เท้ง เรียกร้อง 6 ข้อ ให้นายกยุสภา คืนอำนาจให้ประชาชน ปมคลิปเสียงหลุด
ยังร้อนเเรงต่อเนื่องสำหรับกรณที่มีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานองคมนตรี และประธานวุฒิสภาของกัมพูชา ซึ่งคลิปเสียงดังกล่าวมีความยาวเต็มอยู่ที่ 17 นาที ซึ่งเมื่อคลิปดังกล่าวนี้หลุดออกมา นายกแพทองธาร ชินวัตร ก็ออกมายอมรับว่าเป็นคลิปเสียงจริง จากเรื่องนี้เองทำให้มีเเรงสั่นสะเทือนรัฐบาลทันมี มีกระเเสเรียกร้องให้นายกลาออกเพื่อเเสดงความรับผิดชอบ เเละล่าสุดผู้นำผ่านค้าน อย่าง เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความเพื่อเรียกร้อง 6 ข้อ ไปยังนายก ไว้ดังนี้
(1) ผมเห็นเช่นเดียวกับท่านนายกรัฐมนตรีว่า เป้าหมายในการบริหารจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คือ การกลับสู่ภาวะปกติและสันติภาพระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ขยายความขัดแย้งจนกระทบต่อพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ
(2) การเจรจาพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ สามารถทำได้ทั้งผ่านช่องทางที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ แต่ผมก็คาดหวังว่า คุณแพทองธารจะสื่อสารกับผู้นำของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมีวุฒิภาวะและมีเกียรติภูมิในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาของส่วนรวม ไม่ใช่สื่อสารในฐานะหลานสาวของผู้นำประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองส่วนตัว
(3) การแสวงหาความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชาเพื่อลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนและคืนชีวิตความเป็นอยู่อันปกติสุขให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศเป็นสิ่งที่ดี โดยหากคุณแพทองธารไม่ต้องการแค่ลดแรงกดดันทางการเมืองต่อตัวเองเฉพาะหน้าเท่านั้น สิ่งที่ผมคาดหวังจะได้ยินจากนายกรัฐมนตรีไทยในการพูดคุยกับผู้นำของกัมพูชาด้วย แต่กลับไม่ได้ยิน คือการโน้มน้าวให้ผู้นำกัมพูชาเห็นว่า การนำข้อพิพาทเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาไปสู่ศาลโลกนั้น ไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศเพื่อนบ้านโดยยังรักษาความรู้สึกที่ดีต่อกัน ดังนั้น ควรใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่แล้ว และช่วยกันลดบรรยากาศที่อาจทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศเกลียดชังต่อกัน
(4) ส่วนสิ่งที่ไม่ควรออกจากปากผู้นำไทยคือการสื่อสารกับผู้นำของประเทศเพื่อนบ้านว่ากองทัพไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามทั้งกับรัฐบาลไทยและกัมพูชา ทั้งๆ ที่คุณแพทองธารเป็นคนแถลงต่อสาธารณะเองหลายครั้งว่ารัฐบาลมอบหมายให้กองทัพตัดสินใจเกี่ยวกับมาตรการเปิดปิดด่าน และไม่มีความแตกแยกระหว่างกองทัพกับรัฐบาล
(5) ผมตระหนักดีว่า มีบุคคลบางกลุ่มต้องการขยายความขัดแย้งและฉวยใช้สถานการณ์ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองทั้งในไทยและในกัมพูชา ผมไม่อยากเห็นฝ่ายใดฉวยโอกาสนี้ไปทำให้กองทัพมีอำนาจเหนือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วยวิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ คือนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต้องแสดงบทบาทนำในการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาให้ได้โดยเร็ว โดยจำกัดบทบาทของกองทัพให้ปฏิบัติหน้าที่และสื่อสารเฉพาะที่รัฐบาลสั่งการเท่านั้น
(6) นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะมีบทบาทนำในการคลี่คลายสถานการณ์ไทย-กัมพูชาได้ ก็ต้องดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ เท่าทันสถานการณ์ และแสดงออกให้ประชาชนเชื่อมั่นหรือไว้วางใจ แต่บทสนทนาที่ปรากฏในคลิปเสียงระหว่างคุณแพทองธารกับนายฮุน เซน กลับยิ่งทำลายความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของพี่น้องประชาชนต่อนายกรัฐมนตรีของพวกเขาลงอย่างสิ้นเชิง
หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของประชาชนไทยให้กลับมาได้โดยเร็ว ผมขอเรียกร้องให้คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยด้วยการยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้แก่ประชาชน และเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลบางกลุ่มปลุกปั่นความผิดพลาดของคุณแพทองธารให้บานปลายจนนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตยของเรา











