“ไม่ใช่ผู้ชาย!” ดราม่าเดือด อินฟลูฯทรานส์โวยดิสนีย์ฯ ปมการเรียกเพศผิด

ดิสนีย์แลนด์เจอดราม่า! อินฟลูฯทรานส์เจนเดอร์เผยถูกเรียก "คุณผู้ชาย" ต่อหน้าแขกทั้งร้าน ลั่น "รู้สึกไม่ปลอดภัยอีกต่อไป กับสถานที่ในฝัน" จุดประเด็นดราม่าทะลุโซเชียล

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 โลกออนไลน์ต้องสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ “ลิลลี่ คอนติโน” (Lilly Contino) อินฟลูเอนเซอร์สาวข้ามเพศชื่อดังในสหรัฐฯ ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอพร้อมแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวขณะอยู่ที่ “ดิสนีย์แลนด์” รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความสุขและฝันของคนทุกเพศทุกวัย

แต่สำหรับลิลลี่แล้ว ประสบการณ์ครั้งนี้กลับกลายเป็นฝันร้าย เมื่อเธอถูกพนักงานร้านอาหารในสวนสนุกแห่งหนึ่งเรียกด้วยคำว่า “sir” หรือ “คุณผู้ชาย” ต่อหน้าผู้คนมากมาย ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดและอับอายอย่างที่สุด แม้จะได้รับคำขอโทษในทันทีจากพนักงาน แต่สำหรับลิลลี่แล้ว “มันไม่ใช่แค่คำพูด แต่มันคือการลบอัตลักษณ์ของเธออย่างรุนแรง”

สถานการณ์เกิดขึ้นกลางร้านอาหาร Tiffins ใน Animal Kingdom

จากคลิปวิดีโอที่ลิลลี่โพสต์บน TikTok (@lillytino) และ Instagram ส่วนตัว เผยให้เห็นว่าเธอกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารชื่อ Tiffins ในโซน Animal Kingdom ซึ่งเป็นหนึ่งในธีมพาร์คของดิสนีย์เวิลด์ในรัฐฟลอริดา (แม้ต้นฉบับบางสื่อจะระบุว่าเป็นแคลิฟอร์เนียก็ตาม)

วันนั้น ลิลลี่มาในลุคสดใสด้วยเสื้อกล้ามเอวลอยสีฟ้า กางเกงยีนส์ขาสั้นสีขาว พร้อมคาดผมหูมินนี่เมาส์สีชมพู เธอได้สั่งเมนูชื่อ “Tiffins Signature Bread Service” หรือทาวเวอร์ขนมปังจัดเรียงสวยหรู พร้อมเครื่องจิ้มหลากหลายชนิด อย่างไรก็ดี ในระหว่างที่เธอกำลังจะเพลิดเพลินกับมื้อนี้ พนักงานเสิร์ฟได้เดินเข้ามาพร้อมกล่าวกับเธอว่า “Here you go, sir” จุดชนวนความไม่พอใจขึ้นทันที

“มันคือการแทงใจอย่างหนึ่ง” – ลิลลี่กล่าว

แม้พนักงานจะรีบกล่าวคำขอโทษทันทีและพยายามอธิบายเมนูอย่างต่อเนื่อง แต่บรรยากาศแห่งความสุขได้พังลง ลิลลี่กล่าวในคลิปด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า “การที่ฉันถูกเรียกว่า ‘sir’ มันไม่ใช่แค่คำพูด แต่มันคือการบอกว่าฉันไม่ใช่คนที่ฉันเป็น มันทำให้ฉันหมดอารมณ์ไปหมดเลย ฉันอยากลุกออกจากที่นี่ทันที”

เธอยังเสริมว่า “ฉันไม่รู้สึกปลอดภัยที่นี่อีกต่อไปแล้ว ฉันต้องระวังตัวมากขึ้น ไม่รู้เลยว่าคนรอบข้างจะมองฉันแบบไหน หรือจะถูกทำร้ายด้วยคำพูดแบบนี้อีกหรือเปล่า”

ความเศร้าที่ไม่สามารถกลืนลงพร้อมขนมปังได้อีก

ลิลลี่ยังระบุว่าแม้ขนมปังและอาหารจะไม่มีปัญหาใด ๆ แต่เธอรู้สึกไม่อยากทานมันอีกต่อไป เธอตัดสินใจขอใบเสร็จและออกจากร้านทันที โดยไม่รับประทานอาหารต่อ และพนักงานได้เสนอจะจ่ายค่าอาหารแทนเพื่อเป็นการขอโทษ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 18 ดอลลาร์ (ราว 590 บาท) ไม่รวมเครื่องดื่ม

โลกออนไลน์แตกเป็นสองฝั่ง

หลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง บางส่วนให้กำลังใจลิลลี่และเรียกร้องให้ดิสนีย์มีการฝึกอบรมพนักงานเพิ่มเติมเรื่องการใช้สรรพนามและคำที่ไม่ระบุเพศ (gender-neutral) เช่น “friend” หรือ “guest”

ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชมอีกส่วนหนึ่งกลับมองว่าเหตุการณ์นี้ “เล็กน้อยเกินไป” ที่จะต้องทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ และบางคนถึงขั้นโจมตีเธอว่า “อ่อนไหวเกินเหตุ” หรือ “เรียกร้องความสนใจ”

“โอ้พระเจ้า! คุณก็อ่อนไหวเกินไปนะ” – หนึ่งในความคิดเห็นที่วิจารณ์เธอบน TikTok

“เป็นคุณต่างหาก ที่ทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัด” – อีกเสียงหนึ่งกล่าว

จากการตรวจสอบบัญชีของลิลลี่ พบว่าการถูกระบุเพศผิดไม่ใช่ครั้งแรก เธอเคยโพสต์วิดีโอในปี 2023 ซึ่งเล่าเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันว่า “มันเหมือนโดนแทงใจตรง ๆ ทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า sir”

ลิลลี่จึงเสนอแนะอย่างจริงจังว่าทางดิสนีย์ควรพิจารณาการใช้คำที่ปลอดภัยต่อทุกเพศมากขึ้น เพราะดิสนีย์คือสถานที่ที่ควรเปิดรับและเป็นมิตรต่อทุกคน

บทสนทนาที่ใหญ่กว่าดราม่า

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ประสบการณ์ส่วนตัวของลิลลี่เท่านั้น แต่มันจุดประกายบทสนทนาในสังคมเกี่ยวกับ “ความละเอียดอ่อน” ของอัตลักษณ์ทางเพศในสถานที่สาธารณะ

แม้จะมีคำขอโทษเกิดขึ้นรวดเร็ว แต่ความรู้สึก “ถูกลบตัวตน” หรือ “ไม่เป็นที่ยอมรับ” ยังคงเป็นแผลในใจของใครหลายคน

เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นของการอบรมพนักงานและบุคลากรในสถานที่สาธารณะให้มีความเข้าใจในเรื่องความหลากหลายทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพ เพศวิถี หรืออัตลักษณ์ส่วนบุคคล การเคารพในสิทธิของแต่ละบุคคลไม่ควรถูกลดทอนด้วยคำพูดไม่กี่คำ

ในฐานะสถานที่ที่เป็น “ที่แห่งความฝัน” สำหรับผู้คนทั่วโลก ดิสนีย์ควรตระหนักว่า ความฝันนั้นควรเป็นของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนข้ามเพศหรือผู้มีอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่าง

การใช้ถ้อยคำให้เหมาะสมไม่ใช่เรื่องของ “ความอ่อนไหว” แต่เป็นเรื่องของ “ความเคารพ” และการทำให้ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขามีตัวตนและมีคุณค่า

เหตุการณ์นี้อาจเริ่มจากเพียงคำพูดเดียว แต่ผลกระทบที่ตามมานั้นใหญ่โตและกินใจ และนี่คือโอกาสของดิสนีย์ที่จะแสดงให้เห็นว่าโลกแห่งความฝันสามารถเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและเท่าเทียมอย่างแท้จริงสำหรับทุกคน

 “ขอโทษคือเรื่องหนึ่ง แต่การเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่สำคัญกว่า” – ลิลลี่ คอนติโน