สุดเศร้า... “แสตมป์” นักบินหนุ่มจากไปกะทันหันหลังอาการทรุดหนักเพียงวันเดียว
สุดยื้อ! “แสตมป์ ชาวิษณ์” นักบินหนุ่มหัวใจแกร่ง เสียชีวิตอย่างสงบหลังต่อสู้มะเร็งนาน 3 ปี เพื่อนร่วมอาชีพ-ชาวเน็ตหลั่งน้ำตาอาลัย
วงการการบินและชาวไทยจำนวนมากต้องสูญเสียคนคุณภาพอีกหนึ่งรายอย่างไม่มีวันหวนกลับ เมื่อ “แสตมป์” หรือ นายชาวิษณ์ ชินสนธิกุล นักบินหนุ่มมากความสามารถจากสายการบิน Thai Smile ได้จากไปอย่างสงบในช่วงเวลาประมาณ 02.56 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2568 หลังอาการทรุดลงอย่างรวดเร็วเพียงวันเดียว ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว เพื่อนสนิท และชาวเน็ตที่เฝ้าติดตามให้กำลังใจมาโดยตลอด
เส้นทางชีวิตของนักบินหนุ่มผู้ไม่ยอมแพ้
“แสตมป์” ไม่ได้เป็นเพียงนักบินธรรมดา แต่คือบุคคลที่มีความฝันแรงกล้าในสายอาชีพการบิน จากนักเรียนการบินสู่การทำหน้าที่บนเครื่องบินพาณิชย์ Airbus A320 ด้วยความภาคภูมิใจและตั้งใจ เขาคือแบบอย่างของความขยัน ความพยายาม และความเสียสละเพื่ออาชีพที่รัก
กระทั่งช่วง 3 ปีก่อน เขาต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตครั้งใหญ่ เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเขาป่วยด้วยโรค มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนชนิดหายาก ซึ่งเป็นโรคที่พบได้น้อยและรักษายากมาก โดยเฉพาะในระยะลุกลาม นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อทั้งทางร่างกาย จิตใจ และด้านการเงิน
ต่อสู้ด้วยศรัทธาและความหวัง แม้ร่างกายจะเจ็บปวด
แม้ต้องเผชิญความทรมานจากการรักษาที่หนักหน่วง ทั้งการผ่าตัด คีโม และยานอกบัญชี แต่ “แสตมป์” ไม่เคยยอมแพ้ เขายังโพสต์เรื่องราวของตนเองอย่างเปิดเผยในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ และขอความช่วยเหลือจากสังคมเป็นครั้งสุดท้าย
ในโพสต์หนึ่ง เขาเล่าว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีของการรักษานั้น เขาได้ใช้เงินไปแล้วกว่า 6 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่ายานอกบัญชี และยังต้องการอีกประมาณ 1.5 - 2 ล้านบาท เพื่อการรักษาต่อไปอีก 6 เดือนถึง 1 ปี
ความกล้าหาญที่จะเปิดเผย และความศรัทธาในชีวิตของเขา ทำให้พลังโซเชียลเริ่มเคลื่อนไหว ผู้คนจากหลากหลายวงการทั้งในและนอกแวดวงการบิน ต่างร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเขาอย่างเต็มกำลัง ในระยะเวลาไม่นาน ยอดบริจาคก็เพียงพอสำหรับการรักษา และช่วยให้เขามีกำลังใจเดินหน้าต่อได้อีกครั้ง
วันสุดท้ายที่เงียบงัน แต่เปี่ยมด้วยความรัก
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Michael Punpisut ซึ่งคาดว่าเป็นเพื่อนสนิทของแสตมป์ ได้โพสต์แจ้งข่าวการจากไป พร้อมภาพและข้อความสุดซึ้งว่า:
“พี่แตมป์จะอยู่ในใจพวกเราตลอดไป 2.56 น. วันที่ 10 มิถุนายน หลังจากวันที่ 9 มิถุนา เริ่มทรุดหนัก เป็นเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น ที่ให้คนใกล้ชิดดูใจ พี่แตมป์โคตรจะสู้มากแล้วจริง ๆ ตั้งแต่วิ่งรักษากันมา ไม่มีวันไหนที่ไม่มีความหวัง สุดท้ายแล้ว ความหวังนี่เองที่เป็นพลังให้มีลมหายใจ...ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วครับพี่แตมป์ หลับให้สบาย ขับ Airbus A320 Thai Smile บินไปให้สูง ๆ สมกับความตั้งใจ และภาคภูมิใจ แล้วพบกันใหม่ในสักวัน...”
ประโยคเรียบง่ายแต่กินใจ ทำให้ผู้ที่ได้อ่านไม่อาจกลั้นน้ำตา หลายคนย้อนกลับไปดูโพสต์ก่อนหน้าของแสตมป์ ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แม้ร่างกายจะเริ่มไม่ตอบสนอง แต่เขายังพยายามใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย และยังคงยิ้มให้กับเพื่อนฝูงทุกคน
กระแสอาลัยจากเพื่อนนักบินและคนในโลกออนไลน์
หลังข่าวการเสียชีวิตถูกเผยแพร่ออกไป โลกโซเชียลเต็มไปด้วยโพสต์ไว้อาลัย ไม่เฉพาะเพื่อนนักบิน หรือคนในวงการอากาศยานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนที่เคยได้รับรู้เรื่องราวของเขาผ่านโซเชียลมีเดีย
หลายคนระบุว่า “แสตมป์” คือแรงบันดาลใจ เป็นนักสู้ผู้ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา และเป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจจริงในเส้นทางชีวิต
“หลับให้สบายบนฟ้า พี่คือฮีโร่ในใจพวกเราเสมอ”
“ถึงเวลาบินกลับบ้านแล้วนะ กัปตันแตมป์”
“ชีวิตพี่สั้น แต่ความหมายยาวมาก ขอบคุณที่สู้ให้เราเห็นว่าความหวังสำคัญแค่ไหน”
ข้อความเหล่านี้ยังคงไหลมาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่า “แสตมป์” จะถูกจดจำไปอีกนานในฐานะนักบินหัวใจนักสู้
เสียงสะท้อนจากกรณี “แสตมป์” ถึงระบบสุขภาพของไทย
นอกจากความโศกเศร้า ความตายของแสตมป์ยังจุดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ ระบบการเข้าถึงยารักษาโรคเฉพาะทางในประเทศไทย โดยเฉพาะกรณีของยานอกบัญชี ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก และไม่สามารถเบิกได้จากสิทธิประกันสุขภาพทั่วไป
กรณีนี้ทำให้เกิดคำถามว่า คนธรรมดาที่ไม่มีชื่อเสียงจะสามารถรักษาโรคร้ายได้จริงหรือไม่ หากขาดเงินหรือขาดพลังโซเชียลช่วยระดมทุน?
แม้หลายคนจะยอมรับในน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือกันยามยาก แต่ก็สะท้อนถึงช่องโหว่ที่ควรได้รับการแก้ไขในเชิงโครงสร้างของระบบสาธารณสุข
ความฝันที่ส่งต่อบนฟากฟ้า
แม้วันนี้ “แสตมป์” จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ความฝันของเขายังอยู่ หลายคนที่อ่านเรื่องราวของเขาได้แรงบันดาลใจที่จะไม่ยอมแพ้ ไม่ย่อท้อต่อโรคร้าย หรืออุปสรรคใดๆ ในชีวิต
ภาพของกัปตันหนุ่มผู้ยิ้มแย้มแม้ในวันที่ร่างกายแทบไม่ไหว จะยังคงปรากฏในใจผู้คนเสมอ เหมือนดั่งที่เขาเคยกล่าวไว้ว่า:
“ไม่มีวันไหนที่ผมไม่หวัง เพราะความหวังมันทำให้เราหายใจอยู่ได้”
การจากไปของ “แสตมป์ ชาวิษณ์” อาจเป็นจุดจบของลมหายใจหนึ่ง แต่ไม่ใช่จุดจบของเรื่องราวที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เขาคือนักบินที่ไม่ได้บินแค่ในฟากฟ้า แต่ยังบินอยู่ในใจของใครหลายคนที่เรียนรู้จากเขาว่า ความหวัง ความอดทน และการไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา คือพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่ง
หลับให้สบายบนฟ้าอันไร้ขอบเขต “กัปตันแสตมป์” ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณมอบไว้ให้โลกใบนี้

















