เมื่อควันบุหรี่พรากอนาคต เด็กชาย 11 ขวบป่วยมะเร็งปอดจากควันบุหรี่มือสอง
เรื่องราวสุดสะเทือนใจจากฮ่องกงได้เผยให้เห็นถึงอันตรายร้ายแรงของควันบุหรี่มือสอง เมื่อเด็กชายวัยเพียง 11 ปี ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งปอด ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามีสาเหตุหลักมาจากการที่พ่อสูบบุหรี่ภายในบ้านเป็นประจำ ทำให้เด็กต้องรับควันบุหรี่มือสองมาเป็นเวลานาน
เด็กชายคนนี้มีอาการป่วยเรื้อรังด้วยอาการไข้และไอไม่หายขาดเป็นเวลานับเดือน แม้จะได้รับการรักษาจากแพทย์หลายครั้งแต่ก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งอาการทรุดหนักลง เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเข้ารับการตรวจอย่างละเอียด ผลการวินิจฉัยนำมาซึ่งข่าวร้ายที่ไม่มีใครอยากได้ยิน นั่นคือ มะเร็งปอด
จากประวัติสุขภาพและการสอบถามข้อมูลเชิงลึก แพทย์ได้ชี้ชัดว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เด็กชายป่วยเป็นมะเร็งปอดในวัยเด็กเช่นนี้ มาจากการได้รับ ควันบุหรี่มือสอง อย่างต่อเนื่องภายในบ้าน โดยบิดาของเด็กชายมีพฤติกรรมสูบบุหรี่จัดภายในที่พักอาศัย ทำให้สมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กชายต้องสูดดมควันพิษเข้าไปในปอดทุกวันเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งพฤติกรรมนี้ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอด แม้แต่ในผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่โดยตรงก็ตาม
หลายคนอาจคิดว่าการไม่สูบบุหรี่โดยตรงก็ปลอดภัยแล้ว แต่ความจริงแล้ว ควันบุหรี่มือสอง (Secondhand Smoke) หรือที่เรียกว่าควันบุหรี่ที่ผู้อื่นปล่อยออกมาและควันจากปลายมวนบุหรี่ที่ติดไฟนั้นมีอันตรายไม่แพ้กัน และในบางกรณีอาจร้ายแรงกว่าด้วยซ้ำ เนื่องจากควันบุหรี่มือสองประกอบด้วยสารเคมีอันตรายมากกว่า 7,000 ชนิด ในจำนวนนี้เป็นสารก่อมะเร็งมากกว่า 70 ชนิด การได้รับควันบุหรี่มือสองเป็นประจำสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ ได้แก่:
- มะเร็งปอด: ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น 20-30%
- โรคหัวใจและหลอดเลือด: เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือดและหลอดเลือดในสมอง
- โรคระบบทางเดินหายใจ: โดยเฉพาะในเด็กเล็ก อาจทำให้เกิดโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ ปอดบวม และการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้ง่ายขึ้น
- ภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์: ในหญิงตั้งครรภ์ อาจส่งผลให้ทารกในครรภ์มีน้ำหนักแรกเกิดน้อย คลอดก่อนกำหนด หรือเกิดภาวะเสียชีวิตเฉียบพลันในทารก (SIDS)
กรณีของเด็กชายวัย 11 ปีนี้เป็นเครื่องเตือนใจอันสำคัญยิ่งสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ การตัดสินใจสูบบุหรี่ภายในบ้าน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของตนเองเท่านั้น แต่ยังทำลายสุขภาพและอนาคตของคนที่รัก โดยเฉพาะลูกหลานที่ไร้เดียงสาและไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องตระหนักถึงอันตรายของควันบุหรี่มือสอง และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปราศจากควันบุหรี่เพื่อปกป้องสุขภาพของคนในครอบครัวและสังคม การงดสูบบุหรี่ในที่สาธารณะและในบ้านคือหนทางเดียวที่จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ และมอบอากาศบริสุทธิ์คืนให้แก่ปอดของคนที่เรารัก






