จับตาดราม่าผู้ประกาศสาย Outdoor! ใครโดนโยง-ใครเคลียร์ตัวแล้วบ้าง?
สรุปชัด! ใครบ้าง “นักข่าวชายใส่แว่นสาย Outdoor” ที่ออกมาปฏิเสธแล้วว่า “ไม่ใช่ผมครับ” หลังเพจดังแฉคลิปพฤติกรรมอนาจารกลางแจ้ง
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกโซเชียลแทบลุกเป็นไฟ! หลังจากเพจดัง “ท่านเปา” ได้ออกมาโพสต์ข้อความปริศนาแนวแฉว่า มี “ผู้ประกาศข่าวชายใส่แว่น สาย Outdoor” รายหนึ่ง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงขั้นโชว์อนาจารในที่สาธารณะ โดยเฉพาะใน ห้องน้ำปั๊มน้ำมัน และ พื้นที่ใกล้รางรถไฟ พร้อมระบุว่ามีคลิปหลุดที่กำลังถูกปล่อยแชร์ต่อกันในกลุ่มลับ และบนแพลตฟอร์ม X (Twitter เดิม)
ทันทีที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็สร้างแรงกระเพื่อมอย่างหนักในหมู่ชาวเน็ต มีการคาดเดากันต่างๆ นานาว่า ผู้ประกาศข่าวชายใส่แว่นคนนั้นคือใคร? จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ สนั่นโซเชียล หลายคนเริ่มโยงชื่อบุคคลในวงการข่าวไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะผู้ชายที่มีลักษณะตรงกับคำใบ้ที่ว่า
เป็น “นักข่าวชาย”
“ใส่แว่น”
“สาย Outdoor”
มี “คลิปหลุดโชว์อนาจาร”
มีภาพลักษณ์ “น่าเชื่อถือในหน้าจอข่าว”
แต่แล้วไม่นานหลังจากเกิดกระแส เพจอื่นๆ ก็เริ่มทยอย “หักล้างคำใบ้” และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า บุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง ไม่ได้เป็นนักข่าวภาคสนามอย่างที่เข้าใจ แต่ เป็นผู้ประกาศข่าวที่นั่งอยู่ในสตูดิโอ และมีลักษณะงานเป็น แนววิเคราะห์ข่าวการเมือง มากกว่า ทำให้มีการเปลี่ยนทิศทางการคาดเดาอย่างชัดเจน
เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดเราได้รวบรวม รายชื่อผู้ประกาศข่าวชายใส่แว่น ที่ “ออกมายืนยันชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่ตน” ดังนี้:
1. หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย
พิธีกรชื่อดังแห่งรายการ “โหนกระแส” ที่หลายคนรู้จักดี มีภาพลักษณ์น่าเชื่อถือและมักตกเป็นเป้าของกระแสโซเชียลบ่อยครั้ง
หลังเกิดกระแสข่าว “ผู้ประกาศข่าวใส่แว่นสาย Outdoor” หนุ่มกรรชัย ได้รีบโพสต์แสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดียส่วนตัวในเชิงตลกปนขำขันว่า:
“ไม่ใช่คนใส่แว่นของหอแว่นนะจ๊ะ”
คำแถลงแบบขำๆ แต่แฝงความจริงนี้ สร้างเสียงหัวเราะและคลายข้อสงสัยให้แฟนคลับจำนวนมาก เพราะหนุ่มกรรชัยเป็นผู้ประกาศข่าวที่ “ไม่ได้สาย Outdoor” แถมยัง ใส่แว่นแบรนด์หรู ไม่ใช่จากร้านหอแว่นตามที่ลือกัน
2. อุ๋ย ภาคภูมิ
ผู้ประกาศข่าวชื่อดังอีกคนที่มีบุคลิกนิ่ง สุภาพ และภาพลักษณ์เรียบร้อย
เจ้าตัวไม่รอช้า รีบชี้แจงบนโซเชียลของตัวเองว่า:
“ไม่ใช่ผมนะครับ อย่าโยงเลยครับ ใจเย็นๆ”
คำแถลงสั้นๆ แต่ได้ใจผู้ติดตาม เพราะลักษณะของเขาไม่ได้เข้ากับคำใบ้ที่ว่าด้วย “Outdoor” และจากการตรวจสอบพบว่าเขามักจะทำงานในห้องส่ง ไม่ค่อยออกพื้นที่สนาม
3. อนุวัต เฟื่องทองแดง (อนุวัต จัดให้)
นักข่าวชื่อดังอีกคนที่แฟนข่าวจำได้ดีจากการลงพื้นที่แบบถึงลูกถึงคน
ถึงแม้จะมีชื่อเล่นขึ้นต้นด้วย อ.อ่าง ตามคำใบ้ที่หลายคนโยงถึง เจ้าตัวก็ออกมาขำๆ พร้อมปฏิเสธเสียงแข็งว่า:
“ไม่ใช่ผมหรอกครับ ถึงจะ อ.อ่าง เหมือนกัน แต่ผมผิวคล้ำ ขนขาเยอะ ไม่กล้าเข้าไปในที่มืดแน่นอน”
แม้คำพูดจะฟังแล้วขำขัน แต่ก็ช่วยยืนยันได้ว่าเจ้าตัว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีคลิปหลุดนี้
4. อ๊อก เอกภัทร์ – ผู้ประกาศข่าวการเมืองช่อง The Politics
ผู้ประกาศข่าวสายการเมืองชื่อดัง ซึ่งเข้าข่ายลักษณะ “นั่งวิเคราะห์ข่าวในสตูดิโอ” มากกว่าออกพื้นที่จริง
อ๊อก เอกภัทร์ ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนว่า:
“ไม่ใช่โผมมม ไม่ต้องตามมาฟอลนะค้าบ เมียเริ่มไม่เชื่อล้าวววว
แม้จะออกแนวฮาๆ แต่ชัดเจนว่าต้องการยืนยันสถานะว่า “ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ” และยังแอบส่งสารถึงภรรยาว่าอย่าเข้าใจผิดเลย
5. ไก่ ภาษิต
อดีตพิธีกรรายการเรื่องเล่าเช้านี้ และเป็นอีกหนึ่งผู้ประกาศข่าวที่มีภาพลักษณ์สุขุม
หลังจากถูกโยงในคอมเมนต์ว่าเข้าข่ายชายใส่แว่น เขาจึงรีบออกมาปฏิเสธแบบน่ารักๆ ว่า:
“ไม่ใช่ผมนะครับ ขาผมใหญ่กว่าเยอะ แล้วก็ไม่ชอบ Outdoor เพราะยุงเยอะ”
เป็นคำปฏิเสธที่เรียกรอยยิ้มจากแฟนคลับ พร้อมย้ำว่าเขาไม่ใช่สายลุยนอกสถานที่แน่นอน
ประเด็นที่ต้องพิจารณา: ใครคือ "ตัวจริง"?
แม้จะมีคำใบ้มากมาย แต่ปัจจุบันยัง ไม่มีการระบุชื่อบุคคลอย่างเป็นทางการ และยังไม่มีแหล่งข่าวใดออกมายืนยันอย่างแน่ชัดว่าผู้ที่ปรากฏในคลิปหลุดอนาจารนั้นคือใครกันแน่
แต่สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักคือ การคาดเดาโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน อาจก่อให้เกิด ความเสียหายต่อชื่อเสียงของผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นควรใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว และหลีกเลี่ยงการแชร์หรือโยงชื่อใครโดยไม่มีหลักฐาน
สรุป
กรณี “นักข่าวชายใส่แว่นสาย Outdoor” ที่ตกเป็นข่าวลือเรื่องพฤติกรรมอนาจารนั้น ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไป แต่จากการตรวจสอบและติดตามข่าวจนถึงขณะนี้ มีผู้ประกาศข่าวชายใส่แว่นหลายคนที่ออกมาปฏิเสธแล้วว่า “ไม่ใช่ตน” โดยเฉพาะรายชื่อที่กล่าวไปข้างต้น ได้แก่:
อุ๋ย ภาคภูมิ
อนุวัต จัดให้
อ๊อก เอกภัทร์
ไก่ ภาษิต
ทั้งหมดนี้ล้วนมีสถานะชัดเจนว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลิปหลุดดังกล่าว และได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า “ไม่ได้เป็นผู้ที่อยู่ในคลิป” เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและการโยงชื่อแบบไม่มีมูล


















