ฉันเคยกังวลเกี่ยวกับ Chopper ฉบับไลฟ์แอคชั่นของ One Piece แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้วว่า Netflix กำลังทำให้เรื่องนี้ออกมาดี

เมื่อไม่นานมานี้ Netflix ได้เปิดเผยตัวละคร Tony Tony Chopper ที่ได้รับการรอคอยอย่างมากสำหรับ One Piece ซีซั่น 2 ฉบับคนแสดง และถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือเขาดูเหมาะกับตัวละครที่ดัดแปลงมาจากมังงะและอนิเมะมากทีเดียว หมอหมวกฟางกลายเป็นกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์หลังจากที่ทักทายผู้ชมในงานพิเศษนี้ โดยแฟนๆ ต่างแบ่งออกอย่างชัดเจนว่าพวกเขาชอบหรือผู้จัดรายการทำเอฟเฟกต์ CGI บน Chopper ได้แย่

ในฐานะกวางเรนเดียร์ตัวเล็กๆ โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ ได้สร้างความท้าทายครั้งสำคัญให้กับ ทีมงานไลฟ์แอ็กชัน ของวันพีซการออกแบบของเขาไม่ง่ายนักที่จะตอบโจทย์ได้เท่ากับของดาลตัน ซึ่งร่างวัวของเขาจะใช้เอฟเฟกต์จริงเป็นส่วนใหญ่ ทีมออกแบบเบื้องหลังวันพีซของ Netflix ได้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการออกแบบที่แปลกประหลาดซึ่งเป็นที่รู้จักในผลงานของเออิจิโร โอดะ ซึ่งรวมถึงทรงผมที่สดใสของนักแสดงหมวกฟางบางคนและพวกมนุษย์ปลา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง แต่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นไลฟ์แอ็กชันได้ดีด้วยวิธีการดั้งเดิมเหล่านี้

หลังจากผ่านไปหลายเดือนอันน่าสยองขวัญ Netflix ก็ได้เผยบุคลิกและรูปลักษณ์ของ Tony Tony Chopper ผ่าน CGI

แฟนๆ ที่รอคอย Baited Breath ควรโล่งใจที่มันไม่ใช่ความผิดที่ใหญ่กว่านี้

https://x.com/onepiecenetflix/status/1928977011474583573?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1928977011474583573%7Ctwgr%5Ed17794274f91f847f483ecb1d3f6fd904210b019%7Ctwcon%5Es1_c10&ref_url=https%3A%2F%2Fscreenrant.com%2Fone-piece-tony-tony-chopper-live-action-design-anime-fan-worried-op-ed%2F

แฟนๆ ต่างก็ชื่นชมและวิพากษ์วิจารณ์ การดัดแปลง One Piece ของ Netflix เกี่ยวกับหมอที่คนชื่นชอบ โดยหลายคนชี้ไปที่การกลับมาของการแสดงอันน่าอับอายของโซนิคเมื่อหลายปีก่อน แฟนๆ ต่างโกรธแค้นไปทั่วอินเทอร์เน็ตเมื่อเห็นรูปลักษณ์แรกของโซนิคในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันทำให้สตูดิโอต้องกลับไปวาดใหม่เพื่อทำการแก้ไขที่จำเป็น ในขณะที่เม่นดูเหมือนสัตว์ประหลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ช็อปเปอร์กลับดูสมจริงอย่างเหลือเชื่อกับภาพต้นฉบับในมังงะของโอดะ

ตั้งแต่ปลายจมูกสีฟ้าไปจนถึงกีบเท้าที่กระทบกับพื้น ชอปเปอร์จากเรื่อง One Piece ฉบับไลฟ์แอ็กชันนั้นเหมาะกับบทบาทนี้มาก ตัวตนที่ฟูฟ่องอย่างเหลือเชื่อของเขาชวนให้นึกถึงการพรรณนาครั้งแรกของเขาในอนิเมะ เนื่องจากเขาสูญเสียความชัดเจนนั้นไปมากในช่วงเวลาที่ข้ามไปหลังจากที่โอดะปรับปรุงการออกแบบและรูปลักษณ์ของตัวละครส่วนใหญ่ของเขาแม้ว่าเขาอาจจะอ้วนขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ได้รูปร่างที่แน่นอนนั้น แต่เขาก็มีสัดส่วนที่ถูกต้องทั้งหมด

แม้แต่ฟันของเขาซึ่งอาจจะดูแปลกๆ ในตอนแรกก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบดั้งเดิมของเขา การแสดงออกของเขานั้นเน้นให้เห็นชัดเจนเพียงพอที่จะรู้ว่าเขากำลังแสดงอารมณ์อะไร โดยไม่ดูเป็นลักษณะเฉพาะจนดูไม่เป็นธรรมชาติแต่ในฐานะกวางเรนเดียร์ที่พูดได้และมีพลังในการแปลงร่างเป็นมนุษย์ ช็อปเปอร์จึงดูไม่เป็นธรรมชาติอยู่เสมอ ช็อปเปอร์ให้เสียงโดยมิคาเอลา ฮูเวอร์ ทำหน้าที่ได้ดีในการแสดงตัวเองในฐานะบุคคลที่ยังเด็ก ไร้เดียงสา แต่ค่อนข้างไม่ไว้ใจใคร ซึ่งยังคงต้องดิ้นรนต่อสู้กับผู้คน

การออกแบบของ Chopper มักจะนำเสนอความท้าทายเสมอ

และเราน่าจะได้เห็นรูปแบบเพิ่มเติมอีกมากมาย

ไม่มีตัวเลือกมากนักสำหรับการออกแบบเฉพาะของ Chopper ที่จะนำไปทำเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชัน ในบางจุด ผู้จัดรายการ One Piece จำเป็นต้องใช้ CGI เพื่อสร้างตัวละครที่ไม่ธรรมดาที่ปรากฎในมังงะออกมาอย่างเหมาะสม ในฐานะผู้ใช้ผลปีศาจโซอันคนแรกๆ สารคดีเรื่องนี้จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบากเนื่องจากเขาตัวเตี้ยและมีลักษณะเป็นสัตว์ ส่วนรูปแบบอื่นๆ ของเขาจะยิ่งเป็นความท้าทายสำหรับ Netflix ในภายหลัง

ยังมีอีกประมาณ 5-7 รูปแบบที่เขาสามารถบรรลุได้ด้วยตัวเอง (เนื่องจากช็อปเปอร์สามารถแปลงร่างเป็นกวางเรนเดียร์และมนุษย์ได้อย่างอิสระ) และด้วยการใช้รัมเบิลบอล ซึ่งเป็นกลไกที่เขาใช้ในการต่อสู้ และปลดล็อกศักยภาพของผลปีศาจของเขา แม้ว่า CGI อาจดูน่าขนลุกหรือไม่เป็นธรรมชาติสำหรับบางคน แต่การพิสูจน์ว่ามีประโยชน์ก็ต่อเมื่อเพิ่มธรรมชาติของช็อปเปอร์ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างมอนสเตอร์และมนุษย์เท่านั้น รูปร่างหน้าตาของเขาตั้งใจให้ดูลึกลับ ซึ่งในตอนแรกนั้นลูฟี่ก็หลงรักเขาในมังงะต้นฉบับของโอดะ

ไม่ว่าคุณจะชอบหรือเกลียด Chopper ฉบับคนแสดงของ Netflix ก็เข้ากับโลกที่กำหนดไว้สำหรับซีซัน 2 ได้อย่างลงตัว ซึ่งคาดว่าจะออกฉายในช่วงต้นปี 2026 บุคลิกที่น่ารักของเขาได้รับการนำไปใช้ในกลุ่มหมวกฟางคนอื่นๆ อย่างรวดเร็ว และได้รับไฟเขียวจากตัวโอดะเองด้วย ฉบับคนแสดง ของ One Piece ได้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการดัดแปลงเรื่องราวให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่ยังคงรักษาความสมจริงของการบรรยายและรายละเอียดของตัวละครแต่ละตัวเอาไว้ได้ แม้กระทั่งหมอเรนเดียร์