หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เพิ่งเริ่มฝันก็พัง! ร้านกัญชาเปิดใหม่เจอประกาศรัฐฯ เหมือนบีบบังคับให้เลิกกิจการ

โพสท์โดย zzz1111

เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการ หลัง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” เสนอให้ “กัญชา” กลับไปเป็นยาเสพติด – เจ้าของร้านเจ็บหนัก สูญกว่า 10 ล้าน วอนรัฐฟังเสียงประชาชนตัวเล็กๆ

กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการธุรกิจและผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศอีกครั้ง เมื่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า “อนาคตกัญชาควรถูกจัดกลับไปเป็นยาเสพติด” พร้อมลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่มีเนื้อหาสาระสำคัญ คือ “ให้ยกเลิกประกาศเดิมปี 2565 และให้ ‘ช่อดอกกัญชา’ เป็นสมุนไพรควบคุม” ซึ่งหมายความว่าการผลิต การจำหน่าย หรือการแปรรูปเพื่อการค้าจะต้องได้รับใบอนุญาตอย่างเข้มงวดภายใต้กฎหมาย และต้องมาจากแหล่งผลิตที่ผ่านการรับรองของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

 

มาตรการใหม่นี้ ยังระบุชัดว่า “ห้ามจำหน่ายกัญชาเพื่อการสูบในสถานประกอบการ” ยกเว้นในกรณีที่ใช้เพื่อการแพทย์ โดยผู้มีวิชาชีพที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งนโยบายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ค้ากัญชารายย่อยจำนวนมากที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ รวมถึงบางรายที่ลงทุนไปนับล้านบาท โดยหวังสร้างรายได้จากสิ่งที่เคยได้รับการประกาศว่าเป็น “พืชเศรษฐกิจใหม่”

 

เสียงจากผู้ได้รับผลกระทบ – "เพิ่งเปิดสาขาใหม่ได้ 2 วัน ก็เจอกฎฟ้าผ่า"

ทีมผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านจำหน่ายกัญชาแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี และได้พบกับ นายทศวรรษ อายุ 25 ปี เจ้าของร้านที่เพิ่งเปิด “สาขาใหม่” ได้เพียง 2 วัน ก่อนจะมีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขออกมา เขาเล่าว่า รู้สึก “เสียหายอย่างหนัก” และ “หมดหนทาง” เพราะเงินที่ลงทุนไปยังไม่ทันได้กำไร ก็ต้องเผชิญกับนโยบายใหม่ที่กระทบกับทั้งระบบ

 “ร้านผมเพิ่งเปิดสาขาใหม่ได้ 2 วัน กู้เงินมาลงทุนก็แสนกว่าบาท ตอนนี้ขายไม่ได้เลย เพราะถ้าฝ่าฝืนก็คือผิดกฎหมายทันที ทั้งๆ ที่ร้านผมมีใบอนุญาตถูกต้องครบหมดแล้ว ผมไม่ได้เสพ ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แค่ขายเพื่อการค้าเท่านั้นเอง”

ไม่เพียงแค่ร้านค้าหน้าร้าน นายทศวรรษยังเปิดเผยว่า ฟาร์มกัญชาของพี่สาว ที่ร่วมลงทุนเพื่อปลูกและจำหน่ายอย่างถูกต้องก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท ในการพัฒนาฟาร์มตามมาตรฐานของรัฐ

 “ฟาร์มของพี่สาวผมเสียหายหนักมาก ลงทุนไปเยอะตามข้อกำหนดของรัฐ เพื่อให้มีมาตรฐานถูกต้องทุกอย่าง แล้วพอรัฐเปลี่ยนนโยบายทันทีโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า มันเหมือนเตะตัดขาผู้ประกอบการรายย่อยแบบผมเลยครับ”

 

เสียงเรียกร้องถึงรัฐ – “อย่าสั่งปิด แต่ควบคุมให้รัดกุมจะดีกว่า”

แม้จะเข้าใจว่ากัญชาเป็นพืชที่มีประเด็นอ่อนไหว และมีคนเห็นต่างมากมายในสังคม แต่นายทศวรรษกล่าวว่า สิ่งที่ภาครัฐควรทำคือ “จัดระเบียบ” มากกว่าการ “สั่งปิด” เพราะการกลับไปห้ามใช้กัญชาอย่างเด็ดขาด ก็อาจทำให้ผู้บริโภคหันกลับไปสู่ “ตลาดมืด” เหมือนในอดีต

 “ผมเห็นด้วยว่าไม่ควรให้สูบกันในที่สาธารณะ ไม่ควรขายให้เด็ก และต้องควบคุมให้รัดกุมครับ แต่ไม่ควรถึงขั้นสั่งปิดร้าน หรือยกเลิกทั้งหมด เพราะมันเหมือนฆ่าผู้ประกอบการตัวเล็กๆ ให้ล้มลงต่อหน้าต่อตาเลย”

เขายังเสนอว่า หากต้องการควบคุมให้เข้มงวด ควรออกกฎหมายที่กำหนดอายุผู้ใช้ชัดเจน, ห้ามสูบในพื้นที่สาธารณะ, และควรออกใบอนุญาตให้กับผู้ที่ต้องการใช้เพื่อการแพทย์อย่างถูกต้องตามระบบ

“ถ้ารัฐทำให้มันถูกต้องและมีระบบ ใครอยากเสพก็ต้องมีใบอนุญาต ใครจะปลูกหรือขายก็ต้องมีมาตรฐาน ร้านเราทำตามหมด แต่นโยบายใหม่เหมือนย้อนกลับไปสู่อดีต ซึ่งสุดท้ายก็จะมีคนแอบขายกันอยู่ดี แต่ผิดกฎหมายทั้งหมด”

 

ประเด็นใหญ่ที่ถูกละเลย – เสียงของผู้ประกอบการรายย่อย

ในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา หลังจากที่ภาครัฐปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด มีผู้ประกอบการจำนวนมากแห่เข้ามาลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายโดยตรง ร้านอาหารที่มีเมนูกัญชา เครื่องดื่ม สมุนไพรแปรรูป ฟาร์มปลูกกัญชา หรือแม้กระทั่งงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

 

การประกาศอย่างกระทันหันจากกระทรวงสาธารณสุขในปี 2567 นี้ ทำให้ผู้ประกอบการที่กำลังดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง ต้องเผชิญภาวะชะงักงันทันที บางรายถึงกับต้องปิดกิจการ บางรายต้องปลดพนักงาน และบางรายต้องแบกรับหนี้สินก้อนโตโดยไม่มีโอกาสได้ทุนคืน

สิ่งที่น่ากังวลคือ ประชาชนผู้ลงทุนตามนโยบายของรัฐกลับถูกละเลย ไม่ได้รับการชดเชย หรือแม้แต่รับฟังเสียงสะท้อนใดๆ ก่อนการประกาศนโยบาย

เมื่อ "ความหวัง" กลายเป็น "หนี้ก้อนโต"

 

กรณีของนายทศวรรษและฟาร์มของพี่สาว เป็นเพียงหนึ่งในหลายพันรายทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกลับลำของรัฐ พวกเขาลงทุนด้วยความหวังว่าจะสามารถยืนอยู่ได้ในเศรษฐกิจยุคใหม่ที่รัฐเคยประกาศสนับสนุน แต่กลับต้องแบกหนี้โดยไร้หนทางแก้ไข

 “เราทำตามกฎหมายทุกขั้นตอน ทำร้านให้ถูกต้องทุกอย่าง ลงทุนทุกบาทด้วยความเชื่อใจในนโยบายของรัฐ แต่พอเปลี่ยนรัฐบาล ทุกอย่างก็เปลี่ยนหมด เราคือคนธรรมดา ไม่ได้มีเส้น ไม่ได้มีเงินทุนสำรอง พอเจอแบบนี้ก็แทบหมดตัวเลยครับ”

 

ข้อเสนอจากภาคประชาชน – ปรับ ไม่ใช่ปิด

แม้จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันในสังคมเกี่ยวกับเรื่องกัญชา แต่สิ่งที่หลายฝ่ายเห็นตรงกันคือ “รัฐควรควบคุมอย่างมีระบบ” ไม่ใช่การกลับไปสู่ยุคห้ามแบบเด็ดขาด เพราะจะส่งผลให้เกิดปัญหาการค้ายาใต้ดิน และยิ่งยากต่อการควบคุมในระยะยาว

 “เรายอมให้มีกฎเข้มขึ้นครับ แต่อย่าสั่งให้ปิดร้านเลย ควรกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน เช่น ห้ามขายให้เด็ก ห้ามสูบในร้าน ห้ามโฆษณาเกินจริง และต้องรายงานข้อมูลให้กรมการแพทย์แผนไทยรับทราบ”

 

บทสรุป: อย่าให้ “กัญชา” กลายเป็นเวทีเล่นเกมการเมือง

จากเสียงของผู้ประกอบการรายย่อยอย่างนายทศวรรษ ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า กัญชาไม่ใช่แค่เรื่องของนโยบายทางสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของ “ปากท้อง” และ “อนาคต” ของคนจำนวนมากที่ลงทุนตามคำพูดของรัฐ

ถ้าในอนาคต กัญชาจะถูกกลับไปเป็นยาเสพติดตามกฎหมายจริงๆ สิ่งที่ประชาชนต้องการไม่ใช่เพียงแค่คำสั่ง แต่คือ ความชัดเจน ความรับผิดชอบ และการเยียวยาที่เป็นธรรม เพราะประชาชนไม่ใช่เครื่องทดลองในนโยบายของใคร

เพราะหากรัฐยังเดินหน้าเปลี่ยนนโยบายแบบสายฟ้าแลบ โดยไม่ฟังเสียงประชาชนตัวเล็กๆ ก็ไม่ต่างจากการ “เตะตัดขา” คนที่เชื่อฟังกฎหมาย และทำทุกอย่างตามระบบอย่างที่รัฐเคยขอไว้แต่แรก

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
“ย้อนตำนานหนุ่มรองเท้าแดง” ผู้เข้าประกวดร้องเพลงสยามกลการ ปี 2527 คว้ารางวัลนักร้องดีเด่นเพลงไทยสากลเลขเด็ด "แม่จำเนียรล็อตเตอรี่" งวดวันที่ 16 กันยายน 68 มาแล้ว!..คอหวยส่องด่วน!!เปิดราคา “ไม้ราชา” ต้นไม้มหาสมบัติที่มีเพียงประเทศเดียวในโลกแซวกันสนั่น..! สนามบินใหม่กัมพูชา คนแห่ไปนั่งตากแอร์-ถ่ายรูปเพียบ กลายเป็น “สวนสาธารณะในร่ม”รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ ทุกวันที่ 1 และ 15 มีความหวังเสมอ ถ้ากะเก็งเลขได้ถูก ขอบคุณมากครับเลขเด็ด "ไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 กันยายน 68อีจงซอก ขอตามเทรนด์เปิดตัวแท่งไฟ "ลูกเป็ดน้อย" สุดน่ารักๆให้เหล่าสาวกได้โบกสะบัดเวลาแฟนมีตติ้งรองนายกฯเขมร"ทิ้งฮุนเซน! เผ่นทั้งครอบครัว ได้กลิ่นแรง รัฐใกล้ล่มสลาย ผวาโดนเช็คบิลเหมือนรัฐมนตรีเนปาลย้อนเวลา! ภาพเรือด่วนสองชั้นปี 2495 เทียบท่าท่าเตียน ย่านค้าสำคัญกลางกรุงเทพฯ เผยชีวิตการค้าขายคึกคักริมเจ้าพระยาหนีอดอยากจากเขมร! จับรายวันแรงงานกัมพูชาลักลอบเข้าไทยต่อเนื่อง – วันเดียว 139 รายหนุ่มสกอตตัวสูงหลงงานแต่ง ผิดโรงแรมแต่ดันติดรูปหมู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเฉยประชากรกวางในนารา ประเทศญี่ปุ่น พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
“ย้อนตำนานหนุ่มรองเท้าแดง” ผู้เข้าประกวดร้องเพลงสยามกลการ ปี 2527 คว้ารางวัลนักร้องดีเด่นเพลงไทยสากลอีจงซอก ขอตามเทรนด์เปิดตัวแท่งไฟ "ลูกเป็ดน้อย" สุดน่ารักๆให้เหล่าสาวกได้โบกสะบัดเวลาแฟนมีตติ้งเกาหลีใต้แจกคูปอง อุ้งอิ้งแจกเงิน อนุทิน 50:50พิธีกรรมไล่จับผีเร่ร่อน ช่วงเทศกาลสาทรจีน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
"วิเวียน ซู" อดีตดารานู้ดไต้หวัน..ปัจจุบันยังคงสวยเหมือนเดิมยันชัด !! "เลี้ยงรุ่น" คือหนังสะท้อนสังคม ไม่ได้พาดพิงคดีใครประชากรกวางในนารา ประเทศญี่ปุ่น พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์แซวกันสนั่น..! สนามบินใหม่กัมพูชา คนแห่ไปนั่งตากแอร์-ถ่ายรูปเพียบ กลายเป็น “สวนสาธารณะในร่ม”
ตั้งกระทู้ใหม่