนักกว่าเดิม เมื่อเขาโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่ทิ้งไว้เพื่ออธิบายว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และให้ที่อยู่ของลูกพี่ลูกน้องไป อาหลงกลับไม่สนใจ และข่มขู่ให้เขาชำระหนี้ทั้งหมด 7,000 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 50,000 บาท) มิฉะนั้นจะเผาบ้านและรถยนต์ของเขาเสีย
ชายคนดังกล่าวพยายามติดต่อลูกพี่ลูกน้องหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ ขณะที่พี่สะใภ้กลับอ้างว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาไม่ได้ติดหนี้ ด้วยเหตุนี้ ชายผู้เคราะห์ร้ายจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจท้องถิ่น และได้ยื่นเรื่องต่อตำรวจสิงคโปร์ด้วย เนื่องจากเกรงว่าอาหลงจะกลับมาคุกคามอีก
หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ชายและภรรยาซึ่งต้องเดินทางไปทำงานที่สิงคโปร์เป็นประจำ รู้สึกเป็นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของมารดาและลูกสาวตัวน้อยที่อยู่บ้านเพียงลำพัง เพื่อความปลอดภัย เขาจึงได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมที่โรงจอดรถ และห้ามไม่ให้ลูกสาวออกไปเล่นนอกบ้านอีกต่อไป แม้เขาจะพยายามทำความสะอาดบริเวณบ้าน แต่ร่องรอยสีแดงก็ยังคงปรากฏให้เห็น สร้างความรู้สึกไม่สบายใจให้กับครอบครัว
เหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจาก นายหว่อง เซียง หลวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้ออกมาเรียกร้องให้อาหลงยุติการคุกคามญาติพี่น้องของผู้ที่ติดหนี้โดยไม่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ยังได้เตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อโฆษณาเงินกู้นอกระบบที่อ้างว่า "ไม่ต้องมีหลักประกัน ปล่อยกู้ง่าย" ที่พบเห็นได้ตามโซเชียลมีเดีย หากประสบปัญหาทางการเงิน ควรปรึกษาสถาบันการเงินที่ถูกกฎหมาย หรือปรึกษาครอบครัวและเพื่อนฝูง เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนตระหนักถึงอันตรายของการกู้ยืมเงินนอกระบบ และผลกระทบที่อาจลุกลามไปถึงคนรอบข้างได้อย่างคาดไม่ถึง








