หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

จับคู่คนใกล้ตัว! “หมอเตย-ฉัตรชัย” ผัวเมียสายใกล้ชิดทิดแย้ม โดนรวบคาวัด

เนื้อหาโดย zzz1111

ขยายผลคดีทิดแย้ม! สองผัวเมียคนสนิท "หมอเตย-ฉัตรชัย" โดนรวบคาค่ายลูกเสือ ส่อเอี่ยวทุจริตเงินวัดไร่ขิงเกือบพันล้าน - "อดีตพระเลขา" โดนด้วย

คดีทุจริตเงินวัดไร่ขิงที่เขย่าวงการสงฆ์ไทยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยังคงเดินหน้าเข้าสู่การขยายผลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุม นางพชรพร หรือ หมอเตย และ พันจ่าเอกฉัตรชัย สองสามีภรรยาที่ถูกระบุว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดคนสำคัญของ ทิดแย้ม หรือ อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ซึ่งกำลังเผชิญข้อกล่าวหายักยอกเงินวัดมูลค่ามหาศาล รวมแล้วเกือบ 1,000 ล้านบาท

การจับกุมในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ ค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา ภายในพื้นที่มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งถือเป็นฐานปฏิบัติการและแหล่งเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอดีตเจ้าอาวาสมาโดยตลอด

 

ย้อนรอยคดีฉาว "ทิดแย้ม" ยักยอกเงินวัดเกือบพันล้าน โอนให้ "สีกาเก็น" ด้วยความเสน่หา

คดีนี้เริ่มต้นจากการตรวจสอบพฤติกรรมของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่ถูกเปิดโปงว่ามีการ นำเงินของวัดไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม รวมถึงโอนให้บุคคลภายนอกโดยไม่มีเอกสารรองรับ โดยเฉพาะกรณีการโอนเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาทให้กับหญิงคนหนึ่งที่ถูกเรียกว่า “สีกาเก็น” ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาวและมีการซื้อทรัพย์สินหรูหรา เช่น บ้าน รถ และของใช้แบรนด์เนมในต่างประเทศให้สีการายนี้ด้วย

จากการขยายผลของเจ้าหน้าที่พบว่า เงินจำนวนดังกล่าวถูกดึงมาจากหลายช่องทาง ทั้ง เงินบริจาค, เงินประมูลร้านค้าในงานวัดประจำปี, และ รายได้จากร้านค้าสวัสดิการภายในวัด โดยที่ไม่มีการนำส่งบัญชีวัดตามระเบียบของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแต่อย่างใด

หมอเตย-ฉัตรชัย สองผัวเมียที่ถูกระบุร่วมขบวนการ

จากการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การออกหมายจับ นางพชรพร หรือ หมอเตย และ พันจ่าเอกฉัตรชัย ซึ่งมีความสนิทสนมกับทิดแย้ม และได้รับบทบาทสำคัญในการบริหารกิจกรรมภายในวัดไร่ขิงก่อนเกิดเหตุ ทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่า มีส่วนสนับสนุนการเบียดบังทรัพย์สินของวัด โดยร่วมกันจัดการบัญชีเงินที่ได้จากการประมูลร้านค้าและกิจกรรมต่าง ๆ ของวัด แล้วนำเงินเหล่านั้นไปส่งมอบให้กับทิดแย้มโดยตรง

เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับศาลอาญาเข้าควบคุมตัวทั้งสองรายในข้อกล่าวหา “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ในการจัดการทรัพย์สิน แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาร้ายแรงในหมวดกฎหมายต่อต้านการทุจริต

 

"อดีตพระเลขา" โผล่ร่วมขบวนการด้วย! ศาลออกหมายจับ-เตรียมอายัดตัว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ นายเอกพจน์ หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระเลขานุการของทิดแย้ม โดยพบว่าเขามีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดการและดำเนินการเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ ของวัด ที่ไม่เข้าสู่ระบบบัญชีอย่างถูกต้อง

แม้ขณะนี้นายเอกพจน์จะถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จากคดีอื่นที่เคยต้องโทษไปก่อนหน้านี้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ละเลย และอยู่ระหว่างการประสานอายัดตัวเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมทันทีที่ได้รับอนุมัติหมายจับ

 

แผนทุจริตที่ซับซ้อนเชื่อมโยงหลายฝ่าย – กระทบศรัทธาอย่างหนัก

การเปิดโปงคดีนี้ถือเป็นหนึ่งในคดีที่สะเทือนวงการพุทธศาสนาไทยอย่างรุนแรง เพราะไม่เพียงแต่มีอดีตเจ้าอาวาสเป็นผู้กระทำความผิดหลัก แต่ยังพบว่ามีบุคคลใกล้ชิด ทั้งฆราวาสและอดีตพระภิกษุ เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเป็นขบวนการ

ความเสียหายมูลค่ารวมสูงเกือบ 1,000 ล้านบาท นี้ ไม่ได้เพียงสะเทือนศรัทธาของพุทธศาสนิกชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดไร่ขิง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และศูนย์รวมจิตใจของชาวนครปฐมมาอย่างยาวนาน

 

กระแสสังคม-ชาวบ้านเรียกร้องความโปร่งใส คืนความยุติธรรมให้พุทธศาสนา

จากการเปิดเผยข้อมูลล่าสุด มีประชาชนจำนวนมากในพื้นที่และบนโลกออนไลน์ เรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเท่าเทียม และไม่ให้ผู้กระทำผิดได้รับสิทธิพิเศษเพราะฐานะทางศาสนาในอดีต หรือมีความใกล้ชิดกับผู้มีอิทธิพลในวงการสงฆ์

ในขณะเดียวกัน ก็มีการเรียกร้องให้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปรับปรุงระบบการตรวจสอบบัญชีของวัดให้โปร่งใสมากขึ้น พร้อมกับส่งเสริมการอบรมพระภิกษุในเรื่องคุณธรรมและความโปร่งใสในการบริหารทรัพย์สินของวัด

 

บทเรียนจากคดีวัดไร่ขิง: ความศรัทธาต้องมาควบคู่ความโปร่งใส

คดีทุจริตที่เกิดขึ้นในวัดไร่ขิงนี้ไม่เพียงเป็นเรื่องของกฎหมาย แต่ยังเป็น บทเรียนสำคัญของสังคมไทย ที่จะต้องตระหนักว่า ความศรัทธาในศาสนาไม่ควรถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด บุคคลในคราบนักบวชหรือผู้เกี่ยวข้องกับศาสนสถานต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและการตรวจสอบเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป

การดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาจะเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงการศาสนา เพื่อให้วัดกลับมาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนสามารถศรัทธาได้อย่างแท้จริง

 

เนื้อหาโดย: zzz1111
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: paktronghie
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
#เลขเด็ด 1 พย.: วิเคราะห์สถิติหวยออก “1 พฤศจิกายน” ย้อนหลัง 10 ปี! ชี้ชัดเลข “85” ออกซ้ำบ่อย แนวทางงวดนี้ศาลได้มีคำสั่งจำคุก “วิฑูรย์ นามบุตร” เป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากมีการใช้ตำแหน่งเรียกรับเงินจำนวน 30 ล้าน บาท เพื่อแลกรับงานจากรัฐ“มันหนึบ” กินแล้วคุมน้ำหนักได้จริงหรือ?ทึ่งทั่วไทย : ธนบัตร 500,000 บาท – สัญลักษณ์แห่งรักและพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ภาพถ่ายติดผีที่กำลังเป็นไวรัลในตอนนี้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ปู มัณฑนา ยื่นร้องเรียน หนุ่ม กรรชัย-โหนกระแส กล่าวหาขาดจรรยาบรรณ ทำชีวิตพังยับ“จ๋า ธนนนท์” ภริยานายกฯ อนุทิน โพสต์ขอโทษสื่อ หลังพูดเล่นจนเกิดกระแสวิจารณ์ — ยืนยันไม่มีเจตนาคุกคามเขมรเอาใหญ่ สร้างคลิป AI ใส่ร้ายไทยไม่หยุด อ้างไทยมาเที่ยวอันตราย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เปิดหลักฐาน! โรงแรมญี่ปุ่น ปฏิเสธความรับผิดชอบหลังลูกค้าถูก "แอบมอง" ในบ่อ ออนเซ็นกลางแจ้งกกล.บูรพา เก็บกู้ "ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล MN79" พื้นที่ชายแดนอรัญประเทศ สำเร็จปลอดภัย"แทคยอน 2PM" เตรียมแต่งงานกับสาวนอกวงการตำรวจพนมเปญ บุกทลายแก๊งต้มตุ๋น จับกุมผู้ต้องหา 111 ราย
ตั้งกระทู้ใหม่