ยูเครนประกาศถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทุ่นระเบิดแล้ว
วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] รัฐบาลยูเครน ได้ออกมาประกาศถอนตัวอย่างเป็นทางการ จากอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล หรือ ที่เรียกว่า "สนธิสัญญาออตตาวา" โดยกล่าวว่า "อนุสัญญาดังกล่าวไม่สามารถรับมือกับการกระทำก้าวร้าว ของรัสเซียในปัจจุบันได้อีกต่อไปแล้ว!!" และ "ยังทำให้ยูเครนเสียเปรียบในสนามรบด้วย"
กระทรวงการต่างประเทศของยูเครน เน้นย้ำว่า "นี่คือการตัดสินใจทางการเมือง ที่ยากแต่จำเป็น" และ "ความมั่นคงของชาติและการอยู่รอดของประชาชน จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในอนาคต"
กระทรวงการต่างประเทศของยูเครน ชี้ให้เห็นว่า "ถึงแม้ว่ายูเครนจะปฏิบัติตามบทบัญญัติทั้งหมด ของสนธิสัญญาออตตาวา ตั้งแต่ให้สัตยาบันในปี 2005 แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ด้วยการรุกรานทางทหารของรัสเซีย ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งรัสเซียก็ได้ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ในปริมาณมากต่อยูเครนเช่นกัน"
กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า "นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022 รัสเซียได้ใช้ทุ่นระเบิดจำนวนมากกับเขา ทำให้พวกเขามีข้อได้เปรียบที่ไม่สมดุลในสนามรบ เราไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์เช่นนี้ได้ เมื่อเราลงนามในอนุสัญญา"
กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า "รัสเซียไม่ได้เป็นผู้ลงนามในสนธิสัญญาออตตาวา จึงไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดใดๆ ในขณะที่ยูเครนถูกจำกัด ส่งผลให้ความสามารถในการป้องกันตนเอง ของยูเครนอ่อนแอลง สถานการณ์ที่ไม่เท่าเทียมกันนี้ ได้ละเมิดสิทธิในการป้องกันตนเอง ที่รับประกันโดยมาตรา 51 ของ กฎบัตรสหประชาชาติอย่างชัดเจน"
ภายใต้การรุกรานอย่างต่อเนื่องของรัสเซีย ไม่เพียงแต่ยูเครนเท่านั้น แต่รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลัตเวีย ลิทัวเนีย เอสโตเนีย โปแลนด์ และ ฟินแลนด์ ก็ได้ตรวจสอบจุดยืนของตนอีกครั้ง และ ในที่สุดก็ตัดสินใจ ถอนตัวร่วมกันจากอนุสัญญา...
กระทรวงการต่างประเทศ เน้นย้ำว่า "เมื่อเผชิญกับการรุกราน และ การกระทำอันโหดร้ายของรัสเซียต่อพลเรือน เราจะต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องดินแดน ประชาชน และ อำนาจอธิปไตยของเราเป็นอันดับแรก ดังนั้น เราจึงตัดสินใจที่จะหยุดปฏิบัติตามพันธกรณี ระหว่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับสถานะปัจจุบัน" และ "การตัดสินใจครั้งนี้มีความสมส่วน สอดคล้องกับระดับภัยคุกคามในปัจจุบัน และ ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่าประเทศ จะอยู่รอดและมีอิสรภาพ"





















