แก๊ง "หมอผี-หมอดูปลอม" อาละวาด หลอกชาวบ้านทำพิธีเสริมดวงแลกทรัพย์สิน!
เมื่อเร็วๆ นี้ เกิดเหตุการณ์น่าตกใจในประเทศสิงคโปร์ เมื่อมีแก๊งต้มตุ๋นกลุ่มหนึ่งกลับมาอาละวาดอีกครั้ง โดยครั้งนี้มาในรูปแบบใหม่ที่แนบเนียนกว่าเดิม ด้วยการแอบอ้างเป็น "หมอจีน" หรือ "ผู้เชี่ยวชาญด้านการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย" สร้างความเสียหายให้กับประชาชน และหลอกเอาทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยให้ประชาชนทั่วโลกต้องระมัดระวังตัว
วิธีการของแก๊งต้มตุ๋นกลุ่มนี้เริ่มต้นจากการที่ มิจฉาชีพคนแรก จะทำทีเป็นเดินเข้ามาสอบถามผู้เสียหายเกี่ยวกับหมอจีน จากนั้น มิจฉาชีพคนที่สอง จะปรากฏตัวขึ้นและอาสาให้ความช่วยเหลือ โดยอ้างว่ารู้จักหมอจีนที่มีชื่อเสียง แต่ไม่สามารถพาไปที่สำนักได้ เนื่องจากมีคนจำนวนมาก จึงขอให้ไปพบกันนอกสถานที่ และชวนผู้เสียหายให้แกล้งทำเป็นญาติเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
เมื่อไปถึงสถานที่นัดพบ มิจฉาชีพคนที่สาม ซึ่งสวมรอยเป็นหมอจีนตัวปลอม จะเข้ามาร่วมวงสนทนา และทันทีที่เห็นหน้าผู้เสียหาย ก็จะทักท้วงทันทีว่า "มีวิญญาณชั่วร้ายสิงอยู่" หรือ "ดวงกำลังตก" ทำให้ผู้เสียหายเกิดความวิตกกังวลและคล้อยตาม
หลังจากนั้น มิจฉาชีพทั้งสามคนจะชวนผู้เสียหายไปพบกันอีกครั้งที่สวนสาธารณะ และเกลี้ยกล่อมให้ผู้เสียหายนำเงินสดและเครื่องประดับมีค่า เช่น สร้อยคอทองคำ หรือจี้พระเครื่อง ไปให้ "หมอจีนปลอม" ทำพิธี "สะเดาะเคราะห์" หรือ "ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย" โดยจะให้ผู้เสียหายนำทรัพย์สินทั้งหมดใส่ถุงพลาสติกสีดำ จากนั้นก็ทำท่าทางเหมือนกำลัง "ทำพิธีเสริมดวง" หรือ "ชาร์จพลัง" ให้กับทรัพย์สินเหล่านั้น
เมื่อทำพิธีเสร็จสิ้น มิจฉาชีพจะกำชับผู้เสียหายให้นำถุงพลาสติกใบนั้นไปซ่อนไว้ใต้เตียงนอนเป็นเวลาหนึ่งเดือน โดยห้ามเปิดออกก่อนกำหนด เพื่อให้พิธีสัมฤทธิ์ผล และเมื่อครบกำหนด ดวงชะตาของผู้เสียหายก็จะดีขึ้น
โชคดีที่ผู้เสียหายในกรณีนี้เกิดความสงสัยขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น จึงตัดสินใจนำถุงพลาสติกที่ว่านั้นออกมาตรวจสอบ และต้องตกใจเมื่อพบว่าทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดได้หายไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ภายในถุงกลับกลายเป็นเพียง "ใบไม้แห้ง" แทน ผู้เสียหายจึงรีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสิงคโปร์ก็ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายอีกราย ซึ่งถูกหลอกลวงด้วยวิธีการเดียวกัน จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้สามารถระบุตัวตนของมิจฉาชีพทั้งสามคน และพบว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดที่เป็นชายอีกหนึ่งคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นชาวจีนทั้งหมด อายุระหว่าง 47-61 ปี พร้อมทั้งยึดของกลางเป็นสร้อยคอทองคำ เงินสด และเงินหยวน ซึ่งเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการฉ้อโกง ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง 2 กระทง ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง อาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับเงิน
เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องย้ำเตือนให้ประชาชนทุกคนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาพูดคุย หรือเสนอตัวให้ความช่วยเหลือในเรื่องส่วนตัว ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนที่จะหลงเชื่อคำพูดใดๆ และหากพบเห็นพฤติกรรมที่น่าสงสัย หรือมีบุคคลใดพยายามหลอกลวงให้ทำพิธีแปลกๆ หรือเรียกเอาทรัพย์สิน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่นไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋นเหล่านี้


















