จับตา!'ขีปนาวุธใหม่'ของเยเมน!
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานจาก เอเดน ประเทศ เยเมน เมื่อวันอังคารที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า กลุ่มฮูตีในเยเมนรับว่าเป็นผู้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีสนามบินเบนกูเรียน ใจกลางอิสราเอล
ในแถลงการณ์จากสถานีโทรทัศน์อัลมาซิราห์ที่ควบคุมโดยกลุ่มฮูตี ยาห์ยา ซาเรีย โฆษกกองทัพฮูตีกล่าวว่าพวกเขา "ดำเนินปฏิบัติการทางทหารพิเศษโจมตีสนามบินเบน กูเรียนในเทลอาวีฟ โดยใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลความเร็วเหนือเสียงแบบปาเลสไตน์-2"
ตามคำกล่าวของซาเรีย การโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งนี้ "ประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมาย" โดยบังคับให้ "ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลหลายล้านคนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงและขัดขวางการปฏิบัติการของสนามบิน"
นอกจากนี้ซาเรียยังอ้างว่ามีการโจมตีด้วยอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ฝ่ายเดียวหลายครั้งที่ "พื้นที่อ่อนไหว 3 แห่ง" ในเมืองเอลัต เทลอาวีฟ และอัชเคลอน
โฆษกของกลุ่มฮูตียังย้ำจุดยืนของกลุ่มว่าจะยังคงปฏิบัติการทางทหารต่อไป "เพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์" จนกว่าอิสราเอลจะหยุดปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา
ทางฝั่งกองทัพอิสราเอลระบุในแถลงการณ์ว่ากองกำลังฮูตียิงขีปนาวุธไปที่อิสราเอล ส่งผลให้มีเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ ก่อนที่จะถูกสกัดกั้น ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
บางแหล่งข่าวชี้ว่าอิหร่านเป็นผู้นำ'ของเล่นชิ้นใหม่'ให้ฮูตีซึ่งเป็นพันธมิตรดีที่สุดในปัจจุบันในการร่วมต่อต้านอิสราเอล
ขีปนาวุธลูกนี้มีรูปร่างและวิถีที่แตกต่างไปจากขีปนาวุธเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยทิ้งรอยควันหนาไว้คล้ายกับขีปนาวุธร่อนหรือขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง หากถูกการสกัดกั้นสำเร็จ จะก่อให้เกิดแสงสว่างวาบและการระเบิดแบบแปลกประหลาด
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้กองกำลังฮูตีในเยเมนหลังจากถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 กลุ่มฮูตีได้โจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธและโดรนหลายครั้งเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อม กลุ่มฮูตีซึ่งควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือของเยเมนส่วนใหญ่ได้จัดแนวทางการเมืองและการทหารร่วมกับชาวปาเลสไตน์ในระหว่างที่อิสราเอลและฮามาสยังคงมีความขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่อง
เพื่อตอบโต้การโจมตีดังกล่าว อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในพื้นที่ที่กลุ่มฮูตียึดครองในเยเมน โดยเจ้าหน้าที่ของเอเมนระบุพื้นที่ที่ถูกโจมตี ได้แก่ โรงงานด้านพลังงานและสถานที่ทางทหารส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและมีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย






















