พชร์ อานนท์ ไม่ทน! โดนโยงดราม่า อาร์ต-อั้ม ลั่นแรง “อะไร ๆ ก็กู!”
พชร์ อานนท์ ฟาดกลับ! หลังถูกโยงดราม่า อาร์ต-หมออั้ม ลั่น “อะไร ๆ ก็กู” – ขยายปมพระเอกกล้ามโต ใจไม่โตตาม!
ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงในแวดวงบันเทิงที่ยากจะมองข้าม สำหรับมหากาพย์ดราม่าระหว่าง “หมออั้ม อิราวัต” กับ “อาร์ต พศุตม์” ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โตและเริ่มลุกลามไปถึงบุคคลอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง รวมถึงผู้กำกับฝีปากกล้าอย่าง “พชร์ อานนท์” ที่จู่ ๆ ก็ถูกโยงเข้าไปในประเด็นนี้โดยไม่รู้ตัว
จุดเริ่มต้นของดราม่า: พระเอกกล้ามโตใจไม่โต?
เรื่องราวเริ่มต้นจากโพสต์ของ “หมออั้ม อิราวัต” ที่ออกมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับ “พระเอกกล้ามโต” รายหนึ่ง ซึ่งไม่ยอมให้ผู้มีพระคุณยืมเงินในช่วงเวลาจำเป็น พร้อมเปรียบเทียบว่าแม้กระทั่งคนธรรมดาหรือผู้มีชื่อเสียงอีกหลายคนยังยื่นมือช่วยเหลือได้ แต่ทำไม “พระเอกกล้ามโต” คนนี้กลับปฏิเสธอย่างเย็นชา
แม้หมออั้มจะไม่ได้ระบุชื่อว่า “พระเอกกล้ามโต” คนดังกล่าวคือใคร แต่บรรดาชาวเน็ตต่างพุ่งเป้าไปที่ “อาร์ต พศุตม์” นักแสดงหนุ่มหุ่นดีที่มักจะปรากฏตัวในลุคกล้ามแน่น จนเจ้าตัวต้องออกมาคอมเมนต์แบบดุเดือด และมีการโพสต์ตอบโต้กันไปมาบนโซเชียล
รายการ “หน่วงทอล์ค” จุดไฟดราม่าให้ลุกโชน
ต่อมา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา รายการไลฟ์สดชื่อดัง “หน่วงทอล์ค” ได้เชิญ “อาร์ต พศุตม์” มาร่วมพูดคุยเพื่อเปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวแบบหมดเปลือก ในขณะที่ “หมออั้ม” ไม่สามารถมาร่วมรายการได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากติดภารกิจตรวจคนไข้ แต่ได้มีการโทรศัพท์เข้าร่วมรายการแทน
ในรายการ ได้มีการพูดถึงเรื่องราวของ “พี่พจน์” หรือบุคคลที่นำเรื่องมาเล่าให้หมออั้มฟัง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์ดราม่าครั้งนี้ ซึ่งแม้จะไม่มีการเอ่ยชื่อโดยตรงว่าคือใคร แต่เมื่อพูดถึงคำว่า “พี่พจน์” หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึง “พชร์ อานนท์” ผู้กำกับคนดัง ที่มีชื่อเสียงในวงการมานานและมักถูกพูดถึงในหลายประเด็นอยู่เสมอ
พชร์ อานนท์ ตอบกลับเดือด! ลั่น “อะไร ๆ ก็กู”
หลังจากถูกโยงเข้ามาในประเด็นดราม่าโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย “พชร์ อานนท์” ก็ไม่อยู่เฉย ออกมาโพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวทันที ด้วยข้อความที่ทั้งตรงไปตรงมาและแอบจิกกัดเล็ก ๆ ตามสไตล์ว่า:
“คนละพชร์กับที่อาร์ตพูดถึงนะ พี่หนุ่มก็บอกแล้วว่าไม่ใช่พชร์ อานนท์ อะไร ๆ ก็กู”
พร้อมแคปชั่นที่ไม่แพ้กัน:
“ถามมาตอบไป น้องอาร์ตเอาเก็บไว้ในฝัน เพราะหุ่นแบบนี้หายาก พูดถึงพระเอกกล้ามโต ใคร ๆ ก็นึกถึงอาร์ตทั้งนั้น คงไม่มีใครนึกถึงสมบัติ เมทะนีหรอกในยุคนี้”
โพสต์นี้ของพชร์กลายเป็นกระแสทันที ทั้งในแง่ของการเคลียร์ตัวเองจากประเด็นดราม่า และในฐานะคนดังที่ถูกพาดพิงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว จนทำให้เจ้าตัวต้องออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “พอเถอะ อย่าโยงมั่ว”
พชร์ เตือนแรง! ไม่เอ่ยชื่อแต่สื่อได้ว่าใคร = ฟ้องได้
อีกประเด็นสำคัญที่ “พชร์ อานนท์” พูดถึงและถือว่าเป็นสาระที่หลายคนอาจมองข้าม ก็คือการกล่าวถึงคนใดคนหนึ่งแม้จะไม่เอ่ยชื่อชัดเจน แต่หากคำพูดและบริบทสามารถทำให้คนฟัง “เดาได้ว่าเป็นใคร” ก็อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาท และมีสิทธิ์ฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย
“แต่เวลาขึ้นศาล ถึงแม้ว่าจะไม่เอ่ยชื่อ แต่คนฟังแล้วเดาได้ว่าเป็นใคร พูดถึงใคร คนที่ถูกกล่าวถึงก็ฟ้องกลับได้นะ เคยคุยกับทนาย เพราะเราเจอบ่อย ศาลยังรับฟ้องเลย”
คำพูดของพชร์ถือเป็นอีกมุมหนึ่งที่ช่วยสะท้อนให้เห็นว่าการใช้คำพูดในโลกออนไลน์นั้นมีผลทางกฎหมายได้ ไม่ใช่แค่การแสดงความคิดเห็นลอย ๆ โดยไม่ต้องรับผิดชอบ
ดราม่ายังไม่จบ แฟนคลับ-ชาวเน็ต แบ่งฝั่งชัดเจน
แน่นอนว่าเมื่อมีดราม่าเกิดขึ้น โดยเฉพาะในวงการบันเทิง ก็ย่อมมีผู้คนให้ความสนใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ทั้งในฝั่งที่เห็นใจหมออั้ม ฝั่งที่สนับสนุนอาร์ต และฝั่งที่มองว่าพชร์ อานนท์ ถูกโยงแบบไม่สมควร
ในขณะที่บางคนมองว่าพชร์ควรนิ่งเฉยและไม่ตอบโต้ เพราะไม่ได้ถูกกล่าวถึงโดยตรง แต่หลายเสียงกลับเห็นว่าการที่พชร์ออกมาตอบแบบนี้เป็นการป้องกันตัวเองอย่างชัดเจนและไม่ปล่อยให้คนเข้าใจผิด
สะท้อนภาพวงการบันเทิง: โลกโซเชียลกับ “พลังของคำพูด”
กรณีนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวของบุคคลเพียงไม่กี่คน แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาใหญ่ในสังคมยุคดิจิทัลที่คำพูดบนโซเชียลมีอิทธิพลมากกว่าที่เราคิด แม้จะไม่มีชื่อ แต่แค่คำอธิบายหรือบริบทก็สามารถพาไปสู่การเข้าใจผิด และกลายเป็นการโจมตีทางสังคมอย่างรุนแรง
ในขณะที่ผู้คนใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแสดงความคิดเห็น บางครั้งเราก็ลืมคิดถึงผลกระทบที่จะตามมา โดยเฉพาะกับคนที่ถูกพาดพิงอย่างไม่เป็นธรรม
สรุป: ปมยังไม่จบ แต่ควรเริ่มคิดก่อนโพสต์
ดราม่าระหว่าง “หมออั้ม – อาร์ต – พชร์” ครั้งนี้ อาจเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ในยุคนี้ การสื่อสารโดยไม่ระบุชื่อก็สามารถทำร้ายผู้อื่นได้ไม่แพ้การเอ่ยชื่อโดยตรง และการ “โยงมั่ว” ก็อาจส่งผลเสียต่อบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย
ไม่ว่าจะด้วยเจตนาใด การใช้คำพูดต้องมีความรับผิดชอบ เพราะในวันที่ทุกคนมีไมโครโฟนอยู่ในมือ การเลือกใช้คำให้เหมาะสม ไม่กล่าวหาโดยไร้หลักฐาน และให้เกียรติคนอื่น คือสิ่งที่ควรเป็นพื้นฐานของสังคมที่ดี
อ้างอิงจาก: ขอบคุณภาพ : poj_arnon6565
















