เขมรเดือด! หมอผีจัดพิธีโหงพราย ล็อกเป้า 3 บิ๊กไทย หวังสะเทือนวงการ
หมอผีเขมรทำพิธี “โหงพรายอาถรรพ์” สาป 3 บิ๊กไทย! วงการไสยศาสตร์ระอุ โซเชียลเดือด ซัด “ของต่ำ” ทำอะไร “คนจริง” ไม่ได้!
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ทันที เมื่อเพจหนึ่งในกัมพูชาได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดหลอน แสดงให้เห็นถึงพิธีกรรมอาถรรพ์ของ “หมอผีเขมร” ที่อ้างว่ากำลังทำพิธีปลุก “โหงพราย” หรือวิญญาณอาฆาต เพื่อส่งคำสาปเล่นงานบุคคลสำคัญฝั่งไทยถึง 3 ราย ได้แก่ แม่ทัพภาคที่ 2, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, และ พลตำรวจเอก เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส
แม้หลายคนจะมองว่านี่เป็นเรื่องเหลวไหล เหมือนหลุดมาจากนิยายไสยศาสตร์ แต่ในบางกลุ่มที่ยังมีความเชื่อในเรื่องพลังลึกลับ มนต์ดำ และเวทวิชา กลับมองว่าพิธีกรรมนี้อาจไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการกล่าวถึง “โหงพราย” ซึ่งในโลกของไสยศาสตร์ถือเป็นหนึ่งใน “ของแรง” ที่ไม่ควรดูแคลน
🔥 พิธีปลุก “โหงพราย” อาถรรพ์ – แค่ภาพก็ขนลุก!
จากคลิปที่หลุดออกมา (ซึ่งขณะนี้ถูกแชร์ออกไปในกลุ่มไสยศาสตร์จำนวนมาก) แสดงให้เห็นพิธีกรรมกลางดึก โดยมีชายแต่งตัวคล้ายหมอผีกำลังใช้ของบูชาอย่างหัวกะโหลก, ดอกไม้, เทียนดำ, และน้ำมันพราย พร้อมสวดมนต์ภาษาท้องถิ่นเขมรผสมภาษาบาลี
มีรายงานว่าหมอผีรายนี้อ้างว่า “ได้รับนิมิตจากวิญญาณที่อยากล้างแค้น” และได้เลือกเป้าหมายเป็นบุคคลสำคัญของไทย โดยเฉพาะ “แม่ทัพภาคที่ 2” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นบุคคลที่หมอผีคนนี้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
“ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถา”
– หนึ่งในบทสวดที่ถูกอ่านในคลิป
👻 โหงพรายคืออะไร? ทำไมถึงน่ากลัวในสายตานักไสยศาสตร์
“โหงพราย” คือหนึ่งในวิญญาณที่ถูกเรียกหรือเชิญมาใช้งานในทางไสยศาสตร์ โดยเฉพาะสาย “อาคมดำ” มีที่มาจากวิญญาณของผู้ตายผิดธรรมชาติ เช่น ตายทั้งกลม, ตายโหง, ตายเพราะอาฆาตแรง เชื่อกันว่าวิญญาณเหล่านี้จะมีพลังอาฆาตแรงสูงมาก
ในตำนานไทยและเขมร “โหงพราย” ถูกนำมาใช้ทั้งเพื่อป้องกันตัว, ทำร้ายศัตรู, หรือแม้กระทั่งใช้ในการทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้า แต่การปลุกโหงพรายนั้นต้องแลกกับสิ่งที่หนักหน่วง เช่น เลือด, วิญญาณ หรือแม้แต่ “บาปกรรม”
ดังนั้นในวงการไสยศาสตร์ การใช้ “โหงพราย” จึงถือเป็น “ของแรง” ที่คนทั่วไปไม่กล้าเล่น
🧘♂️ ฝั่งไทยไม่หวั่น! ชาวเน็ตลั่น “ของต่ำทำอะไรไม่ได้หรอก”
หลังจากคลิปดังกล่าวถูกแชร์มายังโลกโซเชียลของไทย ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง หลายคนมองว่าพิธีกรรมนี้เป็นเรื่องตลก และพยายาม “สร้างกระแส” หรือ “ปั่นดราม่า” มากกว่าเจตนาไสยศาสตร์จริงจัง
“ขำแรง! ถ้าได้จริง บ้านเขาคงเป็นมหาอำนาจโลกไปแล้ว”
“ไม่ต้องกลัวครับท่านแม่ทัพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเราคุ้มครองอยู่แล้ว”
“ของต่ำแบบนี้ สู้ ‘ตราแผ่นดิน’ ไม่ได้หรอก!”
บางความเห็นถึงกับเสนอว่า “ตั้งกระทรวงเวทมนตร์” เพื่อรับมือไสยศาสตร์ข้ามชาติแบบขำๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนเตือนว่า “อย่าดูแคลนความเชื่อของคนอื่นมากเกินไป” เพราะความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ยังฝังรากลึกในหลายสังคม รวมถึงไทยเองก็มีศาสตร์เหล่านี้อยู่ไม่น้อย
🧠 วงการไสยศาสตร์วิเคราะห์ – “หมอผีเขมร” จริงหรือแค่การตลาด?
แม้จะมีคนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นของจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมและศาสตร์ไสยศาสตร์หลายท่านกลับมองว่า อาจมีจุดประสงค์แอบแฝง เช่น
1. เรียกยอดไลก์/ยอดแชร์ในโซเชียลมีเดีย
2. สร้างชื่อเสียงในหมู่นักสะสมของขลัง
3. ทำให้บุคคลในคลิปกลายเป็นหมอผีขลัง เพื่อเรียกศรัทธาและรายได้
ดร.บุญฤทธิ์ นักวิชาการด้านศาสนาและความเชื่อ กล่าวว่า “การใช้โหงพรายในเชิงสื่อมวลชนแบบนี้ ไม่ต่างจากการใช้ภาพลักษณ์ความหลอนเพื่อเรียกร้องความสนใจจากสาธารณะ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางสังคม และไม่เคารพผู้ที่ถูกพาดพิง”
🔥 สะท้อนสังคม: ความเชื่อยังอยู่ แม้โลกจะหมุนไปไกล
แม้ปัจจุบันโลกจะเข้าสู่ยุคดิจิทัลและวิทยาศาสตร์มากขึ้น แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า “ความเชื่อในสิ่งเร้นลับ” ยังฝังแน่นในสังคมจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท และในชุมชนที่ยังยึดโยงกับประเพณีดั้งเดิม
ไสยศาสตร์และพุทธคุณ ยังคงอยู่ในชีวิตของคนจำนวนมากในรูปแบบของการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การใช้วัตถุมงคล หรือแม้กระทั่งพิธีกรรมทางจิต
การเกิดกระแสดราม่าเช่นนี้ จึงควรตั้งคำถามว่า “เราควรให้ความรู้เพื่อเท่าทันไสยศาสตร์” หรือ “ปล่อยให้ความกลัวชักนำจิตใจของผู้คน?”
✨ สรุป: เรื่องจริง หรือเรื่องลวง? แล้วเราจะเชื่ออะไรดี?
ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมจริงหรือแค่การแสดงเพื่อกระแส แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ คนไทยส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นในพลังของ “ความดี ความศรัทธา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายสว่าง” มากกว่าอำนาจของ “ของต่ำ”
และในประเทศที่ยังเต็มไปด้วยความศรัทธาอย่างไทย... คำสาปจากต่างแดน คงไม่มีพลังใดมาสั่นคลอนได้ง่ายๆ
























