ลั่นไม่ยอมเสียเปล่า! ตั้ม วราวุธ เดินเกมกฎหมาย ยกคุณพ่อเป็นทนาย จัดการชัดคู่กรณี
“ตั้ม วราวุธ” เปิดใจหลังประสบอุบัติเหตุรุนแรงที่สุดในชีวิต ขณะขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านกลางดึก เผยผลกระทบทั้งร่างกาย จิตใจ และงาน
กลายเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สร้างความตกใจให้แฟนๆ อย่างมาก สำหรับนักร้องนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม” หรือที่หลายคนรู้จักจากเวที The Star หลังประสบอุบัติเหตุขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เมื่อคืนวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 เวลาประมาณ 4 ทุ่ม บริเวณถนนกรุงเทพกรีฑา 32 โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าตัวต้องเข้ารับการรักษาทั้งจากแผลภายนอกและภายใน ซึ่งล่าสุดเขาได้ปรากฏตัวในงานแถลงข่าวโครงการ “BUFF TO BUILD NUMBER ONE” และเปิดใจถึงเหตุการณ์ รวมถึงอัปเดตอาการอย่างละเอียดเป็นครั้งแรก
เหตุการณ์ไม่คาดฝัน : วินาทีที่ชีวิตเหมือนถูกตัดภาพ
“ผมจำอะไรไม่ได้เลยครับ ภาพมันตัดไปดื้อๆ ตอนแรกแค่รู้สึกตัวแล้วเห็นคนเข้ามาพยุง ตอนนั้นไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเลือดออก พอพี่คนที่ช่วยเขาบอกให้ไปนั่งพักข้างทาง ก็ถึงรู้ว่าเลือดไหลออกมาเยอะมาก พอก้มดูถึงเห็นว่าเลือดมันชุ่มเต็มหน้าเลย” – ตั้มกล่าว
เขาเล่าว่า ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตัวเองเป็นอย่างไร จนต้องถามคนที่เข้ามาช่วยว่า “หน้าผมโอเคมั้ย?” แต่คำตอบกลับทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น เมื่อมีคนบอกว่า “ฉีกเลยลูก” ทำให้เขารู้ทันทีว่าอาการหนักมาก
ความเสียหายทางร่างกาย : เจ็บทั้งภายนอกและภายใน
“แผลที่ปากคือฉีกจนเห็นฟันเลยครับ ตอนนี้แม้เวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์ก็ยังเจ็บอยู่ ส่วนแผลภายในปากก็ยังไม่สมานสนิท มันยังแข็งเป็นไตอยู่ ซึ่งเวลาโดนอะไรกระแทกเบาๆ ก็ยังรู้สึกเจ็บ” – ตั้มเล่าอย่างเปิดเผย
นอกจากแผลที่ปากแล้ว ยังมีปัญหาที่จมูกซึ่งต้องดัดกลับเข้าที่ รวมถึงแขนซ้ายที่ในวันเกิดเหตุถึงกับยกไม่ขึ้น เนื่องจากเอ็นข้อศอกได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง โดยเขาได้ฉีดสเต็มเซลเพื่อเร่งฟื้นฟู ซึ่งล่าสุดอาการดีขึ้นเกือบ 100% แล้ว
ฟันหน้าที่หายไปถึง 3 ซี่ ทำให้ต้องใส่วีเนียร์ชั่วคราว เพราะไม่สามารถใช้แบบถาวรได้ เนื่องจากแผลยังไม่สมบูรณ์ ทั้งหมดนี้เขายอมรับว่าเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงที่สุดในชีวิต
จิตใจที่ต้องเข้มแข็ง : กลัวเสียความทรงจำ
สิ่งที่น่ากังวลไม่แพ้บาดแผลคือเรื่องของ สมอง และ ความทรงจำ ตั้มยอมรับว่า “ตอนนั้นผมไม่สามารถนอนลงได้เลย เพราะปวดหัวมาก รู้สึกกลัวว่าจะสูญเสียความทรงจำ กลัวว่าสมองจะมีปัญหา”
สิ่งที่เขาทำหลังประสบเหตุ คือพยายามโทรหาแฟนสาว “หมวย” แต่ในตอนนั้นถึงกับจำไม่ได้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหน แม้จะมีป้ายบอกถนนอยู่ตรงหน้า เขากล่าวว่า “มันมืด มึน แล้วก็ช็อกมากครับ”
คู่กรณี : ความชัดเจนที่ยังต้องรอ
ตั้มยังเผยว่า ขณะเกิดเหตุเขาขับรถตามรถกระบะคันหนึ่ง ก่อนที่รถกระบะจะเลี้ยวเข้าซอย และมีรถอีกคันสวนออกมาจากซอยพอดี ทำให้เกิดการชนกัน โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ได้ชัดเจน ตอนนี้เรื่องคดีความอยู่ในความดูแลของคุณพ่อของเขาซึ่งเป็นทนายความ
“ฝั่งคู่กรณียังไม่ได้ติดต่อมาเลยจนผมต้องให้พ่อส่งหนังสือแจ้งเตือนไป หลังจากนั้นถึงมีญาติเขาโทรกลับมา” – ตั้มกล่าว พร้อมเผยว่าคู่กรณีก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน คือสะโพกหัก และกระดูกซี่โครงร้าว
ผลกระทบต่อชีวิตการทำงาน : งานหาย รายได้สะดุด
อุบัติเหตุครั้งนี้กระทบต่อชีวิตการทำงานของตั้มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเขาเล่าว่า
“จริงๆ ตอนนั้นผมมีงานพรีเซนเตอร์ตัวหนึ่ง ต้องเลื่อนถ่าย งานอีเวนต์สองงานก็ต้องยกเลิก คืนเงินลูกค้าไปเต็มๆ ส่วนงานใหม่ที่ยังไม่คอนเฟิร์มก็เงียบไปเลย เพราะลูกค้าไม่มั่นใจว่าผมจะสามารถร้องเพลงได้เหมือนเดิม”
แม้จะพูดได้ แต่เขายังมีปัญหาเรื่องการเปล่งเสียง บางคำออกไม่ชัด และอาจต้องมีคอรัสมาช่วยเสริมเสียงหากรับงานร้องเพลงในช่วงนี้
“ก่อนหน้านี้มีงานร้องเพลงหนึ่ง ไปแสดงเสร็จก็ต้องลงจากเวทีแล้วไปโรงพยาบาลเลย เพราะปากอักเสบ ตอนนี้ปากยังไม่กลับมา 100% หมอบอกว่าใช้เวลาประมาณ 3 เดือน แต่นี่ผ่านมาแค่ 3 สัปดาห์ ผมก็ออกงานแล้ว เพราะต้องหาเงิน ธนาคารมันไม่รอเรา”
พลังใจจากคนรอบข้าง : แรงผลักดันให้ลุกขึ้นอีกครั้ง
แม้จะเจ็บทั้งกายและใจ แต่ตั้มยืนยันว่าเขาไม่ยอมแพ้ โดยเฉพาะเมื่อมีแรงใจสำคัญจากคนรอบข้าง ทั้งแฟนสาว ครอบครัว และแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจ
“ผมรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ ครับ ขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความ ส่งกำลังใจมาให้ตลอด มันมีความหมายกับผมมากๆ”
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับ “ตั้ม วราวุธ” เป็นบทเรียนและช่วงเวลาสำคัญในชีวิต ที่ทำให้เขาได้สัมผัสทั้งความเจ็บปวดและความเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน แม้ร่างกายจะยังไม่หายดี 100% แต่หัวใจของเขาเดินหน้าต่อแล้ว ด้วยพลังใจที่ไม่เคยลดลง
ขอให้ตั้มฟื้นตัวเร็ววัน และกลับมาสร้างรอยยิ้มและพลังบวกให้แฟนๆ เหมือนเดิมในเร็ววัน
















