จี้จุดมั้ย? เมย์ ปทิตา เจอดราม่า หลังเจอคอมเมนต์ขอรูปคู่หนุ่ม กรรชัย
ดราม่ากลางไลฟ์! เมย์ เฟื่องอารมย์ โต้กลับคอมเมนต์แฟนคลับ อยากเห็นรูปคู่พ่อแม่ – ชาวเน็ตเสียงแตก บางคนเข้าใจ บางคนแอบเสียใจ
กลายเป็นประเด็นดราม่าที่ชวนให้ถกเถียงในโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อนักแสดงและพิธีกรชื่อดัง “เมย์ เฟื่องอารมย์” หรือที่รู้จักในชื่อ “เมย์ ปทิตา” ได้ออกมาไลฟ์พูดคุยกับแฟนคลับตามปกติ แต่แล้วเรื่องราวกลับไม่ปกติเหมือนทุกครั้ง เพราะมีชาวเน็ตรายหนึ่งได้ส่งคอมเมนต์ระหว่างการไลฟ์สดว่า “อยากให้แม่กับพ่อลงรูปคู่กัน” ซึ่งคำขอนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาและคำตอบที่กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตต้องตั้งคำถาม
เมย์ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา สะท้อนแนวคิดชีวิตจริง
เมื่อเห็นคอมเมนต์ดังกล่าว เมย์ เฟื่องอารมย์ ได้หยุดอ่านข้อความและพูดตอบกลับอย่างจริงจังว่า:
“อยากให้แม่กับพ่อลงรูปคู่กัน อยากให้... อยากให้... เอิ่ม เราทุกคนเนี่ย ชอบเสพกันเนอะ เสพดู เสพชม เสพรู้ เราต้องหยุดการเสพ แล้วกลับมาอยู่ในโมเมนต์ของตัวเอง ในชีวิตของตัวเองดูนะทุกคน ใช้ชีวิตในความเป็นจริง อย่ามองอะไรในความที่เสพ ชอบเห็น ชอบอยาก บางทีเรื่องเหล่านั้นไม่ได้เป็นแบบที่เราเห็นก็ได้"
คำตอบของเมย์ไม่ได้เพียงแค่บอกปัดหรือข้ามคำถามไป แต่เลือกใช้โอกาสนี้แสดงความเห็นในเชิงปรัชญาเกี่ยวกับการ “เสพสื่อ” หรือ “เสพภาพลักษณ์” ซึ่งปัจจุบันเป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไปในสังคมยุคดิจิทัล หลายคนชอบดูสิ่งที่สวยงาม ชอบติดตามชีวิตของคนดัง แต่ลืมไปว่าเบื้องหลังภาพนั้น อาจมีเรื่องจริงที่ไม่ได้สวยงามเหมือนในรูป
เมย์ยังเสริมอีกว่า:
“หัดใหม่นะ มีชีวิตที่มีความสุขจริงๆ ชีวิตที่เป็นชีวิตจริง ฝึก ทุกคนต้องฝึก อย่าเอาแต่ภาพ อย่าเอาแต่สิ่งสวยงาม รู้เปล่า อันนี้บอกกันให้ทุกคนรับรู้ ในชีวิตจริงๆ ที่อยากให้ทุกคนรับรู้ ผ่านอะไรมาเยอะค่ะ ทุกคนขา อาจจะดูเหมือนหน้าเด็ก แต่อายุจะ 50 แล้ว แก่แล้วทุกคนจำ ไม่ใช่วัยรุ่น ผ่านอะไรมากเบอะ ไม่มีภาพไม่มีอะไรนะคะ มีแต่เรื่องจริง เราทุกคนมีแต่เรื่องจริงกันทุกคนเนอะ เข้าใจ เข้าใจแหละ ทุกคนอยากเห็น เข้าใจหมด นี่แหละ"
คำตอบที่สะท้อนประสบการณ์และแนวคิดส่วนตัว ทำให้หลายคนในไลฟ์รู้สึกทั้ง “ตื่นเต้น” “งง” และบางคนถึงขั้น “เสียใจ”
เสียงสะท้อนจากโลกโซเชียล: บางคนเข้าใจ บางคนรู้สึกเจ็บปวด
หลังจากคลิปช่วงหนึ่งของการไลฟ์นี้ถูกแชร์ออกไปในโลกโซเชียล ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะผู้ที่ได้ชมไลฟ์สดตั้งแต่ต้น ต่างแสดงความคิดเห็นกันไปหลายมุม บางคนรู้สึกเห็นใจเมย์ที่อาจจะเผชิญกับแรงกดดันภายในใจ ในขณะที่บางคนรู้สึกว่าคำตอบของเธอ “แข็งเกินไป” หรือ “เครียดเกินไป” สำหรับคำถามที่อาจไม่มีเจตนาร้าย
ความคิดเห็นหนึ่งจากแฟนคลับที่เป็นเจ้าของคำถามยอมรับว่า:
“คำถามนี้เราเป็นคนถามเองในไลฟ์ เรางงมากที่แม่เมย์ตอบ และแอบเสียใจนิดนิด เราเป็นแฟนคลับของทั้งครอบครัวเลยค่ะ”
อีกความคิดเห็นกล่าวว่า:
“แม่ก็เครียดเกินนน ถ้าเราคิดจะไลฟ์เราต้องจอยๆ เราต้องเตรียมตัวตอบคำถามอยู่แล้ว ยิ่งเราเป็นดารา ถ้าไม่อยากตอบมองข้ามคำถามนั้นไปเลย เราอยากออกทะเลไปไกล”
แต่ก็มีอีกฝ่ายที่เข้าใจเจตนาของเมย์และสนับสนุนความคิดนี้:
“บางทีการที่คนเราชอบเห็นภาพสวยๆ ก็เป็นแค่เปลือก เราไม่รู้หรอกว่าเบื้องหลังเขาผ่านอะไรมาบ้าง เมย์พูดถูก เราต้องหัดอยู่กับความจริงของตัวเอง”
คำถามที่มากกว่ารูปถ่าย
แม้คำถามจะดูเรียบง่าย แค่ “อยากเห็นรูปคู่ของพ่อแม่” แต่สิ่งที่ตามมาคือคำตอบและการสะท้อนแนวคิดที่ลึกซึ้งกว่านั้น และเป็นการเปิดเผยว่าเบื้องหลังชีวิตคนดังที่ดูสวยงาม อาจมีเรื่องราวที่ไม่มีใครรู้ และไม่มีใครจำเป็นต้องรู้ถ้าเจ้าตัวไม่อยากเปิดเผย
ยิ่งกว่านั้น หลายคนยังอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า ความสัมพันธ์ของเมย์กับสามี “หนุ่ม กรรชัย” ในปัจจุบันเป็นอย่างไร? เพราะหลายคนเริ่มสังเกตว่า ทั้งสองไม่ค่อยลงรูปคู่กันมาสักพักแล้ว หรือจริงๆ แล้วความสัมพันธ์ยังดีเหมือนเดิม เพียงแต่เลือกที่จะไม่เปิดเผยในที่สาธารณะ
เมื่อชีวิตไม่ใช่ละคร และดาราไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์
คำพูดของเมย์ในไลฟ์ครั้งนี้ อาจดูเหมือน "ดุ" หรือ "แข็ง" แต่ก็มีมิติที่น่าคิดตาม โดยเฉพาะในสังคมยุคปัจจุบันที่ผู้คนจำนวนมากใช้เวลาไปกับการ “เสพ” ชีวิตคนอื่น มากกว่าจะกลับมาใช้เวลากับชีวิตของตัวเอง คำพูดอย่าง “ฝึกนะคะ ใช้ชีวิตของตัวเองให้เป็นจริง” กลายเป็นคำเตือนใจที่สำคัญ
บทสรุป: เมื่อการเป็น “คนสาธารณะ” ไม่ใช่เรื่องง่าย
ดราม่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ดาราหรือคนดังจะเปิดชีวิตให้แฟนคลับติดตาม แต่ก็ยังมีขอบเขตที่ควรเคารพ และการเป็น “คนสาธารณะ” ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตอบทุกคำถาม หรือเปิดเผยทุกเรื่อง เพราะในท้ายที่สุด พวกเขาก็เป็นเพียง “มนุษย์คนหนึ่ง” ที่มีชีวิตจริง มีอารมณ์ และมีสิทธิ์ที่จะเลือกว่าอยากแชร์หรือไม่แชร์เรื่องใด
และแม้จะมีกระแสทั้งบวกและลบออกมาในคราวนี้ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำคัญว่า โลกโซเชียลนั้นเปราะบางเพียงใด และคำพูดเพียงไม่กี่คำในไลฟ์ ก็สามารถจุดกระแสให้คนพูดถึง และตีความกันได้หลากหลาย จนกลายเป็นดราม่าครั้งใหญ่เพียงข้ามคืน












