Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สาวเผยนาทีชีวิต! แพ้ฟิลเลอร์หน้าพังถึงขั้นแพนิค – โซเชียลเสียงแตก “ไม่ทำก็สวยอยู่แล้ว”

โพสท์โดย zzz1111

สาวแชร์ประสบการณ์เฉียดเสียโฉมเพราะ “แพ้ฟิลเลอร์” เตือนสาว ๆ อย่ามองข้ามสุขภาพก่อนทำสวย

เป็นอีกหนึ่งเคสเตือนใจที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kittiya Menaruji ออกมาแชร์ประสบการณ์สุดระทึกในชีวิต หลังจากเคยผ่านเหตุการณ์เกือบเสียโฉมเพราะ “แพ้ฟิลเลอร์” อย่างรุนแรงเมื่อ 2 ปีก่อน จนต้องกลายเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินทางความงาม และต้องใช้เวลารักษาตัวนานนับสัปดาห์กว่าจะกลับมาเป็นปกติ

แม้วันนี้เธอจะหายดีแล้ว แต่บทเรียนครั้งนั้นยังคงอยู่ และเธอเลือกที่จะนำเรื่องราวทั้งหมดมาเปิดเผยเพื่อเป็น “กรณีศึกษา” ให้กับสาว ๆ ที่กำลังวางแผนจะเข้าสู่โลกแห่งการทำหัตถการเสริมความงาม

จุดเริ่มต้นของ “ความสวยที่ต้องแลก”

จากโพสต์ที่เธอเขียน เธอเล่าว่าตัวเองเป็นคนหนึ่งที่อยากดูดีขึ้น จึงตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์เป็นครั้งแรกที่บริเวณคางในปริมาณเพียง 1 cc ซึ่งตอนนั้นมีอาการบวมเล็กน้อย เธอจึงคิดว่าเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นหลังการฉีด

แต่ในครั้งที่สอง เธอตัดสินใจฉีดเพิ่มรวม 4 cc โดยแบ่งเป็นคาง 1 cc ร่องแก้ม 2 cc และที่ปาก 1 cc ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ฝังใจ เธอบอกว่า...

 “ฉีดปากแค่ 1 cc แต่ร่างกายแพ้หนักมาก ปากบวมแบบปวดแสบปวดร้อน เหมือนมันจะระเบิดออกมา ทรมานที่สุดในชีวิต”

เหตุการณ์เลวร้ายหลังฉีด: “น้ำตาตกเพราะอยากสวย”

หลังจากเกิดอาการแพ้ เธอถูกส่งตัวไปรักษาทันที โดยต้องฉีดยาฆ่าเชื้อและยาสลายฟิลเลอร์ติดต่อกันนานถึง 5 วัน ใช้เวลาเกือบ 1 สัปดาห์ กว่าหน้าจะยุบลง และกว่า 2 สัปดาห์ จึงจะเริ่มกลับมาใกล้เคียงสภาพเดิม แต่ถึงอย่างนั้น เธอยังรู้สึกว่าผิวบริเวณที่เคยฉีด “ไม่เหมือนเดิม 100%” เพราะมีความตึงและยืดหยุ่นน้อยลง

เธอกล่าวด้วยความเสียใจว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่จิตตกมาก ไม่กล้าออกจากบ้าน และไม่กล้าส่องกระจก

 “ตอนนั้นคิดอย่างเดียวคือ ‘กูไม่น่าเลย’ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียใจมาก”

บทเรียนสำคัญ: “หมอไม่ผิด คลินิกไม่ผิด แต่เราต้องรู้จักร่างกายตัวเองให้ดีก่อน”

แม้หลายคนจะคิดว่าเป็นความผิดของแพทย์หรือคลินิก แต่เธอออกมายืนยันชัดเจนว่า ไม่ใช่ความผิดของใครเลย

 “เราเคยฉีดฟิลเลอร์มาจาก 2 คลินิก คนละหมอ ใช้ฟิลเลอร์ 3 ยี่ห้อ (ม่วง ทอง ตำ) ก็แพ้ทั้งหมด สุดท้ายเราต้องยอมรับความจริงว่า ร่างกายเรานั่นแหละที่แพ้สารเหล่านี้เอง”

เธอจึงอยากให้เคสของเธอเป็นอุทาหรณ์ว่า ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรกับร่างกาย โดยเฉพาะหัตถการที่เกี่ยวกับการฉีดสารเข้าใต้ผิวหนัง ควรตรวจเช็กร่างกายให้แน่ใจก่อนว่าเราไม่มีอาการแพ้

คำแนะนำจากเจ้าตัว: “อย่าปรึกษาเพื่อนในเวลาฉุกเฉิน ให้ไปหาหมอทันที!”

อีกสิ่งหนึ่งที่เธออยากย้ำคือ อย่าเพิ่งเสียเวลาปรึกษาเพื่อน หรือโพสต์ถามในโซเชียลมีเดียว่า “ควรทำยังไงดี” ในเวลาฉุกเฉินแบบนี้ เพราะนอกจากจะไม่ได้คำตอบที่ช่วยแก้ไขสถานการณ์แล้ว อาจยิ่งทำให้เครียดกว่าเดิม

“ถ้าเราไปหาหมอเร็ว รักษาเร็ว ก็มีโอกาสกลับมาเป็นปกติได้มากกว่า อย่ารอให้แย่ แล้วค่อยวิ่งหาแพทย์”

 

ปัจจุบัน: หายดีแล้ว แต่ยังมีความกลัว

เธอยืนยันว่าทุกวันนี้สุขภาพผิวหน้าและร่างกายโดยรวมกลับมาดีแล้ว 100% พร้อมโพสต์ภาพปัจจุบันยืนยันว่าทุกอย่างโอเคแล้ว แต่ความทรงจำในตอนนั้นยังคงอยู่ และเธอตัดสินใจงดฟิลเลอร์ตลอดชีวิต แม้ในใจจะยังอยากดูดีเหมือนเดิมก็ตาม

“มีคนทักบ่อยว่าแก้มตอบ หน้าดูโทรม อยากฉีดเติมใจจะขาด แต่มันไม่ได้แล้วค่ะ กลัวจริง ๆ”

ชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจ พร้อมชี้ “เธอสวยอยู่แล้ว ไม่ต้องเติมอะไรเลย”

หลังจากโพสต์ถูกเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาคอมเมนต์มากมาย โดยเสียงส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เธอสวยอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องฉีดอะไรเพิ่มเลย” หลายคนยังขอบคุณที่เธอกล้าเปิดเผยเรื่องจริง เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่คนอื่น

นอกจากนี้ยังมีผู้สนใจอยากทราบว่าเธอแพ้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนบ้าง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เปิดเผยว่า ทั้ง 3 ยี่ห้อที่เคยลอง เธอแพ้ทั้งหมด และยืนยันว่าไม่ใช่ความผิดของตัวยา เพราะแต่ละยี่ห้อล้วนผ่านการรับรอง แต่ “ร่างกายของเธอ” เป็นผู้ไม่ยอมรับสารเหล่านั้นเอง

สรุป: ความสวยคือสิทธิของทุกคน แต่อย่าลืม “ปลอดภัยไว้ก่อน”

เรื่องราวของ Kittiya Menaruji เป็นอีกหนึ่งเสียงจากผู้มีประสบการณ์จริง ที่อยากให้ผู้หญิงทุกคนตระหนักว่า “ความสวยต้องมาพร้อมความปลอดภัย” การหาข้อมูลก่อนทำหัตถการใด ๆ เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการตรวจสุขภาพ และทดสอบการแพ้เบื้องต้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด “ผู้หญิงทุกคนอยากสวย แต่อย่าลืมว่า ความปลอดภัยของตัวเราเองต้องมาก่อน”

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ข่าว เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก…จะมีโอกาสเกิดขึ้นจริงไหม? ล่าสุดคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว“ป้าโน๊ต” จากกะเทยช่างกล สู่ผู้กำกับมือทอง!ชื่นชม “เคน ภูภูมิ” กับความมุ่งมั่น ปลูกสวนทุเรียนกว่า 200 ไร่ที่สงขลา พร้อมพา “เอสเธอร์” มาร่วมภูมิใจในความสำเร็จอ.จตุรงค์จี้ถาม! 20 ปีเงินบริจาคเพียบ ทำไมไม่สร้างรพ.เดินทางขากลับ เร็วกว่า ขาไป Returning trip effect เหตุผลที่ว่า ทำไมขาไป ถึงรู้สึกช้ากว่า ขากลับไวรัล! แมวจรหลงสถานีตำรวจ โดนจับเซ็นสัญญาเป็น “หมวดแมวส้ม” ทำงานแลกอาหารเปียก 🐱👮‍♂️เงินเดือนทหาร BHQ ได้เท่าไหร่? ไม่แปลกใจทำไมคนกัมพูชาถึงอยากเป็นกันจัง!เพจดังเปิดภาพเปรียบเทียบอดีตและปัจจุบัน ปราสาทตาเมือนธมฝรั่งเจออะไรแปลกๆ ในโรงแรมไทย..ทำเอาคนไทยถึงกับตกใจกันหมดดราม่าร้อน! กัน จอมพลัง-ต้นอ้อ อ้างสนิทอธิบดีพม. แชตปี 66 หลุดตำรวจทางหลวงสระแก้วสกัดรถขนแรงงานเถื่อน ชาวกัมพูชา 9 คน พร้อมคนไทยพาหลบหนีเข้าเมืองตุรกีสะเทือน! แผ่นดินไหวขนาด 6.1 เขย่าจังหวัดบาลิเคซีร์ รู้สึกได้ถึงอิสตันบูล
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นักท่องเที่ยวหด! กัมพูชาขาเข้าลดฮวบหลังปะทะชายแดนไทย-เขมร กระทบหนักผู้ประกอบการท่องเที่ยวฝรั่งเจออะไรแปลกๆ ในโรงแรมไทย..ทำเอาคนไทยถึงกับตกใจกันหมดตุรกีสะเทือน! แผ่นดินไหวขนาด 6.1 เขย่าจังหวัดบาลิเคซีร์ รู้สึกได้ถึงอิสตันบูลจังหวัดเพียงหนึ่งเดียวในไทย ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 2 ล้านคนพระสงฆ์ 2,569 รูป ในกรุง พนมเปญ กัมพูชา ร่วมเดินขบวน หวังส่งเสริม สันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีข้อเรียกร้อง ให้เคารพข้อตกลงหยุดยิง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
คะแนนสอบ 18/20 :เราสามารถอยู่ร่วมกับความไม่สมบูรณ์ได้หรือไม่?ตุรกีสะเทือน! แผ่นดินไหวขนาด 6.1 เขย่าจังหวัดบาลิเคซีร์ รู้สึกได้ถึงอิสตันบูลโดนัลด์ ทรัมป์ เผย เหตุประทะ ไทย - กัมพูชา มีผู้เสียชีวิตมากถึง 2000 กว่าคน“ป้าโน๊ต” จากกะเทยช่างกล สู่ผู้กำกับมือทอง!
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง