เขมรประกาศไม่ซื้อน้ำมันจากไทย — แต่เรือบรรทุกเต็มลำจอดหน้าท่าสีหนุวิลล์!
ถึงแม้ว่ารัฐบาลกัมพูชาจะออกแถลงการณ์อย่างแข็งกร้าว ประกาศ "ไม่ซื้อน้ำมันจากไทยอีกต่อไป" โดยให้เหตุผลเพื่อปลุกกระแสรักชาติและสร้างภาพความตึงเครียดระหว่างประเทศ ทว่าข้อมูลจากระบบติดตามเรือ MarineTraffic กลับเผยข้อเท็จจริงที่น่าตั้งคำถาม
จากภาพของระบบ MarineTraffic ที่ใช้ในการตรวจสอบเรือสินค้าต่างๆ ตามระบบสากล เราได้พบว่ามีเรือบรรทุกน้ำมัน CHETTHANABODI 6 จากศรีราชา ประเทศไทย เดินทางถึงท่าเรือสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีค่าระวางน้ำลึก (Draught) ถึง 6.1 เมตร บ่งชี้ว่าเรือบรรทุกมาเต็มลำ สถานะล่าสุดของเรือคือ “ทอดสมอ” รอถ่ายสินค้า
แม้ผู้นำกัมพูชาจะกล่าวกับประชาชนว่าได้ “ตัดความสัมพันธ์ด้านพลังงานกับไทย” แล้ว แต่ข้อเท็จจริงกลับตรงกันข้าม เพราะยังมีการลักลอบนำเข้าน้ำมันจากไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นไปได้ยากมากที่จะตัดการขนส่งน้ำมันจากไทยมาใช้ในประเทศกัมพูชา เพราะการไปหาซื้อน้ำมันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าจะมีเงินทุนก็ตาม เพราะต้องมีการแจ้งและวางแผนที่จะส่งน้ำมันกันล่วงหน้าหลายเดือน ไม่ใช่ว่าเพียงมีเงินแล้วจะไปซื้อได้ ซึ่งถ้าต้องรอเวลานานเป็นเดือนๆ ในประเทศของกัมพูชานั้น ไม่สามารถทนต่อการขาดแคลนน้ำมันได้อย่างแน่นอน
กรณีนี้สะท้อนถึง สองมาตรฐาน อย่างชัดเจน — ด้านหนึ่งใช้ไทยเป็น "แพะ" ในทางการเมือง ด้านหนึ่งกลับพึ่งพาไทยเป็นแหล่งพลังงานจริง
อย่างไรก็ตาม ก็มีความเป็นไปได้ว่า นี่เป็นการสั่งซื้อน้ำมันที่ได้มีการดำเนินการเอาไว้ก่อนแล้ว ทางบริษัทขนส่งน้ำมัน จึงยังต้องทำการขนส่งน้ำมันให้ทางกัมพูชาตามสัญญาไปก่อนเช่นกัน แต่หลังจากนี้ ถ้าทางกัมพูชาไม่ได้มีการแหล่งพลังงานสำรองอย่างน้ำมันอย่างถาวรเอาไว้ที่ไม่ใช่จากประเทศไทย นั้นจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างแน่นอน















