โควิดระบาดหนัก! จังหวัดนี้แซงกรุงเทพฯ ขึ้นแท่นอันดับ 1 คนติดเชื้อมากสุด
🔴 โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่! “ชลบุรี” แซงกรุงเทพฯขึ้นแท่นจังหวัดผู้ป่วยสูงสุดประจำสัปดาห์ 25-31 พ.ค. 68 เตือนกลุ่มวัยทำงาน-ผู้สูงวัยเฝ้าระวัง!
แม้หลายคนจะเริ่มวางใจและใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงภาวะปกติมานานหลายเดือน แต่ไวรัสโควิด-19 กลับไม่เคยหายไปไหน ล่าสุด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์ประจำวันที่ 25-31 พฤษภาคม 2568 โดยพบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงถึง 54,356 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น่าตกใจ และสะท้อนให้เห็นถึงการระบาดระลอกใหม่ที่อาจรุนแรงกว่าที่คาดคิด
🟥 ชลบุรีครองแชมป์! แซงกรุงเทพฯ ขึ้นอันดับ 1 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด
สิ่งที่น่าสนใจและควรจับตาอย่างใกล้ชิดคือ การที่จังหวัด ชลบุรี ได้แซงหน้ากรุงเทพมหานคร ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดในระลอกก่อนๆ ขึ้นมาเป็น จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดในประเทศ ประจำสัปดาห์นี้ โดยมีผู้ป่วยสะสมรายใหม่มากถึง 4,042 ราย ในช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่กรุงเทพมหานคร มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,825 ราย เท่านั้น
อันดับของจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในรอบสัปดาห์ ได้แก่:
1. ชลบุรี - 4,042 ราย
2. กรุงเทพมหานคร - 2,825 ราย
3. นครราชสีมา - 2,498 ราย
4. ไม่ระบุจังหวัด - 1,989 ราย
5. นนทบุรี - 1,978 ราย
จากตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า แนวโน้มการแพร่ระบาดไม่ได้จำกัดอยู่แค่พื้นที่เมืองหลวงอีกต่อไป แต่กำลังขยายวงกว้างสู่จังหวัดเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ชลบุรี ซึ่งมีพื้นที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ มีนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก รวมถึงมีการเดินทางข้ามจังหวัดและแรงงานหมุนเวียนจำนวนมาก
📉 แนวโน้มผู้เสียชีวิตยังน้อย แต่ไม่ควรประมาท
ในรายงานเดียวกันนี้ พบว่า มีผู้เสียชีวิตรายใหม่จำนวน 2 ราย ซึ่งทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 57 ราย ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจดูไม่สูงเมื่อเทียบกับยอดผู้ติดเชื้อ แต่ก็ไม่ควรประมาท โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวและกลุ่มเสี่ยง
👥 กลุ่มวัยทำงานคือกลุ่มที่ติดเชื้อสูงที่สุด
จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค พบว่า กลุ่มที่มีอัตราการติดเชื้อสูงที่สุดยังคงเป็นกลุ่ม “วัยทำงาน” ซึ่งมีการเดินทางและพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงที่หลายธุรกิจกลับมาเปิดทำการตามปกติ และหลายบริษัทลดความเข้มงวดเรื่องการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home)
กลุ่มอายุที่พบว่ามีการติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่:
อายุ 30-39 ปี – 10,240 ราย
อายุ 20-29 ปี – 8,630 ราย
อายุ 60 ปีขึ้นไป – 7,742 ราย
จากตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่า การใช้ชีวิตประจำวันโดยไม่ระวังเพียงพอ เช่น การถอดหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ การเข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก หรือการไม่ล้างมือเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้ออย่างมีนัยสำคัญ
🧪 เตือน! อย่าชะล่าใจแม้ตรวจ ATK แล้วไม่พบเชื้อ
แม้หลายคนจะพยายามตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK แล้วผลออกมาเป็นลบ ก็ยังไม่ควรวางใจ เพราะไวรัสโควิด-19 อาจยังอยู่ในระยะฟักตัว หรือปริมาณไวรัสยังต่ำเกินไปที่จะตรวจเจอ โดยเฉพาะในช่วง 1-3 วันแรกหลังติดเชื้อ
กรมควบคุมโรคเน้นย้ำว่า หากมีอาการคล้ายหวัด เช่น ไอ เจ็บคอ มีไข้ หรืออ่อนเพลีย ควรแยกกักตัวทันที และเฝ้าสังเกตอาการต่อเนื่อง หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น ควรตรวจซ้ำหรือเข้ารับการตรวจด้วยวิธี RT-PCR เพื่อยืนยันผลอย่างแม่นยำ
🌍 สถานการณ์ในระดับประเทศยังไม่น่าวางใจ
แม้ตัวเลขจะไม่ได้แตะระดับวิกฤติเท่ากับช่วงการระบาดระลอกเดลตาหรือโอมิครอน แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและกระจายในหลายจังหวัดอย่างพร้อมเพรียงกัน แสดงให้เห็นว่าไวรัสยังคงหมุนเวียนอยู่ในชุมชนอย่างเงียบๆ การใช้ชีวิตแบบ “ไม่มีโควิด” อาจทำให้การ์ดตก และเสี่ยงต่อการระบาดระลอกใหญ่ในอนาคต
🏥 ระบบสาธารณสุขเริ่มมีสัญญาณความกดดัน
แม้โรงพยาบาลส่วนใหญ่ยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อยู่ แต่หน่วยงานด้านสาธารณสุขในบางจังหวัด เช่น ชลบุรี และนครราชสีมา เริ่มออกมาตรการให้ประชาชนที่มีอาการไม่รุนแรงกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) เพื่อแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาล เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเริ่มไหลเข้าระบบเพิ่มขึ้น
💉 กระตุ้นวัคซีน – แนวทางที่ไม่ควรมองข้าม
จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กลุ่มที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นน้อยมีโอกาสติดเชื้อและมีอาการรุนแรงมากกว่า โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว
หากคุณยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster Dose) หรือได้รับครบมานานเกิน 6 เดือน ควรติดต่อหน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อลงทะเบียนฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด
✅ ข้อแนะนำสำหรับประชาชน
1. อย่าชะล่าใจแม้ตรวจ ATK แล้วไม่เจอเชื้อ – หากมีอาการควรตรวจซ้ำหรือปรึกษาแพทย์
2. สวมหน้ากากในที่แออัด – โดยเฉพาะในระบบขนส่งสาธารณะและสถานที่ปิด
3. หมั่นล้างมือบ่อยๆ – โดยเฉพาะหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ
4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมรวมกลุ่มในพื้นที่ปิด – โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดในพื้นที่
5. รับวัคซีนเข็มกระตุ้น – โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง
📌 สรุป: โควิดยังไม่จบ ชลบุรีมาแรง – อย่าประมาท!
สถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ แสดงให้เห็นว่า “ไวรัสยังไม่ไปไหน” และเราทุกคนยังคงต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อสูง เช่น ชลบุรี กรุงเทพฯ นครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง
แม้หลายคนอาจรู้สึกว่าเหนื่อยกับการป้องกันและเฝ้าระวังมาเป็นเวลาหลายปี แต่การ์ดที่ตกเพียงชั่วคราว อาจเป็นสาเหตุให้ไวรัสกลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้งได้
“เพราะสุขภาพเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ อย่าชะล่าใจ และอย่าลืมดูแลตัวเองทุกวัน”






















