ไม่ใช่แค่ทูต! รู้จัก “ฮุน ซาเรือน” กับบทบาทลึกในสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา
เปิดประวัติ “ฮุน ซาเรือน” เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย หลานชายสมเด็จฮุน เซน ผู้กำลังเป็นที่จับตามองในความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชื่อของ “ฮุน ซาเรือน” (Hun Saroeun) ได้กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในแวดวงการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในบริบทของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา หลังจากเกิดกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยมีหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลกัมพูชา อันมีต้นเหตุจากการที่ “สมเด็จฮุน เซน” อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้นำที่ทรงอิทธิพลของกัมพูชา เผยแพร่คลิปเสียงสนทนากับนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งในเนื้อหานั้นมีการพาดพิงถึง “ฮุน ซาเรือน” ในฐานะตัวแทนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ชื่อของ “ฮุน ซาเรือน” จึงไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป เพราะเขาไม่ใช่เพียงแค่ทูตธรรมดา แต่ยังเป็น “หลานชาย” ของผู้นำสูงสุดทางการเมืองของกัมพูชา ซึ่งบทบาทของเขาในฐานะเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย จึงอาจเป็นมากกว่าภารกิจทางการทูตธรรมดา แต่ยังสะท้อนถึงความซับซ้อนของการเมืองระหว่างประเทศในภูมิภาคนี้อีกด้วย
ฮุน ซาเรือน: นักการทูตรุ่นใหม่จากครอบครัวผู้นำ
ฮุน ซาเรือน ปัจจุบันอายุ 40 ปี ถือเป็นนักการทูตรุ่นใหม่ที่เติบโตจากสายสัมพันธ์ทางการเมืองโดยตรง เขาเป็นหลานชายของสมเด็จฮุน เซน ซึ่งปกครองประเทศกัมพูชามาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2528 จนกระทั่งก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2566 และส่งมอบอำนาจให้กับลูกชายของตนเองคือ นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนต
เส้นทางชีวิตของฮุน ซาเรือน สะท้อนถึงภาพของผู้นำรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาดี มีประสบการณ์ และมีสายสัมพันธ์ทางการเมืองที่แน่นแฟ้น เขาจบการศึกษาระดับปริญญาโท 2 สาขา ได้แก่
1. สาขานิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยในประเทศกัมพูชา
2. สาขาบริหารจัดการภาครัฐและเอกชน จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ของประเทศไทย
นอกจากนี้ เขายังเคยเข้าร่วมอบรมหลักสูตรนักบริหารการทูต (นบท.) รุ่นที่ 6 ของกระทรวงการต่างประเทศไทยในปี 2557 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้บุคลากรระดับสูงจากต่างประเทศได้เข้ามาเรียนรู้ระบบและแนวทางการทูตของไทย
ภารกิจทางการทูตและเส้นทางการเติบโตในสายงานการต่างประเทศ
ตลอดเส้นทางการทูตของเขา ฮุน ซาเรือนได้รับโอกาสและความไว้วางใจจากรัฐบาลกัมพูชาให้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง ได้แก่
ที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำจังหวัดสระแก้ว
อธิบดีกรมเอเชียแปซิฟิก กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา
รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
และล่าสุดคือ เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2566
ด้วยความสามารถในการใช้ภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว ประกอบกับความเข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง ทำให้เขาสามารถปฏิบัติภารกิจในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นบุคคลที่สามารถเจรจาทางการเมืองได้ทั้งในเชิงทางการและไม่เป็นทางการ
การเมืองสายเลือด และบทบาทในเวทีภูมิภาค
ความน่าสนใจของฮุน ซาเรือนไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นทูต แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์สายเลือดกับผู้นำกัมพูชาอย่างสมเด็จฮุน เซน การที่เขาเป็นหลานชายของอดีตผู้นำผู้ทรงอำนาจ ทำให้บทบาทของเขาในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของกัมพูชาในไทยถูกจับตามองเป็นพิเศษ
บางฝ่ายมองว่า ฮุน ซาเรือน ไม่ใช่เพียงแค่ข้าราชการการทูต แต่ยังทำหน้าที่เป็น “ตัวแทนความไว้ใจ” จากตระกูลฮุน ซึ่งมีอิทธิพลลึกซึ้งในรัฐบาลกัมพูชา แม้ในยุคที่สมเด็จฮุน เซนก้าวลงจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ความใกล้ชิดกับฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ยิ่งส่งเสริมให้บทบาทของฮุน ซาเรือน ยิ่งทวีความสำคัญในทางยุทธศาสตร์
กรณีคลิปเสียง-ดินแดนแห่งความอ่อนไหว
การที่ชื่อของฮุน ซาเรือนเข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณี คลิปเสียงที่สมเด็จฮุน เซนเผยแพร่การสนทนากับนายกรัฐมนตรีไทย จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะนอกจากจะเกี่ยวพันกับการเจรจาและความเข้าใจผิดในระดับผู้นำประเทศแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจในระดับทูต
ทางฝั่งไทยมีปฏิกิริยาชัดเจน เมื่อกระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการ ต่อพฤติกรรมของอดีตผู้นำกัมพูชาที่นำการสนทนาภายในมาเปิดเผยสู่สาธารณะ ทั้งยังมีรายงานว่า ฮุน ซาเรือน เป็นผู้มีบทบาทในการประสานงานหรือมีส่วนรับรู้ในกระบวนการดังกล่าวด้วย
แม้ไม่มีการกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ดำเนินการโดยตรง แต่การที่ชื่อของเขาถูกพาดพิงในเหตุการณ์ที่ละเอียดอ่อนทางการทูต ทำให้สถานะของเขาถูกจับตามองเป็นพิเศษ
บทบาทต่อไปของ “ฮุน ซาเรือน” ในความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
คำถามที่น่าสนใจคือ หลังจากกรณีนี้ บทบาทของสุน ซาเรือนในประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?
ในอีกมุมหนึ่ง หลายฝ่ายมองว่าเขายังมีศักยภาพสูงในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เนื่องจากเป็นผู้ที่สามารถพูดภาษาไทย มีเครือข่ายกับข้าราชการไทย และเคยศึกษาระบบราชการของไทยโดยตรง ผ่าน NIDA และการฝึกอบรม นบท.
แต่อีกมุมหนึ่ง เส้นทางของเขาอาจเผชิญแรงกดดันหากความขัดแย้งในระดับผู้นำยังไม่คลี่คลายลง หรือหากรัฐบาลไทยเห็นว่าการดำรงตำแหน่งของเขาอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่สมดุลและเท่าเทียม
สรุป: ชายผู้มากกว่าทูต
ฮุน ซาเรือน จึงไม่ใช่เพียงเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของสายเลือดฮุนในระดับการทูต ซึ่งสะท้อนความต่อเนื่องทางอำนาจของกัมพูชาในเวทีนานาชาติอย่างแท้จริง
ขณะที่ไทยกำลังวางหมากทางการเมืองต่างประเทศในยุคภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน สุน ซาเรือนจึงเป็นบุคคลที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะเขาอาจเป็น “กุญแจสำคัญ” ในการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาในอนาคตอันใกล้นี้















