หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ย้อนตำนานคดีปราสาทพระวิหาร แค่แผนที่ในกระดาษ ทำไทยเสียพื้นที่ให้กัมพูชา?

โพสท์โดย zzz1111

🔍 ย้อนคดีประวัติศาสตร์ “ปราสาทพระวิหาร” – จากแผนที่หนึ่งแผ่น สู่การเสียดินแดนที่ไทยต้องจำใจยอมรับ

กรณีพิพาทเรื่อง อธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร คือหนึ่งในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ฝังลึกอยู่ในความรู้สึกของคนไทยทั้งชาติ ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาในเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากการรบ หรือการรุกรานทางทหาร แต่เกิดจาก “แผนที่หนึ่งแผ่น” และ “ความนิ่งเฉย” ของไทยที่ส่งผลไกลถึงคำตัดสินระดับศาลโลกในปี พ.ศ. 2505 (1962) ที่ระบุว่า “ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาโดยเด็ดขาด”

 

📜 จุดเริ่มต้นของปัญหา: สนธิสัญญา 1904 และความคลุมเครือของแผนที่

ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ประเทศสยาม (ไทยในปัจจุบัน) ต้องเผชิญแรงกดดันจากจักรวรรดินิยมทั้งอังกฤษ (ที่ดูแลมลายูและพม่า) และฝรั่งเศส (ที่ครอบครองอินโดจีน) รัชกาลที่ 5 ทรงเลือกใช้ยุทธศาสตร์การทูต ด้วยการเจรจายอมเสียพื้นที่บางส่วน เพื่อรักษาเอกราชหลักไว้

ส่งผลให้เกิด สนธิสัญญาปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับฝรั่งเศส เมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 1904 ที่กำหนดให้ใช้ “สันปันน้ำ” หรือแนวเทือกเขาดงรักเป็นหลักในการแบ่งเขตแดน

❗ แต่ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นเมื่อต้องลงพื้นที่จริง...

ในปี 1905 คณะสำรวจร่วมระหว่างไทยและฝรั่งเศสได้เริ่มงาน โดยใช้กล้องวัดระดับและสายวัดตลอดแนวสันเขาดงรักกว่า 600 กิโลเมตร แต่เมื่อมาถึงบริเวณ “ปราสาทพระวิหาร” ที่ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูงชัน แนวแบ่งเขตตาม “สันปันน้ำ” ไม่สามารถกำหนดได้ชัดเจน

🗺️ “แผนที่ Annex I” – เอกสารเจ้าปัญหา

ในปี 1907 ฝ่ายฝรั่งเศสได้จัดทำแผนที่ชุดหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแผนที่ที่เรียกว่า “Annex I” ที่ลากเส้นเขตแดน “ผิด” จากแนวสันปันน้ำ โดยลากให้อ้อม “ครอบ” เอาตัวปราสาทพระวิหารไว้ในฝั่งอินโดจีน (คือกัมพูชา)

แม้แผนที่นี้จะถูกส่งมาไทยและเก็บไว้ในหีบเอกสารราชการ แต่ไม่มีหลักฐานใดระบุว่าเจ้าหน้าที่ไทยได้คัดค้านอย่างเป็นทางการ นักประวัติศาสตร์วิเคราะห์ว่าในยุคนั้น ไทยยังขาดผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่ และไม่ต้องการเปิดความขัดแย้งใหม่กับฝรั่งเศสหลังเหตุการณ์ ร.ศ.112

 

⚖️ จุดเปลี่ยน: กัมพูชายื่นฟ้องไทยต่อศาลโลก

หลังฝรั่งเศสถอนตัวจากอินโดจีนในปี 1954 ไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปดูแลปราสาทพระวิหาร พร้อมชักธงชาติขึ้นบนยอดปราสาทเป็นครั้งแรก

กัมพูชา ซึ่งเพิ่งได้รับเอกราชในปี 1953 ไม่เห็นด้วย และในปี 1959 เจ้าชายสีหนุก็ตัดสินใจยื่นฟ้องต่อ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ณ กรุงเฮก เพื่อเรียกร้องอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารโดยอ้างอิงแผนที่ Annex I ที่ไทยเคย “นิ่งเฉย” ไม่คัดค้านมาก่อน

 

⚖️ คำตัดสินประวัติศาสตร์ 15 มิถุนายน 1962

ศาลโลกลงมติ 9 ต่อ 3 วินิจฉัยว่า “ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา” โดยยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เรียกว่า “acquiescence” หรือ “การยอมรับโดยพฤติกรรม” แม้ไม่มีการให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการ

แม้ศาลจะยอมรับว่าแผนที่ Annex I ขัดกับสนธิสัญญา 1904 ก็ตาม แต่ศาลตัดสินว่า “ไทยยอมรับโดยพฤตินัย” มาโดยตลอดเป็นเวลากว่า 50 ปี โดยไม่เคยประท้วงหรือปฏิเสธแผนที่นี้อย่างชัดเจน

🧾 สาระสำคัญจากคำตัดสิน:

ปราสาทพระวิหารและศิลปวัตถุทั้งหมดเป็นของกัมพูชา

ไทยต้องถอนทหารและเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่

ไทยต้องคืนโบราณวัตถุที่เคยนำลงมาจากปราสาท

🇹🇭 ปฏิกิริยาในประเทศไทย: ความไม่พอใจที่ระอุขึ้น

คำตัดสินของศาลโลกได้จุดชนวนความไม่พอใจในหมู่ประชาชนทันที:

กลุ่มผู้ชุมนุมสวมชุดดำรวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาล เขียนป้ายเรียกร้อง “เอาปราสาทคืน”

บางสำนักพิมพ์เรียกร้องให้รัฐบาล “ยืนหยัดบนหลักสันปันน้ำ”

แต่รัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เลือกปฏิบัติตามคำตัดสินอย่างสงบ เพื่อไม่ให้เกิดสงคราม

 

🇰🇭 ขณะที่กัมพูชาเฉลิมฉลองชัยชนะ

ตรงกันข้ามกับบรรยากาศในไทย กรุงพนมเปญกลับเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลอง:

เจ้าชายสีหนุเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ขึ้นยอดเขาดงรัก

ปักธงชาติกัมพูชาด้วยพระองค์เองบนลานปราสาทพระวิหาร

ถวายบังคมต่อพระศิวะและพระวิษณุอย่างเอิกเกริก

มีการจัดพาเหรดกลางเมืองด้วยรูปจำลองปราสาท

 

🔚 สรุป: บทเรียนจาก “ความนิ่งเฉย”

กรณีพิพาทปราสาทพระวิหารไม่ได้จบลงเพียงแค่คำตัดสินของศาล แต่ยังคงถูกหยิบยกขึ้นมาเสมอเมื่อต้องพูดถึงประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และบทเรียนสำคัญของไทย คือ “อย่านิ่งเฉยเมื่อสิทธิของชาติถูกละเมิด”

เพียงแค่การไม่ทักท้วงในช่วงเวลาที่ควร… อาจหมายถึงการเสียแผ่นดินไปตลอดกาล

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: paktronghie, แสร์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พ่อแม่ต้องใจแข็ง! 2 เรื่องที่ลูก ‘ขอแล้วห้ามให้’ ไม่อย่างนั้นน้ำตาอาจเช็ดหัวเข่าตอนบั้นปลายชีวิตรู้ความจริงยิ่งเศร้าหนัก !! "นัทปง" ต่อแต่นี้วิญญาเจ้าจักได้สงบสักที"ทรัมป์" อ้าง "ไทย-กัมพูชา" ตกลงหยุดยิงแล้ว! ลั่นทหารไทยถูกระเบิดแค่อุบัติเหตุ4 นักษัตรดวงเศรษฐี ยิ่งอายุมากยิ่งเงินไหลมา—ช่วงพีคอยู่ที่วัยกลางคนรวมภาพตลก ขำขัน ฮาเฮประจำวันนี้ วันที่อากาศนั้นทั้งเย็น และมีฝนพรำนิดๆด้วย สภาพเหมาะกับการนอนสุดๆ เล่นบอลก็ฟินเด้อครับเด้อ"โรคหนังแข็ง" โรคลึกลับที่เริ่มจากผิว แต่ลามได้ถึงหัวใจและปอด คุณอาจกำลังเป็น…แต่ยังไม่รู้ตัว!10 อันดับ ศิลปินยอดนิยมในกลุ่ม Gen Zอนุทิน ต่อสาย หาทรัมป์ ยํ้ากัมพูชา ละเมิดสัญญาก่อนตรรกะพาเราไปได้จำกัด แต่จินตนาการพาเราไปแบบไร้ข้อจำกัดMercedes-Benz ผนึก Momenta เตรียมเปิดตัว Robotaxi หรูหรา ขับขับขี่อัตโนมัติ Level 4
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
บอยแบนด์เขมรประกาศไม่มาไทย! แฟนคลับไม่ต้องเสียใจนะ"มาลี" โฆษกกลาโหมเขมรลั่น "หากไม่มีชาติใดมากดดันไทยหรือลงโทษกองทัพไทย วันหน้าไทยจะรุกรานชาติที่อ่อนแอกว่า!"รู้ความจริงยิ่งเศร้าหนัก !! "นัทปง" ต่อแต่นี้วิญญาเจ้าจักได้สงบสักทีMercedes-Benz ผนึก Momenta เตรียมเปิดตัว Robotaxi หรูหรา ขับขับขี่อัตโนมัติ Level 4
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ทรัมป์ บอก ที่ทหารไทย เหยียบระเบิด ก็แค่ อุบัติเหตุอึ้ง! ไกด์สาว 6 ภาษา “คุนินากะ อารินะ” ผันตัวเป็นดาว A\/Mercedes-Benz ผนึก Momenta เตรียมเปิดตัว Robotaxi หรูหรา ขับขับขี่อัตโนมัติ Level 4มันเทศหัวนี้ไม่ธรรมดา ชาวเน็ตแห่เรียก "ปืนใหญ่แอมสตรอง"
ตั้งกระทู้ใหม่