แตกแล้ว! ศาลออกหมายจับอดีตผู้สมัคร สก. โยงคดีค้าบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ฝั่งธนฯ
ทลายแก๊งบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่กลางกรุง! อดีตผู้สมัคร ส.ก. และแฟนสาว โดนหมายจับ ปมคดีบุหรี่ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 90 ล้านบาท
คดีสะเทือนวงการการเมืองท้องถิ่นและธุรกิจใต้ดินกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อชุดสืบสวนนครบาลร่วมกับชุดสืบสวน บก.น.9 และ สน.ภาษีเจริญ บุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ตามปฏิบัติการเข้มข้นในชื่อ “Operation Smoke Out 2” ซึ่งมีการปิดล้อมเป้าหมายสำคัญจำนวน 2 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยสามารถตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมหาศาลไว้เป็นของกลาง รวมถึงพบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก สร้างความฮือฮาและกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม
ออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหา พัวพันเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานว่า ศาลอาญาธนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออดีตผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตห้วยขวาง ในนามพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยแฟนสาว และพวกอีกสองคน
รายชื่อผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย:
1. นายอิทธิพล เลาหสุวัฒนกุล หรือ วอร์ม อดีตผู้สมัคร ส.ก. เขตห้วยขวาง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 583/2568
2. นายอนุสรณ์ ก่าเสริฐ ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 582/2568
3. น.ส.ธนาภา จันทะราษี ผู้ต้องหาหมายจับที่ 584/2568
4. น.ส.ฐานิฎฐ์ พัฒนปัณณ์ ผู้ต้องหาหมายจับที่ 585/2568
หมายจับทั้งหมดออกโดยศาลอาญาธนบุรีลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ซึ่งชี้ชัดถึงพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในเครือข่ายลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายอิทธิพล ผู้เคยมีบทบาทในเวทีการเมืองท้องถิ่น ก็ถูกเชื่อมโยงว่าเป็นหัวหน้าใหญ่ของเครือข่ายดังกล่าว
บุกค้นคอนโดฯ แฟนสาว พบหลักฐานชัดเจน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการตรวจค้นคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่บุคคโล ซึ่งหนึ่งในห้องพักเป็นของแฟนสาวของอดีตผู้สมัคร ส.ก. รายนี้ ผลการค้นพบของกลางจำนวนมาก ทั้งบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือพบ เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 500 นัด พร้อมสมุดบัญชีธนาคารหลายเล่มที่อาจเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของขบวนการค้าใต้ดินนี้
นอกจากนี้ ยังมีการบุกค้นบ้านอีก 3 หลังในย่านสุขสวัสดิ์ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่อาจเกี่ยวข้องกับการซ่อนตัวของผู้ต้องหาหรือเป็นสถานที่เก็บสินค้าผิดกฎหมาย แต่ยังไม่พบตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย คาดว่าทั้งหมดยังคงหลบหนีอยู่ภายในประเทศ
เส้นทางลักลอบนำเข้าและความเสียหายทางเศรษฐกิจ
จากการสอบสวนเชิงลึก พบพยานหลักฐานที่ระบุชัดว่า นายอิทธิพล มีบทบาทเป็นตัวการสำคัญในการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งลอตที่ถูกตรวจยึดในการปฏิบัติการครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 90 ล้านบาท นับเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปีของตำรวจนครบาล และสะท้อนถึงการเติบโตของตลาดสินค้าผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
เจ้าหน้าที่ลั่น พร้อมรับมือหากมีโจรมาปล้นกลางโรงพัก
ของกลางที่ถูกยึดกว่า 2 แสนชิ้นถูกจัดเก็บไว้ที่ สน.ภาษีเจริญ ซึ่งทางผู้กำกับการ สน.ภาษีเจริญ ได้ออกแถลงการณ์เด็ดขาด เตือนกลุ่มอาชญากรที่อาจวางแผนบุกปล้นของกลางว่า "ควรคิดใหม่" เพราะตำรวจมีทั้งกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และการเตรียมการป้องกันเต็มรูปแบบ พร้อมตอบโต้และปฏิบัติการด้วยยุทธวิธีขั้นสูง หากมีความพยายามลอบปล้นเหมือนเหตุการณ์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
หมายจับข้อหาหนัก! พ.ร.บ.ศุลกากรและประกาศกระทรวงพาณิชย์
ทั้ง 4 ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันลักลอบนำเข้าสินค้าต้องห้าม คือ บุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดตาม:
พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560
ประกาศกระทรวงพาณิชย์ ปี 2557 และ 2559
ประกาศกรมศุลกากรที่ 185/2564 ว่าด้วยพิธีการศุลกากรผ่านแดนทางอิเล็กทรอนิกส์
กรณีนี้สะท้อนถึงความจริงที่หลายฝ่ายพยายามเตือนกันมานานว่า การลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นตลาดมืดที่มีเงินหมุนเวียนมหาศาล และอาจมีข้าราชการหรือนักการเมืองบางส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ ภาษีรัฐ และสุขภาพของเยาวชนไทย
ตำรวจเร่งตามตัว คาดยังหลบหนีในประเทศ
หลังจากศาลออกหมายจับอย่างเป็นทางการ ตำรวจได้ประสานงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อเฝ้าระวังการหลบหนีออกนอกประเทศ ล่าสุดยังไม่มีข้อมูลว่าใครหลบหนีออกจากไทย คาดว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 รายยังซ่อนตัวอยู่ภายในประเทศ โดยตำรวจอยู่ระหว่างติดตามอย่างใกล้ชิด
บทเรียนครั้งใหญ่: นักการเมืองท้องถิ่นกับเงามืดธุรกิจใต้ดิน
การมีชื่ออดีตผู้สมัคร ส.ก. เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทำให้เกิดกระแสสังคมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบประวัติและเส้นทางการเงินของนักการเมืองในทุกระดับอย่างเข้มข้น เพราะนอกจากจะเป็นผู้มีบทบาทในระดับท้องถิ่นแล้ว ยังอาจเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับธุรกิจผิดกฎหมายได้อย่างลึกซึ้ง
กรณีการทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการกวาดล้างเครือข่ายผิดกฎหมายที่แฝงตัวอยู่ในสังคม โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ การที่มีบุคคลที่เคยมีบทบาทในเวทีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องยิ่งทำให้คดีนี้เป็นที่จับตามองของประชาชน และเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า การตรวจสอบบุคคลสาธารณะในทุกมิตินั้นมีความจำเป็นมากกว่าที่เคย
ตำรวจยืนยันว่า จะเดินหน้าตามล่าตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น เพื่อยุติขบวนการค้านรกยุคใหม่ที่กำลังบ่อนทำลายสุขภาพและความมั่นคงของประเทศอย่างเงียบๆ




















