หวั่นไม่ปลอดภัย! นักศึกษาทยอยหนี “หอพักมหาภัย” มากกว่า 10 รายแล้ว
ดราม่าหอพักมหาภัย! นักศึกษาทยอยย้ายออก หลังเจ้าของโดนจับข้อหากรรโชกทรัพย์ – ค่ามัดจำทะลุ 50,000 บาท!
เกิดเหตุการณ์ช็อกวงการนักศึกษาอีกครั้ง เมื่อมีข่าวใหญ่สะเทือนรั้วมหาวิทยาลัย จากกรณีหอพักเอกชนชื่อดังในพื้นที่ ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ที่มีนักศึกษาจำนวนมากอาศัยอยู่ ได้ถูกแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เช่ากว่า 20 ราย ว่าถูกเจ้าของหอพักกระทำการในลักษณะ “กรรโชกทรัพย์-ยึดทรัพย์สินและเอกสารสำคัญ” ไม่คืนให้ โดยเหตุการณ์นี้ได้ปะทุขึ้นและยืดเยื้อสะสมมานานหลายปี จนในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอหมายจับและนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามรายในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา
ตำรวจบุกจับเจ้าของหอพัก พ่อ-แม่-ลูก โดนรวบพร้อมกัน 3 ราย
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดปทุมธานีเพื่อเข้าทำการจับกุมบุคคล 3 ราย ได้แก่
พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี
นางพัชรียา อายุ 56 ปี
นางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี
ซึ่งเป็นเจ้าของหอพักดังกล่าว โดยทั้งหมดถูกตั้งข้อหากรรโชกทรัพย์ และมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิ์ของผู้เช่าหอพัก ทั้งในเรื่องการทวงหนี้โดยไม่ชอบ ยึดบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และทรัพย์สินของนักศึกษาโดยไม่มีการชี้แจงหรือคืนทรัพย์ให้เจ้าของ
พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต เปิดเผยว่า หลังจากการเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามรายไปสอบปากคำยังสถานีตำรวจ และเมื่อถึงช่วงเย็น ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งหลังจากพิจารณาแล้ว เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ประกันตัวโดยมีวงเงิน คนละ 37,000 บาท ด้วยเหตุผลว่า “ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี มีภูมิลำเนาชัดเจน และคดีนี้มีอายุความไม่เกิน 10 ปี”
นักศึกษาเริ่มทยอยย้ายออก - หวั่นความไม่ปลอดภัยและค่ามัดจำแพงเกินจริง
หลังการเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่หอพักทันที โดยตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 มีนักศึกษาจำนวนมากเริ่มทยอยเก็บของและย้ายออกจากหอพัก โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานร่วมอำนวยความสะดวก อาทิเช่น เจ้าหน้าที่เทศกิจจากเทศบาลตำบลหลักหก เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ซึ่งมาคอยตรวจสอบความเรียบร้อยและดูแลสิทธิ์ของนักศึกษาอย่างใกล้ชิด
นางสาวน้อยหน่า ตัวแทนนักศึกษาผู้เสียหาย เปิดเผยว่า
“เช้าวันนี้มีคนทยอยขนของกันตั้งแต่ 9 โมงเช้าแล้ว ขณะนี้ย้ายออกไปแล้วประมาณ 10 คน ยังมีบางส่วนที่อยู่ระหว่างเตรียมตัว ซึ่งจำนวนผู้เช่าทั้งหมดอยู่ราว ๆ 170 คน”
นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่าตกใจจากนักศึกษาหลายรายที่เปิดเผยว่า หอพักแห่งนี้มีการเรียกเก็บเงินค่ามัดจำห้องพักสูงเกินจริง นักศึกษาปี 1 รายหนึ่งกล่าวว่า
“ค่าห้องแค่เดือนละ 9,000 บาท แต่เรียกค่ามัดจำถึง 50,000 บาท ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเลย ตอนแรกก็คิดว่าปลอดภัย แต่หลังๆ เริ่มมีปัญหาจุกจิก และรู้สึกว่าเจ้าของหอพักไม่โปร่งใส”
ขณะที่นักศึกษาปี 3 อีกรายกล่าวเพิ่มเติมว่า
“อยู่มานานแต่รู้สึกไม่สบายใจเลย หอพักนี้สูงถึง 5 ชั้น แต่ไม่มีลิฟต์ ต้องเดินขึ้นลงทุกวันทั้งที่เสียค่าเช่าเดือนละเกือบหมื่นบาท พอมีข่าวแบบนี้เลยตัดสินใจย้ายออกทันที”
สภาพหอพักถูกตั้งข้อสังเกต – ต่อเติมผิดแบบ-รุกล้ำพื้นที่สาธารณะ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ เบื้องต้นพบว่า อาคารหอพักบางส่วนมีการต่อเติมผิดแบบ และยังมีข้อสงสัยเรื่องการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกหนังสือแจ้งให้ทางเจ้าของหอพักดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดคือ 30 วัน หากไม่ดำเนินการอาจต้องถูกสั่งรื้อถอนหรือดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม
เจ้าหน้าที่ สคบ. ยังเปิดเผยว่า หากพบว่ามีการละเมิดสิทธิ์ของผู้บริโภคจริง เช่น การกักเอกสารส่วนบุคคลหรือทรัพย์สินของนักศึกษาโดยไม่มีคำอธิบาย ก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค และอาจเข้าข่ายความผิดทางอาญาเพิ่มเติม
ความคิดเห็นจากโลกออนไลน์ – เสียงเรียกร้องถึงหน่วยงานรัฐ
หลังข่าวการจับกุมและพฤติกรรมของเจ้าของหอพักถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียลมีเดีย โลกออนไลน์ต่างแสดงความเห็นหลากหลาย โดยส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจและตั้งคำถามถึงมาตรการดูแลและกำกับหอพักเอกชนที่อยู่ในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยหลายแห่ง หลายคนแสดงความเห็นว่า
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีหอพักเอาเปรียบเด็กนักศึกษา แล้วเมื่อไหร่ภาครัฐจะลงมาดูจริงจัง?”
“หอพักเอกชนทุกวันนี้บางที่โก่งราคาอย่างโหด มัดจำสูง แถมบริการไม่มีอะไรเลย”
“นักศึกษาเพิ่งเข้ามหาลัยมา ต้องมาปวดหัวกับพวกเจ้าของหอพักแบบนี้อีกหรอ?”
สิ่งที่นักศึกษาควรระวังเมื่อเช่าหอพักเอกชน
กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์สำคัญที่นักศึกษาทุกคนควรเรียนรู้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องออกจากบ้านมาเรียนต่างจังหวัดและต้องหาที่พักเอง คำแนะนำเบื้องต้นมีดังนี้:
1. ตรวจสอบสัญญาเช่าอย่างละเอียด – อย่าละเลยรายละเอียดเล็กๆ เช่น ค่ามัดจำ ระยะเวลาเช่า การคืนเงินเมื่อย้ายออก
2. ถ่ายรูปสภาพห้องก่อนเข้าอยู่ – เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดปัญหาเรื่องการเรียกค่าเสียหาย
3. เก็บเอกสารส่วนตัวไว้กับตัวเองเสมอ – ไม่ควรยื่นต้นฉบับเอกสารราชการให้ใครเก็บไว้
4. สอบถามข้อมูลจากรุ่นพี่หรือชาวบ้านรอบพื้นที่ – เพื่อประเมินชื่อเสียงและความปลอดภัยของหอพัก
5. ตรวจสอบว่าเป็นหอพักที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องหรือไม่
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สะท้อนปัญหาของเจ้าของหอพักเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ในการดูแลสิทธิ์ของผู้เช่ารายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่อาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย หากไม่มีมาตรการควบคุมและช่องทางร้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ
หวังว่ากรณีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ภาครัฐ หน่วยงานการศึกษา และมหาวิทยาลัยทุกแห่ง หันมาใส่ใจในการกำกับดูแลที่พักอาศัยของนักศึกษาให้มากขึ้น เพื่อให้การศึกษาในระดับอุดมศึกษาสามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพและปลอดภัยในทุกมิติของชีวิต
สูตรคำนวณงวด 16/11/68
ดาราดัง "ทัตสึยะ นากาได" เสียชีวิตแล้ว
"ลิซ่า" โผล่ห้างดัง! ให้กำลังใจช่างแต่งหน้าคู่บุญ..ทำเอาแฟนๆ แตกตื่น
ดื่มน้ำให้เป็นยา ตามหลักอายุรเวท แล้วอายุรเวท คืออะไร
วิธีบอกปฏิเสธ ให้ถนอมทั้งใจเขาและใจเรา
ความผูกพันทางอารมณ์ Emotional Attachment ความ ‘ผูกพัน’ หรือ การ ‘ผูกติด’ มากไปอาจไม่ใช่เรื่องดี
รวมภาพตลกเฮฮาประจำวันนี้ วันที่พายุฝนไม่มีมากนัก แต่น้ำยังเอ่อท่วมหลายพื้นที่ของประเทศ ดูแลตัวเองกันด้วยน๊า
ซาเซน Zazen ฝึกสมาธิ สร้างความสงบใจ
เกิดอะไรขึ้น "วุ้นเส้น" ขายหุ้น "เซวา" เกลี้ยง
ดราม่าร้อนหน้าเพจทหาร หลัง “ณัฐพล” ลงพื้นที่ชายแดน คนแห่วิจารณ์ยับกลางสถานการณ์ตึงเครียดไทย–กัมพูชา
รู้จัก "น้ำตาล วิลาสินี" นางฟ้าฮอกกี้ทีมชาติไทย..บอกเลยดีกรีไม่ธรรมดา
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ นอกจากปลาดุกจะเอามาผัดฉ่าได้อร่อยแล้ว ปลาคังก็เอามาผัดได้อร่อยเช่นกัน ขอบคุณครับ
อังคณา นีละไพจิตร เคลื่อนไหวหลังเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด ย้ำเป็นการละเมิดข้อตกลงสันติภาพ
เขมรยัน "ระเบิดที่ระเบิดเป็นระเบิดเก่า"
"ลิซ่า" โผล่ห้างดัง! ให้กำลังใจช่างแต่งหน้าคู่บุญ..ทำเอาแฟนๆ แตกตื่น
เกิดอะไรขึ้น "วุ้นเส้น" ขายหุ้น "เซวา" เกลี้ยง
กำเนิดมวยไทยสากล และตำนานนักชกผู้บุกเบิก





