อาลัย “ครูบาพัน” พระเกจิดัง มรณภาพแล้ว หลังหายตัวลึกลับ 3 วัน
ชาวบ้านร่ำไห้อาลัย “ครูบาพัน” เจ้าอาวาสวัดพระธาตุห้วยตอง พลัดตกเหวลึกมรณภาพ – พระเกจิผู้มุ่งมั่นปลูกป่า สืบศรัทธาแห่งดอยแม่วาง
เชียงใหม่ – ความเศร้าโศกแผ่ปกคลุมดอยแม่วาง เมื่อชาวบ้าน ญาติ และศิษยานุศิษย์ร่วมไว้อาลัยอย่างสุดซึ้ง หลังการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ ครูบาพัน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุห้วยตอง ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพลัดตกลงไปในเหวลึกบริเวณป่าลึกใกล้วัด และมรณภาพในสภาพเงียบงันตามลำพัง
เหตุการณ์สะเทือนใจนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่วาง พร้อมหน่วยกู้ภัย และชาวบ้านในพื้นที่ ได้ระดมกำลังออกค้นหาร่างของครูบาพันหลังได้รับแจ้งจากลูกศิษย์ว่าไม่พบตัวท่านเป็นเวลาหลายวัน กระทั่งมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ออกไปหาของป่าเป็นผู้ค้นพบร่างของครูบาฯ อยู่บริเวณก้นเหวในป่าลึก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแนวเขตของวัดพระธาตุห้วยตอง
ค้นหาหลายวัน ก่อนพบร่างครูบาฯ
การค้นหาครูบาพันเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ลูกศิษย์และพระลูกวัดสังเกตว่าท่านหายตัวไปจากวัดนานผิดปกติ โดยไม่มีใครพบเห็นครูบาพันตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ท่านปรากฏตัวในการเดินทางไปร่วมงานทอดผ้าป่าที่วัดใกล้เคียง
พระลูกวัดและญาติพี่น้องเริ่มระแวงเมื่อไม่พบครูบาฯ กลับมาที่วัดตามเวลาปกติ และจากการตรวจสอบบริเวณเชิงเขาซึ่งเป็นจุดที่ท่านมักใช้เป็นสถานที่ปลูกต้นไม้ ก็พบเพียง จอบเล่มประจำตัวของครูบาฯ วางตกอยู่ริมเหว ห่างจากวัดเพียงเล็กน้อย
ด้วยความกังวลว่าอาจเกิดเหตุร้าย ชาวบ้านจึงเริ่มต้นการค้นหาอย่างจริงจังตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 26 มิถุนายน จนในที่สุดพบร่างของครูบาพันนอนแน่นิ่งอยู่ที่ก้นเหวลึก สภาพไม่ตอบสนองใด ๆ คาดว่าท่านมรณภาพมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน สอดคล้องกับข้อมูลที่ระบุว่าท่านหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน
กู้ร่างขึ้นจากเหวกลางป่าลึก ประกอบพิธีกรรมตามศาสนา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้ความพยายามอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงในการเคลื่อนย้ายร่างของครูบาพันขึ้นจากจุดที่ลึกและลาดชันของป่าเขา โดยมีชาวบ้านและลูกศิษย์ร่วมช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ขบวนกู้ร่างเคลื่อนลงมาด้วยความเคารพและเศร้าสลด ท่ามกลางเสียงสวดมนต์และน้ำตาของผู้ศรัทธาที่ทยอยเดินทางมาจากหลายพื้นที่
ทันทีที่ร่างของครูบาฯ ถูกนำกลับมาที่วัด พระสงฆ์และญาติโยมในชุมชนต่างก็พร้อมใจกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างสมเกียรติ มีการจุดธูปบูชา ตั้งโต๊ะสวดอภิธรรม และมีการตั้งศพครูบาพัน ณ ศาลาวัดพระธาตุห้วยตอง
ครูบาพัน: พระเกจิผู้สมถะ ศรัทธาแน่วแน่ในธรรมะและธรรมชาติ
ครูบาพันเป็นพระสงฆ์ผู้มีอายุราว 70 ปี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวบ้านในอำเภอแม่วาง รวมถึงชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบ ท่านเป็นพระเกจิที่ได้รับความเคารพศรัทธาไม่เฉพาะในฐานะผู้นำทางธรรม แต่ยังเป็นผู้นำด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชนอีกด้วย
ด้วยความมุ่งมั่น ท่านได้ริเริ่มปลูกป่ารอบวัดมานานนับสิบปี โดยเฉพาะในพื้นที่เชิงเขาและแนวเหวซึ่งเคยเป็นพื้นที่โล่ง ท่านมักกล่าวอยู่เสมอว่า “ต้นไม้ก็คือธรรมะในอีกรูปแบบหนึ่ง” ทุกเช้าท่านจะถือจอบเดินขึ้นเขา ปลูกต้นไม้ และรดน้ำต้นไม้ด้วยตนเอง แม้ในวัยชรา ท่านก็ยังไม่หยุดกิจกรรมนี้
ชาวบ้านต่างยกย่องให้ครูบาพันเป็น “ครูแห่งผืนป่า” และมักกล่าวถึงท่านด้วยความเคารพยิ่ง เพราะท่านไม่ได้สอนเพียงธรรมะจากพระไตรปิฎก แต่ยังสอนด้วยการกระทำจริง และใช้ชีวิตอย่างสมถะ ไม่ยึดติดในลาภยศ
เสียงสะท้อนจากลูกศิษย์และชาวบ้าน
หนึ่งในลูกศิษย์ของครูบาพันกล่าวด้วยน้ำตาคลอว่า “ครูบาเป็นเสมือนพ่อของชุมชน ท่านไม่เคยยอมให้อะไรสูญเปล่า ทุกใบไม้ทุกต้นหญ้า ท่านสอนว่าเราควรดูแลเพราะมันคือชีวิต วันนี้พวกเราสูญเสียครูคนสำคัญไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ”
ชาวบ้านคนหนึ่งที่ร่วมกู้ร่างครูบาฯ บอกว่า “ตอนเดินป่าเพื่อค้นหา มีลางสังหรณ์บางอย่างเหมือนท่านพาเราไปเจอ พอเจอร่างครูบา น้ำตาผมไหลทันที เพราะคิดถึงคำสอนของท่านที่ยังดังก้องในใจเสมอ”
บทเรียนจากการสูญเสีย: ภารกิจที่ยังต้องสานต่อ
การจากไปของครูบาพันไม่ใช่เพียงการสูญเสียทางกายภาพ แต่เป็นการสูญเสียผู้นำจิตวิญญาณของชุมชนอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ศิษยานุศิษย์ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า จะขอสานต่อภารกิจของครูบาฯ ต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการดูแลป่าไม้และธรรมชาติ
พระลูกวัดเปิดเผยว่า ขณะนี้มีการวางแผนจัดตั้ง “โครงการป่าธรรมะตามรอยครูบาพัน” เพื่อรักษาป่าในบริเวณวัดพระธาตุห้วยตองและพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมตั้งเป้าให้พื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการปฏิบัติธรรมในอนาคต
ครูบาพัน – ผู้จากไปแต่ไม่จางหายจากใจคน
แม้ครูบาพันจะจากไปอย่างกะทันหันและเศร้าสลด แต่สิ่งที่ท่านได้ฝากไว้ยังคงฝังแน่นในใจผู้คน นั่นคือคำสอนที่เรียบง่าย ความเมตตา ความเสียสละ และการใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายเพื่อผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อสิ่งตอบแทน
ในวันที่ท้องฟ้าดอยแม่วางยังคลุมด้วยเมฆหมอกแห่งความเศร้า เสียงระฆังในวัดพระธาตุห้วยตองยังคงดังกังวาน เพื่อบอกกล่าวแก่ทุกชีวิตว่า... ครูบาพัน พระผู้ปลูกต้นไม้ด้วยใจ ได้กลับคืนสู่ธรรมชาติที่ท่านรักอย่างแท้จริง





















