“กัน จอมพลัง” เจอคนปริศนาขอตรวจสอบ ลั่นไม่กลัว ท้าเจอกันหน้างาน!
“กัน จอมพลัง” ถูกบุคคลปริศนาอ้างเป็นองค์กรไม่ใช่หน่วยงานรัฐ ขอเข้าตรวจสอบถนนลำเลียงปืนใหญ่ เจ้าตัวลั่น “มาดูหน้างานได้เลย!”
ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังมีการสร้างถนนเพื่อใช้ลำเลียงยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่แนวหน้า ความเคลื่อนไหวของบุคคลสาธารณะอย่าง “กัน จอมพลัง” ก็กลายเป็นที่จับตามองมากขึ้นเรื่อย ๆ จากทั้งสังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “กันจอมพลัง ช่วยสู้” ว่า มีบุคคลปริศนาโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหาโดยอ้างตัวว่าเป็น “องค์กร” แห่งหนึ่ง แต่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ พร้อมระบุว่าต้องการเข้าตรวจสอบถนนลำเลียงปืนใหญ่ที่ “กัน จอมพลัง” กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ว่า เป็น “ข่าวลวง” หรือไม่
กัน จอมพลัง ไม่รอช้า รีบโพสต์ข้อความโต้กลับอย่างทันควัน พร้อมเปิดเผยให้เห็นถึงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ตนเองไม่ได้หวั่นไหวกับคำกล่าวอ้างจากบุคคลปริศนาดังกล่าว และพร้อมเปิดพื้นที่ให้ตรวจสอบได้เต็มที่ โดยเจ้าตัวระบุว่า
“มีคนโทรมาหาผมเมื่อวาน บอกว่าเป็นองค์กร และไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ บอกว่ามีคนขอให้เขามาตรวจสอบผม ว่าสิ่งที่ผมทำ ถนนลำเลียงปืนใหญ่ เป็นข่าวลวงหรือไม่ ถ้าอยากรู้ มาหน้างานได้เลยครับ คุณเป็นใครก็ไม่รู้ แล้วก็ไม่รู้อยู่ฝั่งไหน แต่อยากให้มาดูผลงานผมครับ”
คำกล่าวของ “กัน” แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในเจตนาและการกระทำของตนเอง พร้อมย้ำถึงความโปร่งใสและเปิดรับการตรวจสอบจากทุกฝ่าย แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าองค์กรที่กล่าวอ้างนั้นมีเป้าหมายใดหรือมาจากฝ่ายใดก็ตาม
ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจากภาคประชาชนสู่แนวหน้า
ไม่ใช่แค่เรื่องของถนนลำเลียงปืนใหญ่เท่านั้นที่ทำให้ชื่อของ “กัน จอมพลัง” ถูกพูดถึง แต่ยังรวมถึงการจัดหาสิ่งของและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้แก่เจ้าหน้าที่ในแนวหน้าที่กำลังปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนอีกด้วย โดยเจ้าตัวได้เผยว่าเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ได้ส่งมอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ “เกราะเลเวล 4” ซึ่งเป็นเสื้อเกราะกันกระสุนระดับสูง ที่สามารถกันกระสุนได้ทั้งจากปืน AK และอาวุธของฝ่ายตรงข้ามในระดับที่รุนแรง ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าเกราะรุ่นนี้มีอายุการใช้งานนานถึง 10 ปี และถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยปกป้องชีวิตเจ้าหน้าที่แนวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เกราะเลเวล 4 ชุดแรกถึงแนวหน้าตำรวจตระเวนชายแดนแล้ว เกราะรุ่นใหม่กันกระสุน AK และ S ได้แบบสบาย ๆ ดีกว่าเกราะของเดิมมาก ๆ ตำรวจที่ได้ของบอกผมว่าตอนนี้รู้สึกมั่นใจขึ้นมาก”
การเคลื่อนไหวของกัน จอมพลัง ไม่ได้หยุดแค่การบริจาคเท่านั้น แต่เขายังส่งทีมงานลงพื้นที่ เพื่อช่วยเล็งปืนใหญ่ให้กับทหารอีก 3 ชุด รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความทันสมัยในการปฏิบัติงานของทหาร
“ผมยังให้ทีมงานจัดอุปกรณ์ช่วยเล็งปืนใหญ่ให้ทหารอีก 3 ตัว เพื่อความทันสมัย และจัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ทหารปืนใหญ่อีกเพียบครับ”
การกระทำที่ไม่รอหน่วยงานกลาง พร้อมตอบสนองภารกิจอย่างเร่งด่วน
หนึ่งในสิ่งที่ “กัน จอมพลัง” ย้ำอยู่เสมอคือ ความสามารถในการทำงานแบบไม่ต้องรอขั้นตอนหรือพิธีการที่ซับซ้อน เขาเลือกใช้วิธีการลงมือทันทีเมื่อมีสิ่งที่สามารถช่วยเหลือหรือสนับสนุนได้ โดยเน้นผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการรอคำสั่งหรือเอกสารรับรองจากระบบราชการแบบดั้งเดิม
“เวลานี้ไม่ต้องโยนหน้าที่ใคร ถ้าเกิดเรื่อง มัวแต่ทะเลาะกันเอง สุดท้ายความลำบากก็ไปตกอยู่กับคนทำงาน”
คำพูดของเขาสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนที่ชัดเจนว่า เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่แนวหน้าอย่างเต็มกำลัง และมุ่งมั่นในการเสริมสร้างขวัญกำลังใจ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่เสี่ยงอันตรายมากที่สุด
ช่วยเหลือด้วยใจ ไม่หวังผลตอบแทน
อีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้สังคมจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจและชื่นชมคือ การลงมือของ “กัน จอมพลัง” ที่เกิดจากความตั้งใจล้วน ๆ โดยไม่ได้หวังผลประโยชน์ทางการเมือง หรือการประชาสัมพันธ์ส่วนตัว
“เงินล้านกว่าบาทที่จัดไปมันคุ้มค่า ถ้าป้องกันชีวิตใครได้ซักคน แล้วหน่วยอื่นที่ขอมารอแปป ผมกำลังจัดการเพิ่มให้ครับ”
ประโยคนี้ไม่เพียงแค่ตอกย้ำถึงความเสียสละ แต่ยังแสดงถึงความต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือ ที่ไม่ได้จำกัดแค่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หากแต่พร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงานที่ต้องการอย่างเท่าเทียม
ความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์และคำถามจากสังคม
แม้จะมีเสียงชื่นชมจากหลายฝ่าย แต่ความเคลื่อนไหวของ “กัน จอมพลัง” ก็ไม่วายต้องเผชิญกับคำถามจากบางกลุ่มในสังคม ว่าเขามีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับกลุ่มการเมือง หรือหน่วยงานลับที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ หรือว่าเป็นการเคลื่อนไหวโดยลำพังจริง ๆ
การที่มีบุคคลปริศนาโทรเข้ามา อ้างตัวเป็นองค์กรที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐและขอตรวจสอบการดำเนินงาน ยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเพิ่มเติมว่าสิ่งที่เขาทำไปนั้นไปกระทบต่อผลประโยชน์ของใครบางคน หรือสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มใดโดยเฉพาะหรือไม่
กรณี “กัน จอมพลัง” ที่ถูกบุคคลปริศนาโทรขอเข้าตรวจสอบถนนลำเลียงปืนใหญ่ เป็นเพียงภาพหนึ่งของสถานการณ์ที่กำลังร้อนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งกำลังตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียดจากข้อพิพาทระหว่างประเทศ การที่ภาคประชาชนอย่างเขาลุกขึ้นมาช่วยเหลือแนวหน้า เป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของความกล้าและความโปร่งใสในการดำเนินการ
แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่าองค์กรที่ติดต่อเข้ามานั้นคือใคร หรือมีเจตนาใดอยู่เบื้องหลัง แต่สิ่งที่ปรากฏอย่างชัดเจนคือความตั้งใจของกัน จอมพลัง ที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนในพื้นที่แนวหน้า ด้วยหัวใจของคนธรรมดาที่พร้อมสละทั้งกำลังกายและทรัพย์สิน เพื่อปกป้องชาติ














