ฮือฮา! พ่อแม่ไต้หวันจ้างสาวเต้นรูดเสา ฉลองลูกชายเรียนจบหน้าโรงเรียน
ฮือฮาทั้งไต้หวัน! พ่อแม่จัดระบำโพลหน้าโรงเรียน ฉลองลูกชายจบ ม.ต้น ดราม่าร้อนทั้งประเทศ ตำรวจต้องเข้ายุติเหตุการณ์
ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กลายเป็นข่าวฮือฮาที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในไต้หวันและทั่วทั้งเอเชีย เมื่อคู่สามีภรรยาชาวไต้หวัน ตัดสินใจจัดเซอร์ไพรส์ฉลองวันสำเร็จการศึกษาให้ลูกชาย ด้วยการจ้าง นักเต้นระบำโพล (Pole Dance) สาวสวยจำนวน 2 คน มาเต้นโชว์อย่างเปิดเผย บริเวณด้านหน้าโรงเรียนมัธยมต้นวันเหอ (Wanhe Junior High School) เมืองไถจง
แม้เจตนาของผู้ปกครองจะมุ่งหวังให้เป็น “ของขวัญวันเรียนจบที่ลูกจะไม่มีวันลืม” แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็น กระแสดราม่าในโลกออนไลน์ และจุดกระแสถกเถียงเรื่องความเหมาะสมของการเฉลิมฉลองในบริบทของสถานศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กวัยมัธยมต้น ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
เบื้องหลังโชว์สุดเซอร์ไพรส์: ความตั้งใจดีที่สังคมตีความต่าง
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นไต้หวัน การแสดงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังพิธีจบการศึกษาสิ้นสุดลง โดยมีนักเรียนและผู้ปกครองทยอยออกมาจากอาคารเรียน ในช่วงเวลานั้น นักเต้นระบำโพลสองคนได้ปรากฏตัวพร้อมชุดแต่งกายสุดวาบหวิวและเริ่มโชว์ลีลาการเต้นที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ
คุณแม่ของเด็กชาย ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า การแสดงนี้ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนของเธอที่เป็นนักเต้นอาชีพ โดยเธอมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ลูกชายรู้สึก “พิเศษ” กว่าการเฉลิมฉลองแบบทั่วไป
“ฉันอยากให้ลูกจำวันนี้ไปตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่เป็นวันจบ แต่เป็นวันที่เขารู้ว่าเราภูมิใจในตัวเขามากแค่ไหน”
— คุณแม่กล่าวกับสื่อไต้หวัน
ลูกชายของเธอซึ่งเป็นเจ้าของวันนั้น ยอมรับว่าเขารู้สึก “ตกตะลึง” เมื่อเห็นนักเต้นโพลปรากฏตัว เขาเล่าว่าตนเองพูดไม่ออก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจ “ไม่คัดค้าน” เพราะเข้าใจถึงเจตนาดีของพ่อแม่
สังคมไม่ปลื้ม ผู้ปกครองนักเรียนแสดงความกังวล
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของผู้ชมและผู้ปกครองรายอื่นๆ ดูเหมือนจะไม่ได้มีมุมมองแบบเดียวกัน หลายคนแสดงความตกใจและไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง โดยมีความคิดเห็นว่า การแสดงเช่นนี้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งกับบริเวณหน้าโรงเรียน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่นักเรียนจำนวนมากยังอยู่ในบริเวณนั้น
“พวกเขาเป็นเพียงเด็กมัธยมต้น ยังไม่ใช่วัยที่ควรสัมผัสกับเนื้อหาแบบผู้ใหญ่เช่นนี้เลย”
— ผู้ปกครองรายหนึ่งกล่าว
เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนวันเหอออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางโรงเรียน ไม่ทราบล่วงหน้า ว่าจะมีการจัดการแสดงลักษณะนี้เกิดขึ้น และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมย้ำว่าจะเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการพื้นที่โรงเรียนในอนาคต และส่งเสริมให้ผู้ปกครองเฉลิมฉลองวันสำเร็จการศึกษาอย่าง สมเหตุสมผลและเหมาะสมกับบริบทของวัยเรียน
ตำรวจต้องเข้ายุติการแสดง หลังเกิดความวุ่นวาย
การแสดงเต้นระบำโพลดังกล่าวไม่ได้เพียงแค่สร้างกระแสในโลกโซเชียลเท่านั้น แต่ยังดึงดูดความสนใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีผู้ชุมนุมจำนวนมากที่มุงดูการแสดง และเริ่มส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างอื้ออึง จนเริ่มส่งผลกระทบต่อความเรียบร้อยในบริเวณใกล้เคียง
ตำรวจเมืองไถจงจึงตัดสินใจเข้าแทรกแซงและ ยุติการแสดงทันที โดยอ้างอิงเหตุผลด้านการ รักษาความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงหรือการกระทบกระทั่งกันระหว่างประชาชน
แม้ไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับผู้ปกครองเจ้าของงานในครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ออกคำเตือนให้ระวังถึงความเหมาะสมในการจัดกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะใกล้สถานศึกษาหรือพื้นที่ที่มีเด็กและเยาวชนอยู่เป็นจำนวนมาก
โซเชียลไต้หวัน-เอเชียถกสนั่น บางคนเห็นด้วย บางคนยับยั้งเต็มที่
เหตุการณ์นี้กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลของไต้หวันทันที แฮชแท็กที่เกี่ยวกับ “Pole Dance ฉลองวันจบ” กลายเป็นกระแสใน Weibo, Facebook และ Threads โดยความคิดเห็นของชาวเน็ตมีความหลากหลายมาก
ฝ่ายไม่เห็นด้วย:
“ไร้สาระมาก! น่าละอายแทนพ่อแม่”
“คุณจะเชิญนักเต้นโพลก็ได้ แต่ไม่ควรทำใกล้โรงเรียน”
“สภาพแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ไม่มีใครคิดก่อนทำเลยเหรอ?”
ฝ่ายเห็นต่าง:
“เป็นสิทธิของพ่อแม่ในการเฉลิมฉลอง”
“แค่การเต้นศิลปะ ไม่ได้โป๊เปลือย ไม่ควรตัดสินรุนแรงขนาดนั้น”
“พวกเรามองว่าโป๊เพราะสังคมกำหนดแบบนั้น จริงๆ แล้ว Pole Dance ก็เป็นกีฬาเหมือนยิมนาสติก”
กรณีในอดีต: ระบำโพลกับสถาบันการศึกษาไม่ใช่เรื่องใหม่
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับ การเต้นระบำโพลในสถานศึกษาหรือใกล้พื้นที่ของเด็กนักเรียน ย้อนกลับไปในปี 2018 ที่ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งเคยเชิญนักเต้นโพลมาแสดงในการเปิดภาคเรียน โดยใช้ “เสาธงชาติ” เป็นอุปกรณ์ในการแสดง
แม้ผู้อำนวยการโรงเรียนจะออกมาปกป้องการแสดงว่าเป็นศิลปะ และเด็กไม่ได้รับอันตรายหรือเห็นสิ่งไม่เหมาะสม แต่สุดท้ายก็ต้อง ลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากผู้ปกครองและหน่วยงานรัฐ
ขอบเขตของ “ความรัก” กับ “ความเหมาะสม”
กรณีของคุณพ่อคุณแม่ในไถจง สะท้อนให้เห็นถึงเส้นบางๆ ระหว่าง “ความตั้งใจดี” กับ “การตัดสินใจที่ไม่เหมาะสม” เพราะแม้เจตนาจะมาจากความรักและความภูมิใจในตัวลูก แต่การแสดงเช่นนี้ในพื้นที่สาธารณะ ใกล้โรงเรียน และต่อหน้านักเรียนคนอื่น อาจส่งผลกระทบในมุมมองทางสังคม วัฒนธรรม และจิตวิทยาเด็ก
เรื่องนี้ยังสะท้อนถึง ความเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมครอบครัวในโลกยุคใหม่ ที่เปิดกว้างต่อแนวทางการเลี้ยงดูที่ “แตกต่าง” แต่ขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักขอบเขตที่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อต้องปะทะกับบริบทของสาธารณะและสังคมรอบข้าง
เหตุการณ์นี้อาจกลายเป็น “เรื่องราวที่ไม่ลืมเลือน” ของครอบครัวหนึ่งอย่างที่คุณแม่ตั้งใจไว้จริงๆ แต่ขณะเดียวกันก็กลายเป็นบทเรียนใหญ่ของสังคมไต้หวันในการถกเถียงเรื่อง “เส้นแบ่งของความรักและความเหมาะสม” โดยเฉพาะในการเฉลิมฉลองความสำเร็จของลูกหลานที่ยังอยู่ในวัยเรียนรู้
ในยุคที่โลกเปิดกว้าง...การเคารพสิทธิส่วนบุคคลก็สำคัญไม่แพ้กับการเคารพพื้นที่ของสาธารณะเช่นกัน

















