เปิดเงินเดือน “ฮุน มาเนต” ผู้นำกัมพูชา ลูกชายฮุนเซน รับเท่าไหร่ ถึงทำคนทั้งประเทศอึ้ง!
ฮุน มาเนต ผู้นำรุ่นใหม่ของกัมพูชา ทายาทคนโปรดของสมเด็จฮุน เซน กับเงินเดือนนายกรัฐมนตรีที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!
เมื่อพูดถึงประเทศกัมพูชาในยุคปัจจุบัน ชื่อของ “ฮุน มาเนต” (Hun Manet) มักถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในฐานะผู้นำรุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคต และยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีกเมื่อเขาเป็น “ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน” ของอดีตผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดของกัมพูชาอย่าง “สมเด็จฮุน เซน” ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมายาวนานถึงกว่า 30 ปี
แม้ว่าการส่งมอบอำนาจทางการเมืองจากบิดาสู่บุตรอาจจะเป็นเรื่องที่หลายคนตั้งข้อสังเกต แต่ด้วยภูมิหลังและประสบการณ์ที่น่าประทับใจของฮุน มาเนต หลายฝ่ายก็มองว่าเขาอาจเป็น “ความหวังใหม่” ของกัมพูชาในการปฏิรูปและพัฒนาประเทศในยุคโลกาภิวัตน์
เส้นทางชีวิตของฮุน มาเนต: จากเวสต์พอยต์สู่เก้าอี้ผู้นำประเทศ
ฮุน มาเนต ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกชายของผู้นำ แต่ยังเป็นบุคคลที่มีประวัติการศึกษาและการรับราชการที่โดดเด่น ในปี พ.ศ. 2542 เขากลายเป็นคนกัมพูชาคนแรกที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกเวสต์พอยต์ (United States Military Academy at West Point) สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถาบันการทหารชั้นนำของโลก ที่ผลิตผู้นำกองทัพและประธานาธิบดีของสหรัฐฯ มาแล้วหลายคน
หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรม ฮุน มาเนตยังเดินหน้าต่อในเส้นทางวิชาการ โดยได้รับปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (New York University) และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยบริสตอลในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหลักฐานถึงความสามารถทางวิชาการของเขา
ด้านการทำงาน ฮุน มาเนต เคยดำรงตำแหน่งสำคัญหลากหลาย อาทิ
- ผู้บัญชาการทหารบกราชอาณาจักรกัมพูชา
- รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา
มีบทบาทในช่วงเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อปี 2554 โดยเขาได้มีส่วนสำคัญในการบัญชาการกองทัพกัมพูชาในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดนั้น
รายงานจากสื่อในกัมพูชาระบุว่า ในการปะทะกับฝ่ายไทยครั้งหนึ่ง ฮุน มาเนตถึงขั้นได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ แม้จะเป็นลูกชายของนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่เขาก็ยังยืนหยัดอยู่แนวหน้าเคียงข้างกำลังพลของตนอย่างไม่หวั่นเกรง
จนกระทั่งในปี 2023 ฮุน มาเนต ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา สืบต่อจากบิดาของเขาอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนผ่านอำนาจทางการเมืองอย่างสงบ และกลายเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของการเมืองกัมพูชา
เงินเดือนนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!
หลายคนอาจจะคิดว่า “เงินเดือน” ของผู้นำประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มักจะอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะผู้นำที่มีอำนาจยาวนานอย่างในกัมพูชา แต่ความจริงที่ปรากฏอาจทำให้หลายคนต้อง “อึ้ง” เพราะเมื่อย้อนดูข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะพบว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก
รายงานจากเว็บไซต์ Khmer Times เมื่อปี 2016 เปิดเผยว่า เมื่อครั้งที่ “สมเด็จฮุน เซน” ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น ได้มีการปรับขึ้นเงินเดือนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงตัวเขาเอง โดยในขณะนั้นเงินเดือนของนายกรัฐมนตรีอยู่ที่ประมาณ 3.6 ล้านเรียล หรือคิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐราว 900 ดอลลาร์ หรือประมาณ 29,322 บาท
ต่อมาได้มีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านเรียลต่อเดือน หรือราว 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 81,449.99 บาท ณ อัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น) ซึ่งแม้จะดูเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากเดิม แต่ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับรายได้ของผู้นำประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Vice ก็เคยรายงานไว้ในปี 2020 ว่า สมเด็จฮุน เซน ได้รับเงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 2,500 ดอลลาร์ต่อเดือน แต่เมื่อรวมเบี้ยเลี้ยง สวัสดิการ และค่าใช้จ่ายพิเศษอื่นๆ อาจทำให้รายได้รวมต่อเดือนแตะระดับ “หลักแสนบาท” ในค่าเงินไทย
ซึ่งจากข้อมูลที่มีอยู่ และจากแนวโน้มในอดีต จึงสามารถสันนิษฐานได้ว่า เงินเดือนของฮุน มาเนต ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของกัมพูชา ก็อาจอยู่ที่ประมาณ 2,500 ดอลลาร์เช่นกัน หรือราว 81,449.99 บาท ต่อเดือน
เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ผู้นำประเทศอื่นในอาเซียน
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เราลองเปรียบเทียบกับเงินเดือนของผู้นำประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น
- ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ได้รับเงินเดือนเฉลี่ยปีละประมาณ 1.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 40 ล้านบาท)
- นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย รายได้ต่อเดือนประมาณ 75,000 ริงกิต (ประมาณ 570,000 บาท)
- นายกรัฐมนตรีไทย รายได้รวมประมาณ 125,590 บาทต่อเดือน (รวมเงินเดือนและค่าตำแหน่ง)
เมื่อเทียบแล้ว เงินเดือนของผู้นำกัมพูชาในระดับ ไม่ถึงแสนบาท ต่อเดือน ดูจะ “ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย” อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นอาจสะท้อนถึงนโยบายบริหารการเงินภาครัฐของกัมพูชาที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายในระดับผู้นำ หรืออาจเป็นเพียงตัวเลขที่เปิดเผยต่อสาธารณะเท่านั้น
ความท้าทายของฮุน มาเนต ในฐานะผู้นำรุ่นใหม่
แม้จะมีสายเลือดผู้นำอยู่เต็มเปี่ยม และมีประวัติทางการศึกษาที่ยอดเยี่ยม แต่การบริหารประเทศกัมพูชาในยุคปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่าย ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ความเหลื่อมล้ำ และการเรียกร้องประชาธิปไตยที่เริ่มทวีความเข้มข้นมากขึ้นจากประชาชนรุ่นใหม่
ฮุน มาเนต ต้องรับมือกับความคาดหวังของคนรุ่นใหม่ การสร้างสมดุลระหว่าง “ภาพลักษณ์ผู้นำทันสมัย” กับ “รากฐานอำนาจเก่า” ที่สืบทอดมาจากบิดา และที่สำคัญคือ การพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นเพียง “เงาของฮุน เซน” แต่เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และความสามารถของตนเอง
สรุป
“ฮุน มาเนต” เป็นผู้นำกัมพูชายุคใหม่ที่น่าจับตามอง ด้วยโปรไฟล์ที่น่าประทับใจ ทั้งด้านการศึกษาและประสบการณ์ทางทหาร การที่เขาก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของประเทศเพื่อนบ้านของไทยเรา
แม้เงินเดือนของเขาอาจดูต่ำกว่าที่หลายคนคาด แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ความสามารถในการบริหารประเทศ ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมในยุคโลกาภิวัตน์
และเราคงต้องจับตาดูต่อไปว่า ฮุน มาเนต จะสามารถนำพากัมพูชาไปสู่ยุคใหม่อย่างสง่างามได้หรือไม่














