ประสบการณ์แปลกของไรเดอร์ สาวไม่มีเงินจ่ายค่าส่งขอจ่ายเป็นเซ็กส์

หญิงวัย 23 เรียกไรเดอร์ส่งที่หอแต่ไม่มีเงินจ่าย เสนอมีเพศสัมพันธ์แลกค่าบริการ – ไรเดอร์ปฏิเสธ พร้อมแจ้งตำรวจ ยายเผยหลานมีประวัติใช้ยา อาการทางจิตยังไม่หาย

เมื่อวันที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่สะท้อนถึงปัญหาซับซ้อนในสังคม ทั้งเรื่องความยากจน ความเปราะบางทางจิตใจ และผลกระทบจากยาเสพติด เมื่อหญิงสาววัย 23 ปี เรียกไรเดอร์ให้ไปส่งที่หอพัก แต่กลับไม่มีเงินจ่ายค่าบริการเพียง 40 บาท และเสนอขอมีเพศสัมพันธ์แทนค่าโดยสาร สร้างความตกใจให้กับไรเดอร์หนุ่มผู้ให้บริการเป็นอย่างมาก

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ ลัดดาวัลย์ รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากไรเดอร์รายหนึ่งว่า ลูกค้าหญิงที่ตนรับส่ง ไม่ยอมจ่ายเงิน และพยายามชักชวนตนเข้าไปในห้องพัก โดยมีข้อเสนอว่าหากยอมหลับนอนด้วย จะยกเว้นค่าโดยสาร

รายละเอียดเหตุการณ์จากคำให้การของไรเดอร์

ผู้แจ้งเหตุคือ นายนราวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี เป็นไรเดอร์ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปฯ เปิดเผยว่า ตนได้รับการเรียกจากหญิงสาวรายหนึ่ง ให้ไปรับจากซอยประชาสันติมาส่งยังหอพักในซอยกำนัน โดยคิดค่าโดยสารเพียง 40 บาท เมื่อถึงที่หมาย หญิงคนดังกล่าวกลับบอกว่าไม่มีเงิน และได้เสนอขอมีเพศสัมพันธ์แลกกับค่ารถ

"ตอนแรกก็แปลกใจ เพราะระหว่างทางก็เห็นเขาพูดคนเดียว เหมือนคุยกับใครอยู่ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอถึงที่หมาย เขาบอกไม่มีเงิน แล้วก็พูดตรงๆ ว่าจะให้ไปมีอะไรกันเพื่อแลกค่ารถ ผมปฏิเสธทันที และบอกว่าถ้าไม่จ่าย จะเรียกตำรวจ เขาก็เดินเข้าหอไป ส่งข้อความมาชวนอีก แต่ผมไม่ไป"

นายนราวิชญ์เผยต่อว่า เคยรับหญิงสาวรายนี้มาแล้วสองครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งก็มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินทั้งสองครั้ง แต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้

"ตอนนี้เศรษฐกิจก็ไม่ดีอยู่แล้ว งานก็เหนื่อย พอมาเจอแบบนี้มันไม่ไหวจริงๆ อยากให้สังคมเห็นใจไรเดอร์บ้าง"

มีชายเจ้าของห้องโผล่มาเคลียร์เงินให้

หลังจากเกิดเรื่อง มีชายคนหนึ่งเดินออกจากห้องพัก และเป็นผู้จ่ายเงินค่าโดยสารให้กับไรเดอร์ เขาคือนายบี (นามสมมติ) อายุ 29 ปี เจ้าของห้องพักที่หญิงสาวรายดังกล่าวเข้าไปอยู่ด้วย โดยเจ้าตัวให้การว่าไม่รู้จักหญิงคนนี้เป็นการส่วนตัว

"ผมไม่รู้จักเธอเลย เห็นมาเคาะห้องบ่อย ๆ ก่อนหน้านี้รู้ว่าเขารู้จักไรเดอร์อีกคนหนึ่งในหอ นาน ๆ ทีจะโผล่มา พอวันนี้มาเห็นเขาแล้วก็สงสาร เพราะไม่มีใครช่วย เลยจ่ายค่ารถให้ แต่ผมไม่อนุญาตให้เขาเข้าห้องนะ เขาเดินเข้ามาเองเลย ผมมีเมียแล้ว เมียกำลังท้องอยู่ที่หนองคาย ผมไม่อยากมีปัญหา"

ฝ่ายหญิงให้การวกวน อ้างแค่ชวน "มาเล่นด้วยกัน"

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามหญิงสาว น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี กลับให้การวกไปวนมาว่า ตนไม่ได้ตั้งใจไม่จ่ายเงิน แต่แค่เดินไปขอเงินจากพี่ผู้ชายที่รู้จักเพื่อให้ช่วยโอนให้ และอ้างว่าไม่ได้เสนอมีเพศสัมพันธ์ เพียงแต่ชวนเข้าไปในห้อง "เล่นด้วยกัน" เท่านั้น

"เราเป็นคนอัธยาศัยดี ก็แค่ชวนพี่เขามาเล่นด้วยกันเฉย ๆ เพราะเราโสด ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้ง เฟซก็ไม่ค่อยเล่น เบอร์เพื่อนก็หายหมด เพราะรีเซ็ตเครื่อง ก็แค่อยากหาเพื่อนคุย"

เมื่อถูกถามเรื่องยาเสพติด น.ส.เอ ปฏิเสธว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือชวนใครมาเสพยา

ยายเปิดใจ หลานสาวมีประวัติใช้ยาเสพติด อาการทางจิตไม่ดี

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.เอ ไปยังหอพักที่ตนพักอาศัยอยู่เพื่อสอบถามเพิ่มเติม พบหญิงชราวัยประมาณ 60 ปี ซึ่งเป็นยายของ น.ส.เอ เปิดเผยว่า หลานสาวเคยมีประวัติใช้ยาเสพติดจนมีอาการทางจิตเวช ต้องพาไปรักษาแล้ว 1 ครั้ง แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น

"ตอนนี้เขามาอาศัยอยู่กับเรา 3 คน มีตา ยาย และหลาน พ่อเขาอยู่โคราช ส่วนแม่ติดคุกคดียาเสพติด หลานเคยไปอยู่กับญาติที่โคราช แต่ก็กลับมาอยู่กับเราอีก ตลอดวันนี้ก็มาขอเงินอยู่หลายรอบ บอกจะเอาไปนั่งรถกับไรเดอร์ บอกก็แล้วว่าไม่มีเงินก็อย่าไป เขาก็ยังทำอีก"

ยายของ น.ส.เอ กล่าวต่อว่า อยากให้ตำรวจช่วยพาหลานไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการทางจิตอีกครั้ง เพราะรู้สึกเป็นห่วงมาก และไม่รู้จะจัดการอย่างไรแล้ว

วิเคราะห์ประเด็น: เมื่อสังคมไทยกำลังป่วยด้วยปัจจัยซ้อนซับ

กรณีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องไรเดอร์ถูกเบี้ยวค่าโดยสาร หรือเรื่องหญิงสาวเสนอเพศสัมพันธ์แลกกับค่าบริการเท่านั้น แต่สะท้อนถึงหลายประเด็นที่ควรตั้งคำถาม:

1. ระบบคัดกรองผู้ป่วยจิตเวชในชุมชนมีประสิทธิภาพหรือไม่?

น.ส.เอ มีประวัติเคยรักษาอาการทางจิตเวช แต่ไม่มีระบบติดตามหรือฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลับมาใช้ชีวิตปกติในสังคมโดยไม่มีการดูแล ทั้งที่มีพฤติกรรมเสี่ยง

2. ผลกระทบจากครอบครัวที่เปราะบาง

พ่อไม่อยู่ แม่ติดคุก พื้นฐานครอบครัวที่ล้มเหลวและขาดเสาหลัก เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลให้หญิงสาวรายนี้ไม่มีหลักยึด ไม่มีการศึกษาเรื่องคุณค่าของตนเอง และเข้าสู่วงจรเสี่ยง

3. ไรเดอร์ – อาชีพที่ถูกมองข้าม

ไรเดอร์ในไทยจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญความเสี่ยงหลากหลาย ทั้งอุบัติเหตุ โดนโกง โดนลวนลาม หรือแม้กระทั่งกรณีที่ต้องเผชิญข้อเสนอทางเพศแบบไม่เต็มใจ ซึ่งไม่มีการคุ้มครองหรือให้ความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอุดรธานีครั้งนี้ เป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนถึงความซับซ้อนของปัญหาสังคมไทย ตั้งแต่ยาเสพติด ความยากจน ความเจ็บป่วยทางจิต การขาดความเข้าใจในสิทธิมนุษยชน และระบบสวัสดิการที่ยังไม่ครอบคลุมคนชายขอบ

หากไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจังในระดับโครงสร้าง สังคมอาจต้องเผชิญกับกรณีคล้ายกันนี้อีกครั้งแล้วครั้งเล่า

 “ความเมตตาและความเข้าใจต้องมาพร้อมกับกฎหมายและการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ”