Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageราคาทองคำ
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กินข้าวมันไก่เกือบครึ่งโรงเรียนเข้า รพ.! แม่ค้าเผย มือมีแผลก่อนทำอาหาร

โพสท์โดย zzz1111

แม่ค้ามือเป็นแผล! สาเหตุครู-นักเรียนกินข้าวมันไก่แล้วท้องเสียยกชั้น ผลแล็บชี้ชัด “เชื้อสแตฟฟิโลคอคคัส ออเรียส” ตัวร้ายในครัว!

เกิดเหตุการณ์น่าตกใจและกลายเป็นอุทาหรณ์สำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยทางอาหาร เมื่อครูและนักเรียนโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หลังรับประทาน “ข้าวมันไก่” เป็นอาหารกลางวันแล้วเกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน บางรายมีไข้หนาวสั่นอย่างหนัก โดยภายหลังจากส่งตัวอย่างอาหารและสิ่งปนเปื้อนไปตรวจสอบ พบว่าต้นตอของอาการป่วยมาจาก "เชื้อแบคทีเรียสแตฟฟิโลคอคคัส ออเรียส" (Staphylococcus aureus) ซึ่งมีอยู่ในไก่ต้ม และเชื่อว่ามีการปนเปื้อนจากแผลเปิดของแม่ค้าผู้ประกอบอาหาร!

 

เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร?

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โรงเรียนปราน กัลยาณี (ปกณ.) ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปราจีนบุรี นครนายก อำเภอเมืองปราจีนบุรี ได้จัดอาหารกลางวันให้ครูและนักเรียนตามปกติ โดยอาหารที่ให้บริการในวันนั้นประกอบด้วยข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว ลาบไก่ ยำไข่ดาว ข้าวหมูแดง และน้ำราดหมูแดง

แต่หลังจากช่วงบ่ายได้ไม่นาน นักเรียนกว่า 22 คน และครูอีก 1 คน รวมทั้งหมด 23 คน เริ่มมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และในบางรายมีอาการไข้หนาวสั่นอย่างน่าเป็นห่วง จึงได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาล 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (16 ราย) และโรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ (7 ราย) เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน

 

เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที

เมื่อทราบเหตุการณ์ นายวีระพันธุ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้สั่งการให้นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยคณะจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองปราจีนบุรี สำนักงานอนามัยและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองปราจีนบุรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหาร และดำเนินการเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ (Lab)

ตัวอย่างที่เก็บส่งตรวจมีหลายรายการ ได้แก่:

ตัวอย่างอาเจียนของผู้ป่วย 4 ราย

ตัวอย่างจากไก่ต้ม (ข้าวมันไก่) 1 รายการ

ตัวอย่างอาหารอื่น ๆ เช่น ลาบไก่ ข้าวหมูแดง ยำไข่ดาว

ตัวอย่างจากอุปกรณ์ประกอบอาหาร ภาชนะ และพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ รวม 4 ตัวอย่าง

ผลตรวจชี้ชัด เชื้อแบคทีเรียในไก่ต้ม คือ “สแตฟฟิโลคอคคัส ออเรียส”

หลังจากผลตรวจทางห้องแล็บจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรออกมา พบว่าในตัวอย่างไก่ต้ม และอาเจียนของผู้ป่วย มีการปนเปื้อนของ “เชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus” ซึ่งเป็นชนิดที่ก่อให้เกิดภาวะอาหารเป็นพิษแบบเฉียบพลัน โดยเฉพาะเมื่ออาหารไม่ได้รับการปรุงหรือเก็บรักษาอย่างถูกสุขลักษณะ

สาเหตุหลักที่พบ คือการปนเปื้อนจาก "ผู้สัมผัสอาหาร" ซึ่งในกรณีนี้คือแม่ค้าผู้ประกอบอาหารที่มี “แผลเปิดที่มือ” ซึ่งเป็นทางผ่านของเชื้อเข้าสู่อาหารโดยตรง นับเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะเชื้อชนิดนี้สามารถผลิตสารพิษชื่อว่า “เอนเทอโรทอกซิน (Enterotoxin)” ที่ทนความร้อนได้สูง แม้จะนำอาหารไปอุ่นหรือปรุงซ้ำ ก็ไม่สามารถกำจัดพิษได้!

 

เชื้อสแตฟฟิโลคอคคัส ออเรียส คืออะไร?

เชื้อสแตฟฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปบนผิวหนัง จมูก หรือในทางเดินหายใจของคน โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ประกอบอาหารมีแผลเปิด เชื้อสามารถแพร่เข้าสู่อาหารได้ง่ายดาย หากผู้สัมผัสอาหารไม่มีการล้างมือหรือป้องกันอย่างเหมาะสม

เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภค จะผลิตสารพิษที่ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารทันที อาการมักเกิดขึ้นภายใน 2-6 ชั่วโมงหลังรับประทาน และอาจรุนแรงถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลหากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที

 

ผู้ป่วยหายแล้วบางส่วน แต่ควรระวังภัยซ้ำซ้อน

ณ วันที่ 10 มิถุนายน รายงานล่าสุดระบุว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร 16 คน ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 15 คน เหลืออีก 1 คนที่แพทย์ยังเฝ้าดูอาการ ส่วนผู้ป่วยที่โรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ทั้ง 7 คน กลับบ้านได้ทั้งหมดแล้ว

แม้อาการจะคลี่คลายลงในเบื้องต้น แต่เหตุการณ์นี้ก็สะท้อนถึงความสำคัญของความปลอดภัยในอาหารที่มักถูกมองข้าม โดยเฉพาะในสถานศึกษา ซึ่งเป็นแหล่งรวมของเด็กและเยาวชนที่ระบบภูมิคุ้มกันอาจยังไม่แข็งแรงพอจะต้านเชื้อได้

แนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ

จากเหตุการณ์นี้ หน่วยงานด้านสาธารณสุขได้แนะนำแนวทางการป้องกันอาหารปนเปื้อนดังต่อไปนี้:

1. ผู้ประกอบอาหารต้องไม่มีบาดแผลที่เปิด หรือควรสวมถุงมือที่สะอาด หากมีแผลควรปิดด้วยผ้าก๊อซหรือพลาสเตอร์ที่กันน้ำ และห้ามสัมผัสอาหารโดยตรง

2. ล้างมือให้สะอาด ก่อนและหลังสัมผัสอาหาร โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการกับอาหารดิบ

3. แยกอาหารดิบและอาหารปรุงสุกออกจากกัน โดยใช้ภาชนะและอุปกรณ์ที่แยกกันชัดเจน

4. เก็บรักษาอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค

5. ตรวจสุขภาพพนักงานปรุงอาหารเป็นประจำ และอบรมด้านสุขาภิบาลอาหารอย่างเคร่งครัด

 

บทเรียนสำคัญ: อาหารปลอดภัย เริ่มต้นจากมือของผู้ปรุง

เหตุการณ์นี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่มาจาก "แผลเล็ก ๆ ที่มือ" ของแม่ค้าเพียงคนเดียว แต่กลับส่งผลกระทบรุนแรงต่อครู นักเรียน และระบบการศึกษาอย่างน่าตกใจ นี่คือบทเรียนสำคัญที่สะท้อนว่า “ความสะอาด” และ “วินัยในการปรุงอาหาร” คือเรื่องที่ห้ามละเลยเด็ดขาด

ไม่เพียงแต่ผู้ปรุงอาหารในโรงเรียนเท่านั้น แต่รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ร้านอาหาร ร้านข้างทาง ไปจนถึงแม่บ้านที่ทำอาหารให้ครอบครัว ควรให้ความสำคัญกับสุขอนามัยเป็นอันดับแรก เพราะ “อาหารเป็นพิษ” ไม่เลือกเวลาและไม่เลือกใคร เหตุการณ์เล็กน้อยอาจกลายเป็นวิกฤตใหญ่ได้เพียงเพราะละเลยเรื่องง่าย ๆ อย่างการล้างมือและดูแลแผลที่มือให้มิดชิด

สรุป:

เหตุการณ์ครูและนักเรียนป่วยยกชั้นจากการกินข้าวมันไก่ในโรงเรียนไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย และไม่ควรมองข้าม เหตุผลที่เกิดขึ้นนั้นชี้ชัดถึงความจำเป็นในการดูแลความสะอาดและสุขลักษณะในการประกอบอาหารอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน และรักษาความปลอดภัยของทุกคนที่ต้องพึ่งพาอาหารในแต่ละวัน

อาหารคือชีวิต แต่หากปนเปื้อนเพียงนิดเดียว อาจกลายเป็นภัยถึงชีวิตได้โดยไม่รู้ตัว!

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ห้องน้ำกลางทะเล : เรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้จากชีวิตคนงานแท่นขุดเจาะแชมป์มวย "ชิเงรุ โคทาริ" เสียชีวิตในวัย 28 ปี"เขมรสิ้นคิด.. แยกแยะไม่เป็น! ถล่มน้องต่างชาติผู้หลงรักไทย เพียงแค่รำไทยประกอบเพลง ม.ขอนแก่น"เคยไหมที่ทำอะไรแปลกๆ? ระวัง! มันอาจเป็นสัญญาณเตือนของ “โรคทางจิตเวช” โดยไม่รู้ตัวเพจดังเปิดหน้าสด แร็ปเปอร์ แวนด้า comment ไทยสนั่นหน้าเขมรชัดๆเงินเดือน-ค่าเสี่ยงภัย “นักบินเครื่องบินรบ นักบินขับไล่” ไทย VS ต่างประเทศ ได้เท่าไหร่กันแน่มาดูกันทหารกัมพูชาเผยภาพหลุมลึกกลางป่า อ้างว่าเกิดจาก F16 ทิ้งระเบิด MK-84 2,000 ปอนด์ส่องไอจีสาวเขมรสายแซ่บ โชว์พาวทุบเบียร์ไทย ดีกรีนางแบบอินเตอร์"ผู้กองวิน ดา"เกมแตกเพราะป้าข้างบ้าน ที่แท้เป็นสายลับกัมพูชาที่แฝงตัวในไทยผักผลไม้ลดบวมน้ำ ลดบวมโซเดียม ขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายอย่างปลอดภัยจริงดิ? หมอญี่ปุ่นเตือน ห้ามทิ้งแมลงสาบลงชักโครก ไม่งั้นเจอ 2 ผลลัพธ์สุดสยอง!โชชิน Sho-shin ปรัชญาจากหลักธรรมของชาวญี่ปุ่น แนวคิดแห่งการเรียนรู้และพัฒนา ช่วยให้กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รู้จัก “BHQ” หน่วยอารักขาฮุน เซน ที่ไม่ใช่แค่บอดี้การ์ดเพจดังเปิดหน้าสด แร็ปเปอร์ แวนด้า comment ไทยสนั่นหน้าเขมรชัดๆมือถือชาร์จแบตไม่เต็ม 100% ไม่ได้พัง! แต่เป็นวิธีดูแลแบตเตอรี่ที่ถูกต้องและยืดอายุการใช้งานได้นานกว่าผักผลไม้ลดบวมน้ำ ลดบวมโซเดียม ขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายอย่างปลอดภัยภาพต้นไม้สวยๆ กับตึกสูงๆ ในกรุงเทพ"ผู้กองวิน ดา"เกมแตกเพราะป้าข้างบ้าน ที่แท้เป็นสายลับกัมพูชาที่แฝงตัวในไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
สยอง! เขมรนำอึ้งมาขายไทย ผ่าท้องพบเส้นผมมนุษย์ ที่แท้กินศพทหาร"ราเมศ" ปกป้อง "ม.ราม" หลัง "ฮุนเซน" หยามปริญญา..ลั่น! ไม่เหมาะกับคนไม่เต็มเพจดังเปิดหน้าสด แร็ปเปอร์ แวนด้า comment ไทยสนั่นหน้าเขมรชัดๆเตือนภัยเงียบ! "กลิ่นปากตอนเช้า" ที่คุณมองข้าม อาจเป็นสัญญาณร้ายของโรคร้ายที่คุณไม่ทันรู้ตัว!
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน LinePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageราคาทองคำ
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง