เดือด! “กมร.ทหาร” เรียกร้องนายกฯ แสดงความรับผิดชอบ ปมกระทบความมั่นคงชาติ
วุฒิสภาเดือด! คณะกรรมาธิการการทหารฯ แถลงการณ์กรณีคลิปเสียงนายกฯ สะเทือนศรัทธา-กระทบมั่นคงชาติ ย้ำ! ไม่ยอมให้ใครทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และกองทัพไทย
จากกรณีที่เกิดกระแสดราม่าร้อนแรงในโลกออนไลน์และสื่อกระแสหลัก เกี่ยวกับคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย กับผู้นำประเทศกัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาที่ถูกมองว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของประเทศ รวมไปถึงกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ล่าสุด คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของวุฒิสภา นำโดย พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แสดงจุดยืนชัดเจน พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบ
คลิปเสียงปริศนา จุดชนวนวิจารณ์เดือดทั้งประเทศ
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งผู้เผยแพร่ระบุว่าเป็นการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย และสมเด็จฮุน เซน ผู้นำของกัมพูชา โดยในคลิปมีถ้อยคำที่ถูกตีความว่าเป็นการแสดงออกถึงความอ่อนข้อ หรือการไม่ยึดมั่นในผลประโยชน์ของประเทศตนเอง บางช่วงบางตอนยังมีลักษณะที่คล้ายกับการลำเอียงเข้าข้างฝ่ายตรงข้าม สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับการรักษาอธิปไตย และความมั่นคงทางชาติพันธุ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
ประชาชนจำนวนมากแสดงความไม่พอใจผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ และเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะเมื่อเนื้อหาในคลิปถูกตีความว่าอาจเข้าข่ายละเลยผลประโยชน์ของประเทศเพื่อความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำต่างชาติ
คณะกรรมาธิการการทหารฯ ไม่อยู่เฉย ออกแถลงการณ์เดือด
ต่อกระแสดังกล่าว คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของวุฒิสภา จึงได้ออกแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจน โดยในถ้อยคำที่ประกาศต่อสาธารณชน ระบุว่า เนื้อหาในคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่นั้น สะท้อนถึงการขาดความรอบคอบของผู้นำ และเป็นการกระทำที่บ่อนทำลายศรัทธาของประชาชน อีกทั้งยังมีลักษณะของการไม่สามารถแยกแยะระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัว กับผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในทุกกรณี
แถลงการณ์ดังกล่าวชี้ว่า ความมั่นคงของชาติเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด และผู้นำประเทศจำเป็นต้องยึดถือหลักจริยธรรม รวมถึงปกป้องเกียรติภูมิของชาติในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะอยู่ในบริบทการทูต การเมือง หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
คณะกรรมาธิการฯ ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบอย่างตรงไปตรงมา พร้อมชี้แจงเหตุผลของการกระทำและบทสนทนาที่ปรากฏในคลิป พร้อมกันนี้ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรีทบทวนแนวทางการทำงาน เพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่งของผู้นำประเทศในระบอบประชาธิปไตย
ย้ำหนัก! ต้องปกป้องสถาบัน ชาติ และกองทัพ
ในแถลงการณ์ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของประเทศชาติ พร้อมยืนยันว่า คณะกรรมาธิการจะไม่ยอมให้บุคคลใดทำลาย หรือบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และกองทัพไทยอย่างเด็ดขาด
คำประกาศในส่วนนี้มีน้ำเสียงเข้มแข็ง โดยระบุว่า กองทัพไทยเป็นกลไกสำคัญในการดูแลความสงบเรียบร้อย และรักษาเอกราชของประเทศ ดังนั้นบุคคลใดก็ตามที่กระทำการใดๆ อันมีลักษณะละเมิดต่อกองทัพ ย่อมถือว่าเป็นการลบหลู่เกียรติภูมิของชาติ และควรได้รับการตรวจสอบโดยกระบวนการที่โปร่งใส
คณะกรรมาธิการฯ ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าให้การสนับสนุนและส่งเสริมขวัญกำลังใจแก่กำลังพล และข้าราชการในทุกระดับ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมืองอย่างเต็มกำลัง
ประธานกรรมาธิการฯ “พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา” ลงชื่อชัดเจน
ในช่วงท้ายของแถลงการณ์ดังกล่าว มีการลงนามโดย “พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา” ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของวุฒิสภา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงจังของการดำเนินการ พร้อมย้ำว่าคณะกรรมาธิการฯ จะไม่เพิกเฉยต่อพฤติกรรมใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลก
การลงนามในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการนี้ ส่งผลให้ประเด็นดังกล่าวถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากหลายฝ่าย ทั้งภาคประชาชน นักวิชาการ สื่อมวลชน และภาคการเมือง เพราะอาจเป็นสัญญาณของแรงกดดันทางการเมืองที่มีต่อรัฐบาลในขณะนี้
เสียงจากประชาชน-นักวิชาการ สะท้อนความกังวล
หลังแถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการฯ ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ หลายเสียงในโลกโซเชียลต่างแสดงความพึงพอใจที่วุฒิสภามีท่าทีชัดเจนและกล้าหาญ ขณะที่นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์จำนวนหนึ่งมองว่า กรณีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการตรวจสอบการใช้อำนาจในระดับผู้นำประเทศ ซึ่งหากไม่มีการชี้แจงที่ชัดเจน อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างรุนแรง
อีกด้านหนึ่ง มีข้อเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนข้อเท็จจริงของคลิปเสียงดังกล่าว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และสร้างความกระจ่างต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นคลิปจริงหรือการตัดต่อ มีเจตนาใดอยู่เบื้องหลัง ประชาชนสมควรได้รับคำตอบที่ชัดเจน
กรณีคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและผู้นำกัมพูชา กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้หลายภาคส่วนในสังคมตื่นตัว โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของวุฒิสภาที่แสดงท่าทีชัดเจนในการปกป้องเกียรติภูมิของชาติ พร้อมย้ำว่า “จะไม่ยอมให้ใครทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และกองทัพไทย” ประชาชนทั้งประเทศกำลังจับตาว่า นายกรัฐมนตรีจะเลือกเดินหน้าอย่างไรในวิกฤตความเชื่อมั่นครั้งนี้












