สุดปัง! สาวจีนรอบ้าน 3 ปีไม่เสร็จ ใส่ชุดเดียวเปลี่ยนเกม จนรัฐต้องรีบจัดการ
ไวรัลสนั่นโซเชียล! สาวจีนสู้เพื่อบ้านที่ยังไม่เสร็จใน 3 ปี ใช้ “ชุดรัดรูป” เป็นอาวุธเรียกร้องความยุติธรรม ดันรัฐเร่งส่งมอบใน 6 เดือน!
เมื่อความอดทนสิ้นสุดลง สิ่งที่เกิดขึ้นอาจกลายเป็น “พลัง” ที่ขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้าได้อย่างน่าทึ่ง! เรื่องราวสุดไวรัลของหญิงชาวจีนรายหนึ่งที่ใช้ความกล้า ความแกร่ง และ...ความสวย เป็นเครื่องมือเรียกร้องสิทธิของตัวเองและผู้เสียหายอีกนับพันครอบครัว กลายเป็นกระแสร้อนบนโลกออนไลน์ของจีนและทั่วโลกในเวลาชั่วข้ามคืน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองจ้าวจวง มณฑลซานตง ประเทศจีน เมื่อหญิงสาวเจ้าของบ้านที่ใช้ชื่อบนแพลตฟอร์ม Douyin (หรือ TikTok เวอร์ชันจีน) ว่า “ตงฉีและอู่ซง” (Dongqi and Wusong) ตัดสินใจลุกขึ้นประท้วงโครงการคอนโดที่เธอซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนมีลูก โดยตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี โครงการดังกล่าวกลับหยุดชะงัก ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ทั้งที่มีการผ่อนชำระเงินกู้กับธนาคารเป็นประจำทุกเดือน
บ้านในฝันกลายเป็นฝันร้าย ทวงเท่าไรก็เงียบ
ตงฉี เล่าว่า เธอและสามีจ่ายเงินดาวน์สำหรับห้องชุดในโครงการ จงหยวน ยวี่ฟู การ์เดน (Zhongyuan Yufu Garden) ตั้งแต่ก่อนมีลูก โดยมีแผนจะใช้อพาร์ตเมนต์ห้องนี้เป็นเรือนหอเริ่มต้นชีวิตครอบครัว
“ตอนนี้ลูกของฉันอายุ 3 ขวบแล้ว กำลังจะเข้าโรงเรียนอนุบาล แต่เรายังต้องเช่าห้องอยู่เหมือนเดิม ทั้งที่ผ่อนบ้านมานานถึง 3 ปี” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความกดดันและความผิดหวัง
แม้จะมีการยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองหรือความช่วยเหลือใด ๆ
จากวิดีโอธรรมดา สู่ “คลิปเซ็กซี่เปลี่ยนชีวิต”
ในตอนแรก ตงฉีและสามีเริ่มอัดวิดีโอลง Douyin เพื่อบอกเล่าปัญหาที่เกิดขึ้น และเรียกร้องความสนใจจากสังคม แต่ผลตอบรับกลับน้อยมาก ยอดวิวแทบไม่ขยับ และดูเหมือนเสียงของพวกเขาจะเงียบหายไปในกระแสโลกโซเชียลที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์หลากหลาย
แต่แล้วทั้งคู่ก็ตัดสินใจ “เปลี่ยนกลยุทธ์”
วันหนึ่ง ตงฉีปรากฏตัวในคลิปใหม่ในชุดรัดรูปสุดเซ็กซี่ เน้นสัดส่วนชัดเจน โดยยังคงเล่าเรื่องปัญหาคอนโดเช่นเดิม แต่คราวนี้เธอใส่อารมณ์ สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดึงดูดความสนใจในทันที
ผลปรากฏว่าคลิปนี้กลายเป็น ไวรัลทันที ภายในเวลาไม่ถึง 10 วัน ยอดผู้ติดตามพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว มียอดวิวทะลุหลักล้าน ทำให้ “โครงการคอนโดร้าง” ที่หลายคนเคยเพิกเฉย กลายเป็นประเด็นระดับชาติที่ชาวเน็ตพากันวิพากษ์วิจารณ์ สนับสนุน และกดดันรัฐบาลให้เร่งแก้ไข
เมื่อโซเชียลทรงพลัง ดันรัฐต้องเคลื่อนไหว
ท่ามกลางกระแสสังคมที่พุ่งตรงมาที่โครงการนี้ หน่วยงานภาครัฐจึงไม่อาจนิ่งเฉยต่อไปได้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรีบเข้าตรวจสอบพื้นที่โครงการ พร้อมสัญญาว่าจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเดินหน้าโครงการต่อให้เสร็จโดยเร็ว
ไม่นานนัก ก็มีรายงานว่า แรงงานก่อสร้างกว่า 10 คน ได้กลับเข้าไปในไซต์งาน พร้อมคำมั่นว่าจะทำให้โครงการเสร็จสมบูรณ์และส่งมอบห้องพักภายในระยะเวลา 6 เดือน
ไม่ใช่แค่ไวรัล แต่สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง
แม้เรื่องราวจะดูเหมือนจบด้วยความสำเร็จ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นได้จุดประกายคำถามจากสังคมจีนจำนวนมากว่า
ทำไมประชาชนต้องใช้วิธี “ฉูดฉาด” จึงจะได้รับความสนใจ?
ทำไมการร้องเรียนปกติถึงไม่มีผล?
แล้วคนที่ไม่มีรูปร่างหน้าตาหรือกล้าแสดงออกแบบตงฉีจะทำอย่างไร?
คำถามเหล่านี้สะท้อนถึง ปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบราชการและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีน ซึ่งเคยเกิดปัญหาโครงการร้างหลายแห่งทั่วประเทศ จนกลายเป็นวิกฤติความเชื่อมั่นของประชาชน
วิพากษ์ – วิจารณ์ พร้อมข่าวลือ
แม้จะมีผู้สนับสนุนมากมาย แต่ตงฉีก็ไม่รอดจากกระแส "แซะ-แฉ-ดราม่า" จากบางกลุ่มบนโลกออนไลน์ โดยมีเสียงวิจารณ์ว่าเธอจงใจแต่งตัวเซ็กซี่เพื่อ “สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง” หรือเพื่อ “เตรียมตัวเข้าสู่วงการเน็ตไอดอล” บ้างก็กล่าวหาว่าเธออาจใช้ความดังนี้เพื่อไลฟ์ขายสินค้าในอนาคต
ตงฉีชี้แจง: “เราไม่ได้อยากดัง แค่ไม่มีทางเลือก”
เพื่อสยบดราม่า ตงฉีและอู่ซง (สามี) ได้ออกมาชี้แจงผ่านคลิปใหม่อย่างชัดเจนว่า
“พวกเราไม่ได้อยากเป็นคนดังหรือขายของอะไรเลย สิ่งเดียวที่เราต้องการคือ ‘บ้าน’ ที่ควรจะได้รับตั้งแต่ 3 ปีก่อนเท่านั้น”
เธอยังเปิดเผยว่า หลังจากที่คลิปไวรัล เธอได้รับการเชิญตัวจากเจ้าหน้าที่ให้ไปพูดคุย พร้อมขอความร่วมมือให้นำเสนอแต่แง่มุม “เชิงบวก” ในการเรียกร้อง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานรัฐ
“ฉันก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง พอได้เป็นแม่คน ฉันถึงได้รู้ว่าการมีบ้านมันสำคัญแค่ไหน”
ขอสัญญา: ถ้าได้บ้าน จะปิดบัญชีและกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่าย
ในตอนท้าย ตงฉีได้ให้คำมั่นว่า หากวันหนึ่งเธอได้รับบ้านตามที่ควรจะเป็น เธอจะ “ปิดบัญชีโซเชียลมีเดีย” และไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ใด ๆ อีกต่อไป เพราะเธอเชื่อว่า การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อชื่อเสียง แต่คือการทวงคืนความยุติธรรมให้กับตัวเองและครอบครัว
สะท้อนเสียงของ “คนธรรมดา”
เรื่องราวของตงฉีและอู่ซง ไม่ใช่แค่ไวรัลชั่วคราว แต่คือภาพสะท้อนของประชาชนธรรมดาที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ในระบบที่ไม่เป็นธรรม ด้วยวิธีที่อาจไม่ใช่แบบดั้งเดิม แต่ได้ผลจริงในยุคดิจิทัล
มันไม่ใช่แค่เรื่องของ “บ้าน” หลังเดียว แต่มันคือ ความหวัง ความกล้า และพลังของเสียงเล็ก ๆ ที่รวมตัวกันจนเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้จริง
และมันก็ทำให้คนทั้งโลกหันกลับมามองคำถามเดิมอีกครั้ง...
“ถ้าสังคมยังไม่ยอมฟังเสียงธรรมดา เราจะต้องทำให้ตัวเองโดดเด่นแค่ไหน ถึงจะได้สิทธิที่ควรได้รับ?”
หากคุณกำลังเจอกับปัญหาคล้าย ๆ กัน บางทีเรื่องของตงฉีอาจไม่ใช่แค่แรงบันดาลใจ...แต่มันอาจเป็น “เครื่องเตือนใจ” ว่าเสียงของคุณมีค่าเสมอ ถ้าคุณกล้าจะพูดมันออกมา



















