วิกฤตหนัก! ช่องทีวีเบอร์ต้น สั่งปลดพนักงานกว่า 100 คน สิ้นเดือนนี้ออกยกทีม
สะเทือนวงการสื่อ! ช่องทีวีใหญ่ประกาศปลดพนักงานนับ 100 ราย มีผลสิ้นเดือนมิถุนายน 2568 จ่ายชดเชยครบ แต่กระแสตีกลับแรง แวดวงสื่อกังวลอนาคต
เป็นข่าวใหญ่ที่ทำให้วงการสื่อสารมวลชนต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อมีรายงานจากแหล่งข่าววงในออกมายืนยันว่า สถานีโทรทัศน์ช่องใหญ่ช่องหนึ่งของประเทศไทย ได้ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ด้วยการปลดพนักงานจำนวนมากกว่า 100 ราย ซึ่งจะมีผลในช่วง สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ที่จะถึงนี้
โดยการปลดพนักงานครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเฉพาะบางแผนกเท่านั้น แต่ครอบคลุมแทบทุกหน่วยงานในบริษัท ทั้ง ฝ่ายขาย ฝ่ายข่าว ฝ่ายผลิต ฝ่ายเทคนิค และแผนกออฟฟิศอื่นๆ ซึ่งทำให้บรรยากาศในองค์กรเต็มไปด้วยความตึงเครียดและกังวลใจอย่างหนัก
สถานการณ์เศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภค มีผลโดยตรงต่อการปรับตัวของช่องใหญ่
จากการวิเคราะห์สถานการณ์พบว่า สาเหตุที่ช่องดังแห่งนี้ต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กรแบบเฉียบพลัน น่าจะมีปัจจัยหลักมาจาก ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้รายได้จากโฆษณาลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึง พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปหันไปบริโภคสื่อออนไลน์ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง และคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียมากขึ้น
สถานีโทรทัศน์ดั้งเดิมจึงต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดจากผู้เล่นหน้าใหม่ และการรักษาส่วนแบ่งตลาดเดิมไว้ก็ยิ่งยากขึ้นทุกวัน การลดต้นทุนจึงกลายเป็นทางเลือกที่องค์กรหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประกาศแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน พร้อมเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า การปลดพนักงานครั้งนี้มีการวางแผนล่วงหน้าและดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบ โดยพนักงานที่ถูกปลดได้รับการแจ้งล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 1 เดือน และบริษัทได้ให้คำมั่นว่าจะจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานอย่างครบถ้วน ซึ่งรวมถึงเงินชดเชยตามระยะเวลาทำงาน ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่พนักงานพึงได้รับ
ทั้งนี้ยังมีการเปิดโอกาสให้พนักงานที่สมัครใจลาออกสามารถยื่นเรื่องเพื่อรับสิทธิชดเชยในรูปแบบเดียวกับผู้ที่ถูกปลด เพื่อเป็นการลดผลกระทบทางจิตใจและสร้างความยืดหยุ่นให้กับกระบวนการปรับโครงสร้าง
เสียงสะท้อนจากพนักงานในองค์กร: "แม้เข้าใจเหตุผล แต่ก็เจ็บปวดใจ"
พนักงานรายหนึ่งซึ่งอยู่ในสายข่าวของช่องนี้ได้ให้สัมภาษณ์โดยไม่เปิดเผยชื่อว่า “ข่าวนี้ไม่ได้มาแบบกะทันหัน แต่พอถึงวันที่ต้องเซ็นรับหนังสือจริงๆ ก็ยังรู้สึกช็อกอยู่ดี เราเข้าใจว่าองค์กรต้องปรับตัว เราเห็นตัวเลขโฆษณาที่ลดลง และเห็นการเปลี่ยนแปลงของสื่อในยุคดิจิทัล แต่พอถึงวันที่ต้องแยกย้ายกันจริงๆ มันก็ยังเจ็บอยู่ดี เพราะบางคนทำงานที่นี่มาเป็น 10-20 ปี”
บางรายถึงกับเตรียมตัวออกจากวงการสื่ออย่างถาวร เพราะมองว่าอุตสาหกรรมนี้กำลังเข้าสู่ช่วงถดถอย และโอกาสการจ้างงานใหม่อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด โดยเฉพาะคนที่มีอายุงานสูงแต่ยังไม่ถึงวัยเกษียณ
กระแสในโซเชียล: ผู้ชมและแฟนคลับหลายคนแห่ให้กำลังใจพนักงาน
เมื่อข่าวนี้เริ่มแพร่ออกไปในโซเชียลมีเดีย กระแสตอบรับจากผู้ชมและแฟนคลับของช่องก็เกิดขึ้นทันที หลายคนรู้สึกเสียดายกับสิ่งที่จะหายไป เพราะบางทีมงานอยู่เบื้องหลังรายการข่าว รายการบันเทิง หรือสารคดีคุณภาพที่เป็นที่จดจำ
ความคิดเห็นจำนวนมากระบุว่า “เข้าใจว่าโลกเปลี่ยน แต่ใจหายที่ต้องเห็นคนทำงานจริงจังโดนปลดแบบนี้”, บางรายถึงขั้นระบุว่า “ช่องควรหาทางสร้างรายได้ใหม่ๆ มากกว่าการตัดคน” ขณะที่บางส่วนก็มองว่า “นี่อาจเป็นการเริ่มต้นของการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว”
บทเรียนจากเหตุการณ์: โลกของสื่อไม่มีที่ยืนถาวร
กรณีการปลดพนักงานครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์แรกของวงการสื่อ และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน ก่อนหน้านี้มีหลายบริษัทสื่อในประเทศไทยและต่างประเทศที่ต้องปรับลดขนาดองค์กร ลงทุนในเทคโนโลยี และเปลี่ยนทิศทางการดำเนินธุรกิจเพื่อความอยู่รอด
สิ่งที่เราเห็นจากเหตุการณ์นี้คือ ความไม่แน่นอนในโลกของสื่อ ที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ใครที่ไม่สามารถปรับตัวได้ก็อาจถูกกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่เข้าใจดิจิทัลมีพื้นที่สร้างสรรค์คอนเทนต์รูปแบบใหม่ๆ
คำถามที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ อนาคตของสื่อมวลชนไทยจะเป็นอย่างไร? จะมีช่องไหนอีกที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมแบบเดียวกัน? หรือจะสามารถเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างมั่นคงและไม่ต้องเสียพนักงานจำนวนมากแบบนี้อีก?
ในขณะที่หลายช่องเริ่มหันมาทำ รายการออนไลน์, คอนเทนต์ใน TikTok, YouTube, Facebook Watch และแม้แต่ Podcast เพื่อเจาะกลุ่มผู้ชมใหม่ๆ แต่เส้นทางนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะสร้างรายได้เพียงพอเหมือนกับสื่อกระแสหลักในอดีตหรือไม่
การปลดพนักงานครั้งใหญ่ของช่องทีวีดังในปี 2568 นี้ ไม่เพียงแต่เป็นข่าวเศร้าในวงการเท่านั้น แต่ยังเป็น สัญญาณเตือนที่สำคัญสำหรับทุกคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมสื่อ ว่าการเปลี่ยนแปลงกำลังมาอย่างจริงจัง
ใครที่อยู่ในสายงานนี้อาจต้องเตรียมพร้อมในการพัฒนาทักษะใหม่ คิดคอนเทนต์ในรูปแบบใหม่ๆ และอาจต้องพิจารณาทางเลือกในสายงานอื่นๆ เพื่อความมั่นคงในระยะยาว











