หมอของขวัญ ประกาศจ้าง ดิว อริสราไลฟ์ 1 ล้าน! แต่มีข้อแม้
จากน้ำตาสู่โอกาส: "หมอของขวัญ" ประกาศจ้าง “ดิว อริสรา” ไลฟ์สด 1 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไข! – ดราม่า 7 ล้านค่าสร้อยยังไม่จบ
กลายเป็นอีกหนึ่งดราม่าที่กำลังร้อนแรงที่สุดในโลกโซเชียล เมื่อ “ดิว อริสรา” นักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้ออกมาไลฟ์สดเปิดใจครั้งแรกหลังตกเป็นข่าวเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ลูกโซ่ และกรณีหนี้สินที่เป็นประเด็นในสังคม โดยเจ้าตัวออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า "ขอโทษจากใจจริง" และจะคืนเงินทุกบาททุกสตางค์ให้เจ้าหนี้ พร้อมประกาศว่าเธอเป็น "ตัวตนใหม่" และกำลังเตรียมกลับประเทศไทยเพื่อเคลียร์ปัญหาทั้งหมด
แต่ในขณะที่โลกออนไลน์เริ่มสงสารและให้กำลังใจเธอ เสียงจากอีกด้านหนึ่งกลับไม่เงียบเช่นกัน โดยเฉพาะ “หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์” บุคคลสาธารณะชื่อดังในโลกความงามและวงการแพทย์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวทันทีหลังไลฟ์ดังกล่าวจบลง ด้วยการโพสต์ถึงดิวแบบตรงไปตรงมาในสไตล์ของเธอ พร้อมตั้งคำถามถึง “ความจริงใจ” ในการใช้หนี้ที่เธอพูดถึง
"7 ล้านค่าสร้อยงู ยังไม่จ่ายนะคะ!" – หมอของขวัญโพสต์เดือด หลังดูไลฟ์
หมอของขวัญโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัวทันทีหลังจบไลฟ์ของดิวว่า
“7 ล้านค่าสร้อยงูยังไม่ได้จ่ายนะ ตะ ข่าวมัว... แล้วที่ไลฟ์ขอโอกาสทำงานใช้หนี้... โอกาสอยู่ตรงนี้ มาค่ะ พร้อมจ้าง แต่ช่วยตอบแชทด้วย ดูลูกหนี้แบบเซนนารา พร้อมทำทุกงานเพื่อคืนเจ้าหนี้นะ ถึงจะเชื่อ!”
ข้อความดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก พร้อมทั้งแชร์ต่อและแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยบางคนเห็นด้วยกับหมอของขวัญที่กล้าพูดตรง และยกให้เป็น “คนจริง” ที่ไม่หลงไปกับภาพน้ำตา ขณะที่บางกลุ่มยังคงเห็นใจดิวที่กล้าออกมายอมรับผิดและพร้อมจะเริ่มต้นใหม่
"ประกาศจ้างดิว ไลฟ์ขายของ 1 ล้านบาท!" – แต่เงินจะโอนตรงไปเคลียร์หนี้
ไฮไลต์สำคัญอยู่ตรงที่หมอของขวัญไม่ได้แค่โพสต์ด่า แต่ยังเสนอ “โอกาสทำงาน” ให้ดิวด้วยเช่นกัน โดยประกาศแบบชัดเจนว่า พร้อมจ้างดิวไลฟ์ขายของ 1 ล้านบาท!
แต่มีเงื่อนไขว่า
“ขอจ่ายเงินตรงให้ ‘เมย์ วาสนา’ เพื่อเคลียร์หนี้เท่านั้น เพราะอยากเห็นความตั้งใจจริง ไม่ใช่แค่คำพูด”
หมอของขวัญยังเสริมว่า ข้อเสนอนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยพลการ แต่ผ่านการพูดคุยกับ “เมย์ วาสนา” แล้วเรียบร้อย และยังโพสต์เสริมอีกว่า
“ก่อนอื่นช่วยตอบแชทชั้นก่อน ถ้าตั้งใจเคลียร์จริง ตอบแชทชั้นด้วยจ้า”
การเคลื่อนไหวนี้จึงกลายเป็นทั้งโอกาสและแรงกดดันให้กับดิว อริสราไปในตัว เพราะการที่มีคนยื่นมือมาช่วยขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เจอบ่อย และในขณะเดียวกันก็เป็นบทพิสูจน์ต่อหน้าสังคมว่า “เธอจะเลือกเดินอย่างไรต่อจากนี้?”
ย้อนรอยคดีหนี้ – เส้นทางที่ไม่ง่ายของ “ดิว”
กรณีของ “ดิว อริสรา” เริ่มต้นจากการถูกเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ลูกโซ่ชื่อดังที่สร้างความเสียหายให้กับผู้คนจำนวนมาก โดยมีการกล่าวอ้างว่าเธอและคนใกล้ชิดมีส่วนรู้เห็นและมีหนี้สินร่วมอยู่ในระบบเครือข่ายนั้นด้วย แม้ว่าในทางกฎหมาย เธอยังไม่ได้รับการตัดสินว่าผิด แต่กระแสสังคมกลับไม่รอให้ศาลชี้ขาด หลายคนเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใส และความรับผิดชอบของเธอในฐานะบุคคลสาธารณะ
ในการไลฟ์สดล่าสุด ดิวบอกว่าเธอ “เสียใจอย่างที่สุด” และสำนึกในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมบอกว่าการออกมาไลฟ์วันนี้ไม่ใช่เพื่อเรียกคะแนนสงสาร แต่อยากพูดความจริงและแสดงความรับผิดชอบ โดยกล่าวว่า
ทุกคนไม่ต้องกังวล เรื่องเงินทุกบาททุกสตางค์ ดิฉันตั้งใจจะคืนทั้งหมด ไม่หนี ไม่หาย และกำลังจะกลับไทยเพื่อเคลียร์ทุกอย่าง”
แต่ประโยคที่ว่า “ไม่หาย” กลับถูกโต้กลับด้วยข้อเท็จจริงว่า เจ้าหนี้หลายคน—including หมอของขวัญ—ยืนยันว่า “ติดต่อไม่ได้” และ “ไม่ตอบแชท” มาระยะหนึ่งแล้ว
เสียงจากสังคม: โอกาส หรือ ภาพลวงตา?
แม้จะมีเสียงสนับสนุนจากผู้ชมบางกลุ่มที่มองว่า “ทุกคนสมควรได้รับโอกาส” และชื่นชมหมอของขวัญที่ยังเปิดพื้นที่ให้ดิวได้เริ่มต้นใหม่ แต่ก็มีไม่น้อยที่ตั้งคำถามว่า การออกมาไลฟ์พร้อมน้ำตา เป็นเพียง “แผนเรียกคะแนน” หรือเปล่า?
ชาวเน็ตหลายคนแสดงความคิดเห็นว่า “การขอโทษต้องมาพร้อมการกระทำ ไม่ใช่แค่พูดแล้วให้คนเห็นใจ”
“อยากให้สังคมสนับสนุนคนที่ตั้งใจคืนหนี้จริงๆ ไม่ใช่คนที่แค่พูดเก่ง”
“ดีใจที่หมอของขวัญพูดตรงๆ กล้าให้โอกาส แต่มีเงื่อนไขชัดเจน นี่แหละแฟร์สุด”
น้ำตายังไม่พอ “ความรับผิดชอบ” คือคำตอบ
ในยุคที่สังคมออนไลน์มีพลังมากกว่าที่เคย ดราม่าระหว่าง “ลูกหนี้” กับ “เจ้าหนี้” ไม่ได้จบแค่ในห้องประชุมหรือศาลอีกต่อไป แต่กลายเป็นกระจกสะท้อนพฤติกรรมของผู้คนต่อสาธารณะ
กรณีของ “ดิว อริสรา” กับ “หมอของขวัญ” จึงไม่ใช่แค่เรื่องเงิน 7 ล้าน หรือค่าจ้าง 1 ล้านที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่มันคือเรื่องของ “ความไว้วางใจ” และ “ความรับผิดชอบ” ที่คนในสังคมกำลังจับตา ว่าเมื่อมีโอกาสเข้ามาเคาะถึงหน้าประตูแล้ว เธอจะคว้ามันไว้ได้หรือไม่?
คุณคิดเห็นอย่างไรกับข้อเสนอของหมอของขวัญ? ดิวควรรับงานนี้ไหม?
📢 ร่วมแสดงความเห็น และแชร์เรื่องนี้ให้เพื่อนๆ ได้อ่าน! เพราะสังคมกำลังรอฟังคำตอบจาก “ดิวอริสรา” คนใหม่...





















