หมอปลายทักแม่น! ดวงนายกฯ เจอศึกหนัก-ปัญหาใหญ่ถาโถม เสี่ยงเสียเงินก้อนโต
'หมอปลาย' ผ่าดวงเมืองกลางปี 68 เดือน ก.ค. การเมืองเดือด นายกฯ เจอศึกหนัก! ห่วงโรคระบาด-ภัยพิบัติซ้ำซ้อน แนะคนไทยเร่งกักตุนอาหารรับมือวิกฤต
ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความผันผวน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และภัยพิบัติต่าง ๆ หนึ่งในหมอดูชื่อดังของเมืองไทยอย่าง “หมอปลาย พรายกระซิบ” ก็ได้ออกมาเปิดเผยคำทำนายสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของประเทศในช่วงกลางปี 2568 โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเธอเตือนว่าอาจเป็นช่วงเวลาที่สังคมไทยต้องเตรียมใจรับแรงกระแทกครั้งใหญ่จากหลากหลายด้าน ทั้งการเมืองที่คุกรุ่นจนแทบเดือด โรคระบาดที่อาจกลับมาซ้ำเติมอีกครั้ง ไปจนถึงภัยธรรมชาติที่อาจโหมกระหน่ำในช่วงเวลาที่ไม่คาดคิด
การเมืองไทยกลางปี 2568: จุดเดือดเดือนกรกฎาคม
หนึ่งในประเด็นที่หลายคนจับตามองมากที่สุดคือสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งหมอปลายทำนายว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ จะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญยิ่งของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล โดยเฉพาะ “ท่านผู้นำ” ซึ่งจะเผชิญกับกระแสโจมตีและแรงกดดันอย่างหนักจากหลายฝ่าย
“ท่านนายกฯ จะโดนคนออกมาพูด หรือเอาเรื่องอะไรหลายอย่างมาโถมใส่ แล้วก็จะเห็นอาการที่ไม่แฮปปี้ เครียด กลัว และคนจะเริ่มกลับมาพูดอีกครั้งว่าจะอยู่ได้หรือไม่ได้อีกรอบหนึ่งช่วงประมาณเดือนนั้น ค่อนข้างหนัก ค่อนข้างเครียดเลย” – หมอปลายกล่าวอย่างชัดเจน
นี่ไม่ใช่เพียงการแสดงความคิดเห็นธรรมดา แต่เป็นคำทำนายที่สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดที่อาจลุกลามไปทั่วทั้งประเทศในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะหากประชาชนรู้สึกว่านายกรัฐมนตรีเริ่ม "ไม่ไหว" หรือขาดความเชื่อมั่นในการบริหารบ้านเมือง กระแสความไม่พอใจอาจกลายเป็นไฟลุกลามได้ในชั่วพริบตา
เงินก้อนโตที่ต้องจ่าย: เหตุใช้จ่ายมหาศาลในเดือน ส.ค.-ก.ย.
แม้ในเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงที่การเมืองร้อนแรงสุดขีด แต่ช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 2568 ก็ใช่ว่าจะราบรื่น เพราะหมอปลายเตือนว่าจะมีการใช้จ่ายเงินจำนวนมาก ซึ่งเปรียบได้กับ “ค่าปรับ” แม้จะไม่ใช่ค่าปรับโดยตรง แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเงินจำนวนนี้อาจถูกดึงมาจากงบประมาณส่วนอื่นที่จำเป็นต่อประชาชน
เธอให้ข้อมูลว่าเงินจำนวนดังกล่าวอาจถูกใช้ในทางที่ไม่ควร เช่น การสร้างเครือข่ายพวกพ้อง หรือการซื้อใจทางการเมือง ทำให้เกิดการขาดแคลนงบในส่วนสำคัญ เช่น ด้านสาธารณสุข การศึกษา หรือการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
“ใช้เงินหนักนี้ใช้เงินซ่อม มันคล้ายกับคำว่าเสียค่าปรับ แต่มันไม่ใช่ค่าปรับ แต่ต้องเสียเพื่อจ่ายให้จบ แล้วเป็นเงินก้อนใหญ่ไปดึงส่วนอื่น ๆ ที่ต้องเอาเงินไปใช้ โดยเฉพาะใช้เพื่อพวกพ้องของตนเอง หรือใช้เพื่อให้คนมาเป็นพวกพ้องของตนเอง ทำให้ขาดงบตรงนั้นเพราะดึงงบมาใช้ในจุดนี้” – คำเตือนจากหมอปลาย
ภัยเงียบจากแรงงานต่างชาติ: โรคระบาดและแรงงานเมือง
อีกหนึ่งประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งหมอปลายเตือนว่ามีแนวโน้มจะกลับมาอีกครั้งในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยต้นทางของโรคอาจมาจากแรงงานต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ขณะที่ในประเทศเองก็เผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานคนไทย เนื่องจากหลายคนหันกลับภูมิลำเนาและไม่ต้องการทำงานในเมืองอีกต่อไป
แรงงานจากต่างชาติแม้จะเข้ามาช่วยเสริมกำลังแรงงาน แต่ก็อาจนำพาโรคภัยแปลกใหม่ติดตัวมาด้วย เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง งูสวัด หรือปัญหาเม็ดเลือดขาวต้องทำงานหนักขึ้น เป็นโรคที่อาจไม่รุนแรงทันทีแต่ส่งผลกระทบระยะยาวต่อระบบภูมิคุ้มกันของคนในประเทศ
ขณะที่ประเทศใกล้เคียง เช่น ญี่ปุ่น เองก็เริ่มเข้าสู่โหมดเฝ้าระวังอย่างจริงจัง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนให้ไทยเร่งเตรียมมาตรการรับมือก่อนที่จะสายเกินไป
เศรษฐกิจโลกสั่นคลอน + ภัยพิบัติซ้ำเติม
นอกจากปัจจัยภายในประเทศแล้ว สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเองก็ไม่เอื้ออำนวย หมอปลายมองว่าเศรษฐกิจไทยและโลกจะยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ในเร็ววัน ซ้ำยังจะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้น เช่น พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือภัยแล้ง ซึ่งจะซ้ำเติมภาคเกษตรกรรมและปากท้องของคนไทยอย่างหนัก
สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ “ความมั่นคงทางอาหาร” เพราะเมื่อถึงเวลาเกิดวิกฤตขึ้นจริง อาหารดี ๆ อาจไม่มีให้กิน หรือมีราคาแพงเกินเอื้อม หมอปลายจึงแนะนำให้ทุกครัวเรือนเริ่มวางแผนตั้งแต่ตอนนี้
แนวทางรับมือ: กักตุนอาหาร-ปลูกผักในบ้าน
หมอปลายได้แนะนำแนวทางที่ชัดเจนในการเตรียมความพร้อมรับมือกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
ปลูกผักที่ไม่ต้องใช้ดิน เช่น ผักไฮโดรโปนิกส์ หรือผักสวนครัวในขวดพลาสติก
กักตุนอาหารกระป๋อง ข้าวสารคุณภาพดีที่สามารถเก็บได้นาน
ลดการส่งออกสินค้าที่จำเป็นเพื่อให้คนไทยมีใช้ก่อน
หมั่นสำรองน้ำดื่มและยาเวชภัณฑ์เบื้องต้นไว้ให้พอใช้ได้ 2-3 สัปดาห์
สิ่งเหล่านี้แม้จะฟังดูเหมือนการเตรียมตัวล่วงหน้าแบบเกินเหตุ แต่หากเกิดวิกฤตจริงจะช่วยให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนกและสามารถประคองชีวิตไปได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
บทสรุป: วิกฤตครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องดวง แต่คือสัญญาณเตือนสติ
คำทำนายของหมอปลายในครั้งนี้แม้จะถูกมองในแง่ “โหราศาสตร์” แต่ก็มีหลายจุดที่สอดคล้องกับแนวโน้มสถานการณ์โลกและประเทศไทยในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาด
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อคำทำนาย สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมั่นคง ไม่ตื่นตระหนก และยืนหยัดผ่านพ้นวิกฤตไปได้
“การรู้ล่วงหน้าแม้เพียงนิด อาจช่วยให้รอดพ้นจากภัยใหญ่” – คำเตือนสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้าม

















