เขมรแตกคอกลางโซเชียล! ฮุนเซนโดนแฉยับ อัดเสียงย้อนหลังไว้เล่นงานคนในเอง ชาวเน็ตลั่น “มันชินแล้ว!”
สวัสดีครับ วันนี้ผมมีคลิปมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังครับ
เป็นเรื่องร้อน ๆ จากกัมพูชา ที่ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่า “แตกหัก!”
เพราะอดีตผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลอย่าง “ฮุนเซน”
กำลังถูกลากไส้ออกมากลางโซเชียล
ด้วยข้อหา… “อัดเสียงไว้เล่นงานคนรอบตัว!”
ใช่ครับ ฟังไม่ผิด!
ฮุนเซนเองนั่นแหละ อดีตนายกฯ ผู้เคยครองอำนาจยาวนานที่สุดในภูมิภาค
ตอนนี้โดนแฉโดยคนในพรรคตัวเอง ว่าแอบอัดเสียงการประชุมเกือบทุกครั้ง
ไม่ใช่เพื่อความโปร่งใส
แต่เพื่อเก็บไว้ “มัดตัว” คนที่คิดต่างหรืออาจเป็นภัยในอนาคต
“อัดไว้หมด เล่นทีหลัง”… นี่มันพล็อตหนังสายลับหรือของจริง?
หลายคนฟังแล้วก็อึ้ง เพราะสิ่งที่ควรเป็นการประชุมลับภายในพรรค
กลับกลายเป็นว่า ฮุนเซนอัดไว้หมด!
มีเสียง มีภาพ มีรายละเอียดทุกอย่าง
รอวัน “เปิดย้อนหลัง” เล่นงานฝ่ายตรงข้ามหรือแม้แต่คนในพรรคตัวเอง
ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก
แต่เป็น “นิสัยที่ทำจนชิน”
เพราะมีหลายกรณีก่อนหน้านี้ ที่ฝ่ายค้านหรืออดีตเพื่อนร่วมอุดมการณ์
โดนลากเข้าสู่คดีด้วยหลักฐานจาก “ห้องประชุม” หรือ “บทสนทนาส่วนตัว”
ที่ไม่มีใครรู้ว่าฮุนเซนบันทึกไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
คอมเมนต์เขมรเดือด! ด่าแหลกกลางโซเชียล
หลังเรื่องนี้ถูกแชร์ออกมา เสียงวิจารณ์จากชาวกัมพูชาก็โหมกระหน่ำ
หลายคนถึงกับบอกว่า “ไม่ใช่ผู้นำแล้ว มันคือสายลับเงา”
บางคอมเมนต์ลั่นว่า
“ไม่แปลกใจเลย ทำจนเป็นนิสัย ใครอยู่กับมันไม่มีวันปลอดภัย!”
อีกคนแซะแรงว่า
“ประเทศนี้ไม่ได้ปกครองด้วยกฎหมาย แต่ด้วยเทปบันทึกเสียง”
มีคนเปรียบเทียบว่า
“คนอื่นเขาใช้การประชุมเพื่อพัฒนาแผนงาน แต่นี่ใช้เพื่อซ้อนดาบแทงคนเอง”
ภาพจำเปลี่ยน... จากผู้นำสู่ “คนหน้าไหว้หลังหลอก”
ความเชื่อมั่นในตัวฮุนเซนกำลังพังทลาย
จากเดิมที่เคยมีภาพลักษณ์เป็นผู้นำผู้กล้า
กลับกลายเป็น “คนที่ไม่เชื่อใจใครเลย” แม้แต่ลูกพรรคตัวเอง
ชาวกัมพูชาหลายคนเริ่มย้อนนึกถึงเรื่องราวในอดีต
ว่าเหตุใดเพื่อนร่วมพรรคหลายคนถึง “หายไป”
ทำไมฝ่ายค้านถึงโดนคดีติดคุกแบบมีเงื่อนงำ
และทำไมถึงมีแต่ “คนในเงียบ” ไม่กล้าออกมาแย้งแม้จะรู้ว่าอะไรผิด
ตอนนี้คำตอบเริ่มชัดแล้ว…
เพราะใครพูดอะไรไว้ มีเทปหมด!
วิกฤตศรัทธาเริ่มแรง... คำถามเดียว “เรายังไว้ใจเขาได้อีกไหม?”
หนึ่งในคอมเมนต์ที่แรงที่สุด คือคำถามง่าย ๆ
“เราจะเชื่อใจผู้นำที่ไม่เคยเชื่อใจใครได้ยังไง?”
มีชาวเน็ตบางคนถึงขั้นย้อนถามแรง ๆ ว่า
“หรือแท้จริงแล้วเราแค่ถูกปกครองด้วยคนที่กลัวการสูญเสียอำนาจ?”
ในขณะที่คนรุ่นใหม่ก็เริ่มตั้งคำถามว่า
จะสืบทอดกันไปอีกกี่รุ่น? จะยึดอำนาจกันอีกกี่ปี?
เพราะแม้ตอนนี้ฮุนเซนจะลงจากตำแหน่งแล้ว
แต่ยังมีอิทธิพลเบื้องหลังรัฐบาลลูกชายอยู่แบบเต็มตัว
ประเทศที่เต็มไปด้วยเทปบันทึก แต่ไม่มีเสรีภาพ
นี่คือสิ่งที่คนเขมรกำลังเริ่มรู้สึก
ประเทศที่มีกล้อง มียุทธศาสตร์ มีคำปราศรัยสวยหรู
แต่ไม่มีพื้นที่ให้ “คนธรรมดา” พูดได้เต็มปาก
ไม่มีเวทีให้คนคิดเห็นต่างโดยไม่เสี่ยงติดคุก
ไม่มีเสรีภาพในการตรวจสอบผู้นำ
เพราะใครที่ตรวจสอบ…จะถูกย้อนเล่นด้วยเสียงของตัวเอง!
ทิ้งท้ายแบบคนดูคลิปแล้วรู้สึก
ผมดูเรื่องนี้จบแล้วรู้สึกเหมือนดูหนังสายลับมากกว่า
แต่ไม่ใช่หนังที่มันส์… เป็นหนังที่น่าหดหู่
เพราะมันสะท้อนว่า ถ้าประเทศใด
ผู้นำไม่เชื่อใจประชาชน
และประชาชนไม่เชื่อใจผู้นำ
สุดท้ายแล้ว “ใครก็ไม่มีวันปลอดภัย”
เพื่อน ๆ ล่ะครับ คิดยังไงกับเรื่องนี้?
ถ้าผู้นำในประเทศของเราเองอัดเสียงประชุมไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมหรือเล่นงานฝ่ายตรงข้ามในอนาคต...
เรายังเชื่อใจเขาได้ไหม?
แชร์มุมมองกันได้เต็มที่ครับ สำหรับวันนี้ ผมขอลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ






















