ทำไมทรัมป์..จึงคิดขึ้นภาษีทั่วโลก
ข้อมูลล่าสุดปี 2567 ตัวเลขสหรัฐขาดดุลการค้าสูงถึง 918 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการจับขั้วของประเทศต่างๆ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ทรัมป์..มองว่านี่คือดีลที่ไม่ยุติธรรม เพราะในอดีตสหรัฐยึดหลักการค้าแบบตอบแทนซึ่งกันและกัน หมายถึงสหรัฐและประเทศที่ค้าขายด้วยจะกําหนดอัตราภาษีแบบเท่าเทียม
แต่หลังสงครามโลกครั้งสอง สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าตํ่าสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทำให้สหรัฐเสียเปรียบ การขาดดุลทำให้ภาคอุตสาหกรรมปิดตัวลง กว่า 5 ล้านคน ตกงาน
เมื่อภาคการผลิตลดลง ก็ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้ามากขึ้น ทรัมป์..จึงมีความคิดที่จะปรับภาษีนำเข้าทั้งหมด ทรัมป์..เชื่อว่าภาษีที่สูงจะจำกัดการนำเข้าสินค้า และนำไปสู่การเพิ่มการผลิตในประเทศและการสร้างงานสำหรับชาวอเมริกัน ตามนโยบาย "America .. Great Again"
แต่เพราะสหรัฐเป็นเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก การขึ้นภาษีกับทุกประเทศจึงสร้างผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก
แต่ละปีสหรัฐมีภาระดอกเบี้ยที่ต้องชําระมากถึง 800-900 พันล้านดอลลาร์ต่อปี การขึ้นภาษีสินค้านําเข้า 20 % จะสร้างรายได้ให้รัฐบาลใกล้เคียงกับภาระดอกเบี้ยที่ต้องชำระในแต่ละปี แต่ในที่สุด ประชาชนสหรัฐก็จะเป็นผู้จ่ายจากราคาสินค้าที่จะสูงขึ้นเช่นกัน
โดยสรุปแล้ว การขึ้นภาษีของทรัมป์เป็นการสะท้อนถึงปรัชญาทางการค้าแบบชาตินิยม นี่คือการใช้ "อํานาจ" ผ่านการบีบบังคับและเจรจาที่ทรัมป์ทีมถนัดที่สุด














