กราบลาพระนักปราชญ์! พระอาจารย์นุ่ม วัดสร้อยทอง มรณภาพอย่างสงบ
ลูกศิษย์แห่อาลัย “พระอาจารย์นุ่ม” แห่งวัดสร้อยทอง พระนักปราชญ์ผู้ทรงศีลาจริยวัตร มรณภาพอย่างสงบในวัย 96 ปี สิ้นสุดการเดินทางอันบริสุทธิ์ในร่มกาสาวพัสตร์
อีกหนึ่งข่าวเศร้าที่สร้างความโศกเศร้าอย่างยิ่งในหมู่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เมื่อพระอาจารย์นุ่ม แห่งวัดสร้อยทอง กรุงเทพมหานคร ได้มรณภาพอย่างสงบด้วยเหตุอันเนื่องมาจากหมดอายุขัย เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 13.00 น. ณ โรงพยาบาลสงฆ์ ท่ามกลางความอาลัยรักของลูกศิษย์และผู้เคารพนับถือในตัวท่านทั่วประเทศ สิริอายุรวม 96 ปี พรรษา 76
พระอาจารย์นุ่ม ถือเป็นหนึ่งในพระเถระผู้เป็นแบบอย่างของพระแท้ที่มีความตั้งมั่นในพระธรรมวินัย เป็นพระผู้ใหญ่ที่เรียบง่าย สมถะ มั่นคงในจริยวัตรอันงดงาม เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธบริษัทและลูกศิษย์จำนวนมาก โดยตลอดช่วงชีวิตในสมณเพศกว่า 76 พรรษา ท่านได้อุทิศตนบำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคมอย่างไม่มีวันหยุดพัก
จากบ้านเกิดสู่เมืองกรุง เส้นทางของพระนักปราชญ์
พระอาจารย์นุ่มมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ท่านถือกำเนิดในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา แต่ด้วยความมุ่งมั่นใฝ่รู้ในพระธรรมวินัยตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้ท่านได้ตัดสินใจบรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุยังน้อย เส้นทางชีวิตของท่านเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อได้รับทุนการศึกษา จากโยมมารดาของผู้มีอุปการคุณรายหนึ่ง ซึ่งทำให้ท่านได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรมในกรุงเทพมหานคร
ความเพียรพยายามและสติปัญญาอันเป็นเลิศ ทำให้ท่านสามารถสำเร็จการศึกษาในระดับ พุทธศาสตรบัณฑิต และ พุทธศาสตรมหาบัณฑิต กลายเป็นพระนักปราชญ์ที่มีความรู้ลึกซึ้งในพระไตรปิฎก และมีความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างถ่องแท้
สมณะผู้ทรงพรหมจรรย์ ผู้เป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชน
พระอาจารย์นุ่มได้รับการยกย่องจากคณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ว่าเป็น “สมณะศากยบุตรผู้ทรงพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์” ตลอดชีวิตท่านดำรงตนอยู่ในกรอบของศีลอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติงดงาม มั่นคงในจริยธรรม และเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่รักใคร่และเคารพของชาวพุทธในวงกว้าง
ท่านไม่เพียงแต่อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาในเชิงวิชาการเท่านั้น หากยังลงพื้นที่เผยแผ่ธรรมะ สอนธรรมแก่ญาติโยมอย่างสม่ำเสมอ เป็นผู้ให้คำปรึกษาทางจิตใจแก่ผู้คนจำนวนมากที่ประสบความทุกข์ หรือหลงทางในชีวิต ท่านจึงเปรียบเสมือนดวงประทีปที่ส่องทางแห่งธรรมให้กับพุทธบริษัทจำนวนมากมาย
แม้อายุยืน แต่ยังคงไม่ละเว้นศาสนกิจ
แม้พระอาจารย์นุ่มจะมีอายุถึง 96 ปีแล้วก็ตาม แต่ท่านยังคงมีสุขภาพแข็งแรงพอควร และยังคงประกอบศาสนกิจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการแสดงธรรมและออกบิณฑบาตในบางโอกาส ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568 เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการมรณภาพ ท่านพร้อมด้วยพระสงฆ์จากวัดสร้อยทองรวม 9 รูป ได้เดินทางไปยังอาคารธรรมนิติ ถนนประชาชื่น 20 เพื่อรับภัตตาหารเช้าและบิณฑบาตจากคณะพนักงาน สร้างความปลาบปลื้มใจแก่ผู้ที่ได้ร่วมบุญในวันนั้นเป็นอย่างยิ่ง
ภาพของพระผู้ใหญ่ในวัยเกือบ 100 ปีที่ยังคงมุ่งมั่นในศาสนกิจ เป็นภาพที่ตราตรึงในใจของผู้พบเห็น และเป็นเครื่องยืนยันถึงความตั้งมั่นของท่านในเส้นทางแห่งธรรมอย่างแท้จริง
การจากไปอย่างสงบ และคำสั่งเสียที่เปี่ยมด้วยเมตตา
พระอาจารย์นุ่มมรณภาพอย่างสงบเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2568 ณ โรงพยาบาลสงฆ์ ด้วยเหตุอันเนื่องมาจากหมดอายุขัย ไม่มีโรคร้ายรุมเร้า ท่ามกลางความสงบเย็นดุจดั่งธรรมชาติของพระผู้ทรงพรหมจรรย์
ก่อนมรณภาพ ท่านได้มีคำสั่งเสียไว้ชัดเจนว่าหากมรณภาพเมื่อใด ขอให้นำสรีรสังขารกลับไปยังวัดเอก อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา บ้านเกิดของท่าน เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามแบบฉบับเรียบง่ายของพระบ้านนอกผู้มุ่งมั่นในธรรมวินัย
โดยในวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. จะมีพิธีเคลื่อนย้ายสรีรสังขารของท่านจากโรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพมหานคร ไปยังวัดเอก จังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินการตามคำสั่งเสียอย่างเคร่งครัด
ความอาลัยจากศิษยานุศิษย์และผู้มีอุปการคุณ
การมรณภาพของพระอาจารย์นุ่ม นำมาซึ่งความเศร้าโศกและอาลัยอย่างสุดซึ้งจากศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ รวมถึงผู้มีอุปการคุณที่เคยสนับสนุนทุนการศึกษาแก่ท่านในอดีต ซึ่งท่านเองก็ไม่เคยลืมบุญคุณเหล่านั้น โดยตลอดช่วงชีวิต ท่านยังคงหมั่นดูแลช่วยเหลือลูกหลานตระกูลพืชมงคลและผู้เกี่ยวข้องอยู่เสมอ เป็นแบบอย่างแห่งความกตัญญูรู้คุณที่หายากในยุคสมัยนี้
พระอาจารย์นุ่มมิได้เป็นเพียงพระผู้ใหญ่ธรรมดา แต่ท่านคือสัญลักษณ์ของพระแท้ พระผู้ทรงธรรม ผู้ไม่ไขว้เขวไปตามกระแสโลก เป็นผู้ยึดมั่นในพระวินัยดุจหินผา และเป็นพลังเงียบที่ขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
การจากไปของพระอาจารย์นุ่ม คือการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของวงการสงฆ์และสังคมไทย แต่สิ่งที่ท่านได้สั่งสอนและปฏิบัติมาตลอดชีวิตจะยังคงเป็นแสงสว่างแห่งธรรมให้แก่ผู้คนต่อไป
ขอแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งแด่พระอาจารย์นุ่ม พระผู้เป็นดั่งเสาหลักของพระศาสนา
น้อมกราบส่งดวงจิตสู่แดนพระนิพพานขอน้อมรำลึกในคุณูปการอันหาที่สุดมิได้




















