คิม จอง-อึน กำลังได้เปรียบใน "สงครามเงียบ" เกาหลีเหนือ-ใต้ จริงหรือ?
เมื่อวันก่อนดิฉันได้อ่านข่าวจากบีบีซีเรื่องสถานการณ์ชายแดนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ บอกตรง ๆ ว่าอ่านแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าสมัยนี้สงครามมันไม่ได้มีแต่ปืนหรือระเบิดแล้วนะคะ แต่อีกแบบหนึ่งที่เขาเรียกกันว่า “สงครามข้อมูล” ก็กำลังดุเดือดไม่แพ้กัน
ที่ชายแดนระหว่างสองเกาหลี มีทั้งรั้วลวดหนามหลายชั้น ป้อมยามเป็นร้อย และลำโพงขนาดยักษ์ที่ฝังพรางไว้ตามจุดต่าง ๆ ฟังดูเหมือนของธรรมดาใช่ไหมคะ? แต่ลำโพงเหล่านี้คืออาวุธหลักในสงครามข้อมูลเลยค่ะ
ฝั่งเกาหลีใต้เอาเพลงป็อปของตัวเองมาเปิด พร้อมข้อความปลุกใจ เช่น “เมื่อเราท่องเที่ยวในต่างประเทศ มันเพิ่มพลังให้กับเรา” พูดกันตรง ๆ นะคะ นี่คือการแหย่ฝั่งเกาหลีเหนือแบบจัง ๆ เพราะคนเกาหลีเหนือเขาไม่มีสิทธิเสรีภาพแบบนั้น
ขณะที่ฝั่งเหนือเองก็ไม่น้อยหน้า พยายามเปิดเสียงโฆษณาชวนเชื่อของทหารให้กลบเสียงจากทางใต้ แม้จะฟังเบากว่าแต่เขาก็พยายามเต็มที่เหมือนกัน
ที่สำคัญคือ ในทางเทคนิค ทั้งสองประเทศยังไม่เคย “เลิกสงคราม” กันจริง ๆ นะคะ แค่หยุดยิงชั่วคราวเท่านั้น สงครามรอบนี้ไม่ใช่เรื่องของกระสุน แต่มันคือการต่อสู้เพื่อครองใจและความคิดของประชาชน
คิม จอง-อึน พยายามปิดกั้นข้อมูลทุกทาง ไม่ให้คนในประเทศรู้ว่าโลกภายนอกเขาไปถึงไหนแล้ว ส่วนเกาหลีใต้ก็พยายามส่งสาร ส่งเสียง ส่งความหวังเข้าไปให้ถึงหูประชาชนฝั่งเหนือ
ฟังดูแล้ว สงครามแบบนี้น่ากลัวไม่แพ้สงครามปืนเลยนะคะ เพราะมันเป็นเรื่องของ "การควบคุมความคิด" และดูเหมือนว่าฝั่งคิม จอง-อึนจะยังได้เปรียบอยู่ เพราะเขาคุมทุกอย่างภายในประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ใครสนใจเรื่องนี้ ลองติดตามดูค่ะ มันไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัว แต่มันสะท้อนให้เห็นว่าสิทธิเสรีภาพเป็นของที่มีค่าแค่ไหนในโลกยุคนี้















