ความประหยัดที่อาจพาไปสู่มะเร็ง พฤติกรรมที่หลายบ้านอาจมองข้าม
ความประหยัดเป็นคุณธรรมที่ดีงาม แต่หากใช้ผิดวิธี ก็อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพได้ สิ่งที่เราทำไปเพื่อ "ประหยัดเงิน" อาจกำลังแลกมาด้วย "สุขภาพ" และ "ชีวิต" โดยไม่รู้ตัว คุณหมอเหลียว จี้ติ่ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยาจากโรงพยาบาลฉางกึงหลินโข่ว ไต้หวัน ได้เผยกรณีศึกษาที่น่าตกใจของครอบครัวหนึ่งที่สมาชิก 3 คนเป็นมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร โดยเชื่อว่าเกิดจากพฤติกรรมการกินที่หลายบ้านคุ้นเคย
คุณหมอเหลียวเล่าว่า มีครอบครัวหนึ่งที่สมาชิกทั้งสามคนถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร โดยมีสาเหตุหลักมาจากการ "ประหยัด" ด้วยการ กินอาหารเหลือซ้ำ ๆ เป็นประจำ คุณหมอเน้นย้ำว่านี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด แม้ว่าตู้เย็นจะช่วยยืดอายุอาหารได้ แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักใบเขียวที่เมื่อทิ้งค้างคืนอาจสร้างสารไนไตรต์ (nitrite) ในปริมาณที่สูงขึ้น การบริโภคอาหารเหลือเป็นประจำจึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในระบบย่อยอาหารได้ คุณหมอแนะนำว่าควรพยายามกินอาหารให้หมดในแต่ละมื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงการเหลือทิ้ง
นอกจากอาหารเหลือแล้ว การประหยัดด้วยการซื้อผักผลไม้ลดราคาที่ไม่สด หรือการเสียดายอาหารที่เก็บในตู้เย็นมานานก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ คุณหมอเตือนว่าอาหารที่ขึ้นราอาจสร้างสาร อะฟลาทอกซิน (aflatoxin) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งระดับ 1 การคิดว่าตัดส่วนที่เสียออกแล้วส่วนที่เหลือยังกินได้ หรือนำของแห้งที่ขึ้นราไปล้างแล้วตากแดดเป็นเรื่องที่อันตรายมาก คุณหมอตั้งคำถามว่า การประหยัดเงินเพียงเล็กน้อยนั้น คุ้มค่ากับการแลกด้วยสุขภาพที่สำคัญที่สุดของเราจริงหรือ?
ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารเท่านั้น พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างก็อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งได้เช่นกัน คุณหมอเหลียวชี้ว่าหลายคนมักปิดเครื่องดูดควันทันทีหลังจากทำอาหารเสร็จ เพื่อประหยัดค่าไฟ แต่ควันจากการทำอาหารนั้นมีสารอันตรายจำนวนมาก การสูดดมเป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด คุณหมอแนะนำให้เปิดเครื่องดูดควันก่อนเริ่มทำอาหาร และปล่อยให้ทำงานต่อไปอีก 3-5 นาทีหลังจากทำอาหารเสร็จ เพื่อให้แน่ใจว่าควันพิษถูกระบายออกไปจนหมด การประหยัดค่าไฟเพียงเล็กน้อยกับการแลกมาด้วยสุขภาพของระบบทางเดินหายใจนั้นไม่คุ้มค่าเลย
สรุปแล้ว ความประหยัดเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรมาพร้อมกับความเข้าใจที่ถูกต้อง การทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การไม่กินอาหารเหลือเป็นประจำ, หลีกเลี่ยงอาหารหมดอายุและขึ้นรา, และการใช้เครื่องดูดควันอย่างถูกวิธี ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง และรักษาสุขภาพของเราไว้ได้ในระยะยาว เพราะท้ายที่สุดแล้ว สุขภาพที่ดีคือความมั่งคั่งที่แท้จริง













