อัพเดต! สถานการณ์ปราสาทตาเมืองธม ชายแดนไทย - เขมร
สถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงตึงเครียดและต้องจับตามองความเคลื่อนไหวของทางกัมพูชาอย่างใกล้ชิด
ทหารไทยยังคงตรึงกำลังในพื้นที่ปราสาทอย่างเข้มงวด และยังออกลาดตะเวนตามแนวชายแดนร่วมกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา
เพื่อรักษาความสงบสุขของเขตชายแดนร่วมกัน
ความเคลื่อนไหวของทาง "กัมพูชา"
มีมือดีเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน Google Maps ชี้พิกัดอยู่ที่ประเทศกัมพูชา และเปลี่ยนชื่อจาก ปราสาทตาเมืองธม เป็น ปราสาทตาเมือนแมว
ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อมูล ไม่เป็นความจริง
ข้อเท็จจริง ปราสาทตาเมืองธม เป็นโบราณสถานของใครกันแน่ ?
ปราสาทตาเมืองธม ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2478 โดยกรมศิลปากร โดยกัมพูชาพึ่งได้รับเอกราชจากฝรั่งเศษเมื่อปี พ.ศ.2496 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่ปราสาทตาเมืองธมได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานของไทยถึง 18 ปี แน่นอนว่าคำตอบเป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า ปราสาทตาเมืองธม นั้นเป็นของประเทศไทย
ทำไม กัมพูชา ถึงคิดว่าปราสาทตาเมืองธม เป็นโบราณสถานของตัวเอง
1. เพราะในประวัติศาสตร์ช่วงอาณาจักรขอมเคยมีอิทธิพลครอบคลุมพื้นที่ดังกล่าว ฝ่ายกัมพูชามองว่าโบราณสถานเหล่านี้เป็น “มรดกของขอม” ที่สืบทอดจากบรรพบุรุษตนเอง แม้จะอยู่ในเขตของไทย
2. ความกำกวมของเขตแดนในอดีต
กัมพูชา มักอ้างถึงแผนที่ที่ฝรั่งเศลทำขึ้นซึ่งบางอาณาเขตคลาดเคลื่นจากแนวสันปันน้ำจริง ส่วนไทยนั้นยึดตามแนวสันปันน้ำเป็นหลัก ตามมาตรฐานสากลในการแบ่งเขตแดนภูเขาหรือป่า
3. ตีความตามตรรกะของตัวเอง
กัมพูชายึดตรรกะว่า ถ้าขอมสร้าง = เป็นของกัมพูชา แม้จะเป็นสถาปัตยกรรมขอม แต่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยไทยก่อนกัมพูชา
4. กรณีข้อพิพากปราสาทพระวิหาร
จากกรณีการตัดสินของศาลโลกให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา ทำให้กัมพูชาอ้างสิทธิ์ต่อโบราณสถานอื่นๆ ตามเขตชายแดน ว่าเป็นของตน แม้จะไม่มีคำตัดสินอย่างเป็นทางการ
ซึ่งสถานการณ์ยังอยู่ในสภาวะตึงเครียด ทหารไทยยังคงตรึงกำลังเฝ้าระวังเขตชายแดนอย่างใกล้ชิดและพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างถึงที่สุด

















