ไม่เว้นแม้แต่เซเลบ! “คาบี แลม” ดาว TikTok ถูกควบคุมตัว สะเทือนนโยบายคนเข้าเมืองยุคทรัมป์
คาบี แลม โดน ICE ควบคุมตัวที่สหรัฐฯ ก่อนถูกส่งกลับประเทศ เหตุละเมิดเงื่อนไขวีซ่า จุดกระแสวิจารณ์นโยบายตรวจคนเข้าเมืองยุคทรัมป์
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ทันที เมื่อ คาบี แลม (Khaby Lame) อินฟลูเอนเซอร์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงจาก TikTok ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐฯ (ICE) ควบคุมตัวที่สนามบินแฮร์รี รีด เมืองลาสเวกัส เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักมาจากการละเมิดเงื่อนไขวีซ่า หลังจากเดินทางเข้าสหรัฐฯ เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
จากเด็กชายชาวเซเนกัล สู่ดาว TikTok ระดับโลก
สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นชื่อ คาบี แลม หรือชื่อเต็มว่า เซอริง เคอบาเน แลม (Khabane Lame) เขาเป็นชาวอิตาลีเชื้อสายเซเนกัล ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นคนงานโรงงานในอิตาลี ก่อนจะตกงานในช่วงวิกฤตโควิด-19 แต่ด้วยความคิดสร้างสรรค์และอารมณ์ขันเฉพาะตัว คาบีเริ่มถ่ายคลิปขำขันที่ไม่มีคำพูด ใช้เพียงสีหน้าและท่าทางประชดประชันความซับซ้อนในชีวิตประจำวัน จนกลายเป็นไวรัลทั่วโลก
ความโด่งดังของเขาทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก โดย ณ เดือนมิถุนายน 2025 เขามียอดผู้ติดตามบน TikTok สูงถึง 162.2 ล้านคน นับเป็นตัวเลขที่ทิ้งห่างจากอินฟลูเอนเซอร์คนอื่นๆ แบบไม่เห็นฝุ่น
ถูกควบคุมตัวที่สนามบินลาสเวกัส ก่อนถูกเนรเทศ “โดยสมัครใจ”
เหตุการณ์ที่นำไปสู่การควบคุมตัวของคาบีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่สนามบินแฮร์รี รีด ซึ่งเจ้าหน้าที่ ICE ได้ระบุว่า คาบีได้ “ละเมิดเงื่อนไขของวีซ่า” ที่เขาใช้ในการเข้าประเทศเมื่อต้นปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการใช้วีซ่าท่องเที่ยวในการทำกิจกรรมที่เข้าข่ายเชิงพาณิชย์ หรืออยู่เกินกำหนดระยะเวลา
โฆษกของ ICE ให้สัมภาษณ์กับ DailyMail.com ว่า คาบีได้รับอนุญาตให้ออกนอกประเทศโดยสมัครใจ และขณะนี้ได้เดินทางออกจากสหรัฐฯ แล้วเรียบร้อย โดยไม่มีการเปิดเผยว่าเขาเดินทางไปยังประเทศใด แต่อาจเป็นอิตาลีซึ่งเป็นประเทศที่เขาได้รับสัญชาติเมื่อปี 2022
แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน แต่กระแสในโซเชียลมีเดียกลับร้อนแรงอย่างมาก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของนโยบายตรวจคนเข้าเมืองภายใต้รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกลับมามีอำนาจอีกครั้งตั้งแต่ต้นปี
นักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาอ้างเป็นคนแจ้ง ICE จุดกระแสแบ่งขั้วในโซเชียล
เรื่องราวยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีกเมื่อ Bo Loudon นักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาชื่อดัง ออกมาโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของตนเองว่า เขาคือคนที่แจ้งเบาะแสต่อ ICE ให้ดำเนินการกับคาบี แลม โดยเขาแนบภาพหน้าจอจากเว็บไซต์ที่แสดงให้เห็นว่าคาบีถูกควบคุมตัวที่ศูนย์กักกันเมือง Henderson
อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น ข้อมูลดังกล่าวก็หายไปจากระบบ ทำให้เกิดการตั้งคำถามมากมายว่า มีการลบข้อมูลหรือไม่ และกระบวนการควบคุมตัวเป็นไปอย่างโปร่งใสหรือไม่
ในขณะที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของ Bo Loudon ว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติและแสดงความเกลียดชังต่อผู้อพยพ แต่กลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายคนเข้าเมืองแบบเข้มงวดกลับมองว่าเป็นการกระทำที่ “ถูกต้องตามกฎหมาย” และ “ปกป้องประเทศชาติ”
คาบียังคงเคลื่อนไหวบนโซเชียล – โพสต์จาก Venice Beach
แม้จะเผชิญเหตุการณ์ที่น่ากระทบกระเทือนใจ คาบีกลับเลือกที่จะไม่แสดงความคิดเห็นทางตรงต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เขายังคงเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง
ในวันที่ 7 มิถุนายน เพียงหนึ่งวันหลังถูกควบคุมตัว เขาได้โพสต์ภาพของชายหาด Venice Beach ลงใน Instagram Story และยังมีคลิปวิดีโอล่าสุดบน TikTok ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขายังคงไม่สูญเสียอารมณ์ขันและพลังบวกที่ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของผู้คนทั่วโลก
สะท้อนนโยบายคนเข้าเมืองยุคทรัมป์ – สร้างแรงกระเพื่อมในสังคม
เหตุการณ์ของคาบีเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นโยบายตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ภายใต้การกลับมาของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าจะบุกจับและเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายทั่วประเทศอย่างจริงจัง
นับตั้งแต่ต้นปี มีการบุกจับผู้อพยพหลายแสนราย โดยเฉพาะในรัฐที่มีประชากรต่างชาติอาศัยอยู่หนาแน่นอย่างแคลิฟอร์เนีย ซึ่งกรณีของคาบีอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของคลื่นการจับกุมอีกมากในอนาคต
เสียงสะท้อนจากชาวเน็ตทั่วโลก
ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากออกมาให้กำลังใจคาบี โดยบางคนระบุว่า “มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่บุคคลที่สร้างรอยยิ้มให้คนทั้งโลก กลับต้องเผชิญการถูกจับเพียงเพราะระบบที่เข้มงวดเกินไป” ขณะที่บางคนก็กล่าวว่า “ถ้าแม้แต่คาบีที่โด่งดังขนาดนี้ยังถูกจับ แล้วคนธรรมดาๆ ล่ะจะเหลืออะไร”
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนที่แสดงความคิดเห็นไปอีกด้าน โดยมองว่า “ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้าเข้าประเทศโดยละเมิดเงื่อนไขวีซ่า ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายเหมือนกัน”
บทสรุป: อินฟลูเอนเซอร์ระดับโลกกับกฎหมายที่ไม่มีข้อยกเว้น
เหตุการณ์ของคาบี แลม สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มงวดของระบบตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ที่ไม่เว้นแม้แต่บุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก อีกทั้งยังจุดประกายการถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับความเหมาะสมของนโยบายและวิธีปฏิบัติของ ICE ในยุคปัจจุบัน
แม้เขาจะถูกส่งกลับประเทศโดยสมัครใจ แต่เรื่องราวของเขายังคงเป็นหัวข้อร้อนในโซเชียล และเป็นอีกหนึ่งเครื่องย้ำเตือนว่า "ชื่อเสียง" ไม่สามารถปกป้องใครจาก "กฎหมาย" ได้เสมอไป




















