กัมพูชาตัดไฟไทย! หันใช้ไฟเวียดนาม-ลาว ชาวปอยเปตร้อง ปัญหารุมเร้า
“ปอยเปต” ตัดไฟไทย หันใช้ไฟเวียดนาม-ลาว ทำไฟตก-ดับวุ่น บ่อนกาสิโนเร่งใช้เครื่องปั่นไฟ หวั่นกระทบเศรษฐกิจท้องถิ่น
วันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. มีรายงานจากผู้สื่อข่าวประจำพื้นที่ปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสั่นสะเทือนทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาได้ทำการ สับคัตเอาต์ตัดกระแสไฟฟ้าจากประเทศไทย ที่เคยจ่ายให้กับฝั่งปอยเปต และเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าใหม่ที่นำเข้าจากประเทศเวียดนามแทน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่เจ้าหน้าที่ของกัมพูชาเปิดประตูด่านพรมแดนฝั่งปอยเปต ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างกัมพูชาและประเทศไทยบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา โดยจุดที่ทำการตัดกระแสไฟฟ้านั้นอยู่บริเวณเสาไฟฟ้าข้างที่ทำการด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต
จุดเปลี่ยนพลังงาน: จากไทยสู่เวียดนาม
ตามรายงาน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ากัมพูชาได้ดำเนินการเปลี่ยนแหล่งจ่ายไฟฟ้าทันทีหลังจากตัดระบบที่เชื่อมโยงกับประเทศไทย โดยหันไปพึ่งพาระบบสายส่งที่สั่งซื้อมาจากประเทศเวียดนาม ซึ่งถูกเชื่อมเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าหลักเพื่อจ่ายพลังงานให้แก่พื้นที่ปอยเปตและบริเวณใกล้เคียง โดยแหล่งข่าวระบุเพิ่มเติมว่าบางส่วนของกระแสไฟฟ้ายังอาจมีที่มาจากสาธารณรัฐประชาชนลาวด้วย
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงแหล่งพลังงานไฟฟ้าในลักษณะทันทีทันใดนี้ ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า หลังการสับเปลี่ยนสายไฟ ระบบไฟฟ้าถูกตัดขาดไปราว 20 นาที ก่อนจะเริ่มจ่ายไฟใหม่ได้อีกครั้ง แต่ไฟที่จ่ายกลับมายังขาดเสถียรภาพ มีการ ไฟตก-ไฟดับในหลายพื้นที่ บางพื้นที่กระแสไฟตกอย่างรุนแรงจนไม่สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ขณะที่บางจุดยังไม่มีไฟฟ้าจ่ายเข้าระบบเลย
กระทบหนักทั้งประชาชนและธุรกิจ
ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ประชาชนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่ในพื้นที่ โดยเฉพาะ กลุ่มบ่อนกาสิโน ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้หลักของเมืองปอยเปต มีรายงานว่า บ่อนกาสิโนขนาดใหญ่กว่า 10 แห่งได้รับผลกระทบจากการตัดไฟครั้งนี้
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า บ่อนบางแห่งมีการ เตรียมความพร้อมล่วงหน้า ด้วยการสั่งน้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟฟ้าไว้ล่วงหน้าถึง 3 วัน หลังได้รับสัญญาณว่าจะมีการตัดระบบไฟฟ้าจากฝั่งไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้น ทำให้สามารถใช้งานเครื่องปั่นไฟต่อเนื่องเพื่อหล่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าภายในกาสิโน และไม่กระทบต่อลูกค้ามากนักในระยะแรก
อย่างไรก็ดี หากการตัดไฟจากไทยยังคงดำเนินต่อไปในระยะยาว อาจทำให้ต้นทุนในการดำเนินกิจการของบ่อนกาสิโนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เพราะจำเป็นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณมาก และมีความเสี่ยงที่เครื่องปั่นไฟจะขัดข้อง
การเมืองเบื้องหลังพลังงาน?
ถึงแม้ขณะนี้จะยังไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากทางการกัมพูชาเกี่ยวกับเหตุผลที่แท้จริงของการ หยุดรับไฟฟ้าจากประเทศไทย แต่หลายฝ่ายมองว่าอาจมีเบื้องลึกในเชิงการเมืองหรือเศรษฐกิจที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้
โดยในช่วงก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าไทยได้ส่งสัญญาณขอทบทวนเงื่อนไขการส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และมีข้อพิพาทเล็กน้อยในระดับการเจรจาเชิงนโยบายระหว่างสองประเทศ ประเด็นนี้จึงกลายเป็นจุดเปราะบางที่อาจส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระยะยาว
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของกัมพูชากล่าวว่า ทางการอาจมีแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวในการ ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากประเทศเดียว เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน ซึ่งอาจเป็นที่มาของการสั่งซื้อไฟฟ้าจากเวียดนามและลาวเข้ามาเสริม
เสียงสะท้อนจากประชาชน
สำหรับชาวบ้านในปอยเปต ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นับเป็นเรื่องใหญ่ เพราะกระแสไฟฟ้าไม่เสถียรได้สร้างความเดือดร้อนต่อชีวิตประจำวัน ทั้งในเรื่องของความร้อน การเก็บรักษาอาหาร และการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐาน โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้า พ่อค้าแม่ค้า และธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าในการทำมาหากิน ต่างได้รับผลกระทบโดยตรง
หลายคนแสดงความกังวลว่า หากปัญหาไฟฟ้ายังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที อาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจในชุมชน และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทางออกคืออะไร?
ในระยะสั้น ทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการ เร่งเสริมระบบไฟฟ้าจากเวียดนามและลาวให้มีความเสถียรยิ่งขึ้น รวมถึงการจัดสรรเครื่องปั่นไฟเพิ่มเติมในพื้นที่วิกฤติ ขณะที่ในระยะยาว รัฐบาลกัมพูชาจำเป็นต้องทบทวนนโยบายการพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอก และหันมาลงทุนในการผลิตไฟฟ้าในประเทศมากยิ่งขึ้น
คำถามสำคัญที่ยังค้างคาใจประชาชนทั้งฝั่งกัมพูชาและไทยก็คือ “เหตุการณ์นี้จะจบลงอย่างไร?” และ “เมื่อไหร่ทางการกัมพูชาจะกลับมาใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทยอีกครั้ง?” คำถามเหล่านี้ยังคงไร้คำตอบ เนื่องจากจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือถ้อยแถลงจากภาครัฐของกัมพูชาอย่างชัดเจน
เหตุการณ์ตัดไฟฟ้าจากไทยที่ปอยเปตนับว่าเป็นกรณีตัวอย่างของความเปราะบางทางพลังงานและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งแม้จะดูเป็นเหตุการณ์ทางเทคนิค แต่กลับสะท้อนภาพใหญ่ของเกมการเมืองและยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศอย่างชัดเจน หากไม่มีการจัดการอย่างรอบคอบและโปร่งใส ปัญหาเพียงเรื่องไฟฟ้า อาจลุกลามเป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศที่ซับซ้อนได้ในอนาคต















