Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แฮกเกอร์กัมพูชาบุก! เว็บราชการไทยโดนถล่ม ตร.ออกหมายจับด่วน

โพสท์โดย zzz1111

กระแสตื่นตัว! เว็บไซต์หน่วยงานราชการไทยถูกแฮกยกแผง แฉเบื้องหลังฝีมือชาวกัมพูชา สะท้อนปัญหาความมั่นคงไซเบอร์รัฐไทยยังเปราะบาง?

กลายเป็นประเด็นใหญ่ในโลกออนไลน์ และกระตุ้นคำถามต่อประสิทธิภาพด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของภาครัฐไทยอย่างรุนแรง หลังเกิดเหตุการณ์เว็บไซต์ของหน่วยงานราชการหลายแห่งทั่วประเทศถูกโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์ปริศนา พร้อมการเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ (defacement) และแสดงข้อความโจมตีประเทศไทยอย่างรุนแรง โดยมีการระบุชื่อกลุ่มแฮกเกอร์ที่ก่อเหตุไว้อย่างชัดเจนถึง 3 กลุ่มด้วยกัน

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงสร้างความวุ่นวายแก่การให้บริการของภาครัฐที่ประชาชนต้องพึ่งพา แต่ยังตอกย้ำความเปราะบางของระบบความปลอดภัยด้านดิจิทัลในประเทศไทย ที่ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุลักษณะใกล้เคียงกันมาแล้วหลายครั้ง

 

เป้าหมายโจมตี: จากเทศบาลถึงกรมทรัพยากรฯ — ไม่มีใครรอด

จากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายงานจากสื่อ พบว่าเว็บไซต์ที่ถูกแฮกคราวนี้ไม่ได้จำกัดแค่หน่วยงานส่วนกลาง แต่รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่น เช่น เว็บไซต์ของเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และแม้กระทั่งเว็บไซต์ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล รวมไปถึงศูนย์ราชการในบางจังหวัด

ลักษณะของการโจมตีครั้งนี้เป็นการเจาะระบบเข้ามาเพื่อ “เปลี่ยนหน้าเว็บไซต์” โดยมีการแปะข้อความที่มีเนื้อหาทางการเมืองและการแสดงตัวของกลุ่มแฮกเกอร์ ซึ่งสะท้อนถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องการ “ประกาศศักดา” หรือ “ส่งสาร” อะไรบางอย่าง มากกว่าจะเป็นการเจาะเข้าระบบฐานข้อมูลเพื่อขโมยข้อมูลโดยตรง อย่างไรก็ตาม ความเสียหายทางภาพลักษณ์ และความไม่เชื่อมั่นของประชาชนก็เกิดขึ้นแล้วอย่างชัดเจน

ตำรวจไซเบอร์ลุยสืบ พบเชื่อมโยงบัญชีโซเชียลหนุนแฮกเกอร์ ก่อนศาลอนุมัติหมายจับ

ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) ได้เร่งดำเนินการสืบสวนหาต้นตอ โดยตรวจสอบข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์ จนพบว่ามีบางบัญชีมีพฤติกรรมเผยแพร่และสนับสนุนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่ก่อเหตุ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การแกะรอยเครือข่ายของกลุ่มดังกล่าว

กระทั่งพบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนถึงผู้ร่วมวางแผนการโจมตี และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ ซึ่งพบว่าเป็นชาวกัมพูชา 2 คน ได้แก่ ชาย 1 คน และหญิงอีก 1 คน โดยทั้งคู่ถูกตั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อจับกุมและนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในประเทศไทย

 

เว็บไซต์ทยอยกลับมาใช้งานได้ แต่คำถามเรื่องระบบความปลอดภัยยังคาใจประชาชน

ล่าสุดทีมข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีตรวจสอบพบว่า เว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่เคยถูกโจมตีกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม ความกังวลและเสียงวิจารณ์จากสังคมยังคงดังกระหึ่ม โดยเฉพาะบนโลกโซเชียล ที่มีการตั้งคำถามอย่างรุนแรงถึงความสามารถของระบบราชการในการป้องกันภัยไซเบอร์

 

มีชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ เช่น ความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า

 “ทำไมระบบราชการถึงอ่อนแอขนาดนี้? แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าข้อมูลสำคัญของประชาชนจะไม่รั่วไหล?”

ในขณะเดียวกัน ก็มีบางความเห็นที่พยายามให้ข้อมูลอย่างเป็นกลางว่า

 “แฮกเกอร์อาจจะเข้าไปได้แค่หน้าเว็บไซต์เท่านั้น ยังไม่ได้ทะลวงเข้าไปในระบบเซิร์ฟเวอร์หรือฐานข้อมูลหลัก”

คำถามเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงช่องโหว่ในระบบรักษาความปลอดภัยทางดิจิทัลของรัฐ ที่ยังต้องได้รับการยกระดับอย่างจริงจัง

 

วิเคราะห์: ไทยยังขาดระบบความมั่นคงไซเบอร์ระดับชาติที่เข้มแข็งเพียงพอ?

กรณีการโจมตีเว็บไซต์หน่วยงานรัฐครั้งนี้ สะท้อนข้อเท็จจริงสำคัญ 3 ประการ ได้แก่:

1. ความไม่พร้อมของหน่วยงานท้องถิ่น

เว็บไซต์ของหน่วยงานระดับเทศบาล โรงเรียน และสำนักงานเขตพื้นที่ต่างๆ มักมีงบประมาณจำกัดในการดูแลระบบ IT ซึ่งเปิดช่องให้แฮกเกอร์เจาะได้ง่ายกว่าหน่วยงานส่วนกลาง

2. ขาดแผนสำรองและมาตรการตอบสนองที่เป็นระบบ

การฟื้นฟูเว็บไซต์แต่ละแห่งให้กลับมาใช้งานได้อาจใช้เวลาหลายวัน และหลายหน่วยงานไม่มีแผนสำรองการสื่อสารหรือการให้บริการระหว่างที่ระบบล่ม

3. การรักษาความปลอดภัยแบบไม่บูรณาการ

ปัจจุบันแต่ละหน่วยงานยังคงแยกกันดูแลระบบของตนเอง โดยไม่มีศูนย์กลางหรือแนวทางการรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการ ซึ่งทำให้ภาพรวมของ “ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ระดับประเทศ” ยังไม่เข้มแข็ง

 

ข้อเสนอแนะ: ประเทศไทยควรเร่งยกระดับไซเบอร์ซีเคียวริตี้โดยด่วน

ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์หลายรายเสนอว่าประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับเรื่อง “ความมั่นคงทางไซเบอร์” ในระดับนโยบายและโครงสร้างพื้นฐาน ดังนี้:

เร่งจัดตั้งศูนย์กลางความมั่นคงไซเบอร์ระดับชาติ ที่สามารถตรวจจับ วิเคราะห์ และตอบสนองต่อภัยคุกคามได้แบบเรียลไทม์

ยกระดับระบบรักษาความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของรัฐทุกระดับ โดยเฉพาะหน่วยงานท้องถิ่นที่มักถูกมองข้าม

จัดงบประมาณฝึกอบรมบุคลากรด้านไอทีของหน่วยงานรัฐ เพื่อเพิ่มความสามารถในการป้องกันและรับมือกับภัยคุกคาม

กำหนดมาตรฐานกลางสำหรับการออกแบบเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐ โดยต้องผ่านการตรวจสอบช่องโหว่ความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ

 

สรุป: เหตุดังกล่าวคือ "เสียงเตือน" ไม่ใช่แค่ข่าว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ควรถูกมองว่าเป็น “สัญญาณเตือน” ของปัญหาที่ฝังรากลึกในระบบราชการไทย ซึ่งรวมถึงการจัดการทรัพยากรบุคลากรไอที งบประมาณ การบูรณาการเทคโนโลยี และการขาดความพร้อมในการรับมือกับโลกยุคใหม่ที่ภัยไซเบอร์กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นทุกวัน

คำถามที่ว่า “ประชาชนจะเชื่อมั่นรัฐได้แค่ไหน?” คงไม่ใช่แค่คำถามในโลกโซเชียลอีกต่อไป แต่กลายเป็นคำถามระดับประเทศที่ภาครัฐจะต้องตอบให้ได้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างแท้จริง

หากคุณสนใจความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับความมั่นคงไซเบอร์ในไทย หรือมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ สามารถร่วมแชร์ความคิดเห็น หรือเสนอแนะแนวทางการป้องกันในคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย

 

 

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
มัดรวมเลขเด็ดสำนักดังงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2568 EP 2เพจดังเปิดภาพ เขมรเตรียมกำลังพลใหม่ด่วน ตู้แช่ไม่รอด FIVB สั่งปรับเวียดนามแพ้-ตัดสิทธิ์ผู้เล่น U21 ทันที หลังพบส่งนักกีฬาที่ไม่มีสิทธิ์ลงแข่ง“ดิว อริสรา” เปิดตัวธุรกิจใหม่ ‘ครัวบ้านดิว’ น้ำพริก ปลาสลิดทอด ต้มจืดหน่อไม้กระดูกหมู ราคาชุดละ 599 บาท กับเสียงวิจารณ์หลากหลายจีนบริจาครถพยาบาลให้กับเขมรมากถึง 140 คัน ถูกส่งผ่านขบวนรถไฟสู่กรุงพนมเปญสื่อนอกตีข่าวเขมรในไทยแห่กลับบ้านเฉียด 8 แสน บ่นระงมไร้งานเริ่มอดอยาก ไม่กลับก็กลัวฮุนเซนยึดที่ดิน หนำซ้ำถูกแบงก์ให้จ่ายหนี้สินกัมพูชาตบรางวัล มอบรถมอเตอร์ไซค์ 10 คันให้ทหารเขมรแนวหน้ากัมพูชาขึ้นป้ายบิลบอร์ดขนาดยักษ์ 3 ด้าน ปลุกกระแสนิยมอวย "ฮุนมาเนต" ทั่วกรุงพนมเปญ! ด้วยข้อความว่า "ทุกคนไว้วางใจรัฐบาล และกองทัพของเรา""ธนพร" แนะ "ภูมิธรรม" ตัดขา 1 ข้าง ยินดีออกเงินให้ จะได้เข้าใจหัวอกทหาร ไม่แน่ใจเป็นคนไทยหรือไม่ บอกทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นอุบัติเหตไม่ใช่เรื่องใหม่สิบเลขขายดี สลากตัวเลขสามหลัก N3 งวด 16/8/68โอ๊ยหนอ...น้องเสือดำแห่งป่ากุยบุรี น่ารักจัดๆเลยเน่อเดือด! ตำรวจ ตชด. โพสต์ถึงกัน จอมพลังแบบไม่อ้อมค้อม คนแห่แชร์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ดร.ตฤณห์ ลั่น! ไม่รับคำขอโทษหมอบี แฉบทเหยื่อหลอกตา“ดิว อริสรา” เปิดตัวธุรกิจใหม่ ‘ครัวบ้านดิว’ น้ำพริก ปลาสลิดทอด ต้มจืดหน่อไม้กระดูกหมู ราคาชุดละ 599 บาท กับเสียงวิจารณ์หลากหลายเพจดังเปิดภาพ เขมรเตรียมกำลังพลใหม่เปิด 5 แบรนด์กาแฟยอดนิยมใน “กัมพูชา” – มีแบรนด์ไทยติดโผด้วย!พระเขมรเรียกร้องความยุติธรรม หลังไทยโจมตีทางอากาศ ทำลายพระเจดีย์และพระสงฆ์เสียชีวิตม้าในสงครามกลางเมืองสเปน โล่ผู้พลีชีพที่บาร์เซโลนา 1936
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
หวั่นเป็น สายลับ 2 พระเขมร มาขอจำวัด ใน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเทิงเทรา ตำรวจจับสึก ไล่กลับประเทศทันที“ดิว อริสรา” เปิดตัวธุรกิจใหม่ ‘ครัวบ้านดิว’ น้ำพริก ปลาสลิดทอด ต้มจืดหน่อไม้กระดูกหมู ราคาชุดละ 599 บาท กับเสียงวิจารณ์หลากหลายกัมพูชาขึ้นป้ายบิลบอร์ดขนาดยักษ์ 3 ด้าน ปลุกกระแสนิยมอวย "ฮุนมาเนต" ทั่วกรุงพนมเปญ! ด้วยข้อความว่า "ทุกคนไว้วางใจรัฐบาล และกองทัพของเรา"แฟนๆ เซอร์ไพรส์! เน็ตไอดอลสาวไต้หวัน..ผันตัวเป็นนางเอก A\/ ญี่ปุ่น
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง