ราเชล ไม่ทน! ตอกกลับแรงหลังคืนมงกุฎ ลั่นชัด “ฉันคือนางงาม ไม่ใช่แม่ค้า”
ดราม่าเดือด! ราเชล คุปตะ แฉหมดเปลือก หลังถูกปลดจากตำแหน่ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2024
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนที่สะเทือนวงการนางงามระดับนานาชาติ เมื่อเพจ Miss Grand International ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการถึงการ ถอดถอน ราเชล คุปตะ (Rachel Gupta) นางงามสาวงามจากประเทศอินเดีย ออกจากตำแหน่ง Miss Grand International 2024 ท่ามกลางความสงสัยและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง
สิ่งที่ตามมาไม่ใช่เพียงแค่ความผิดหวังของแฟนนางงามเท่านั้น แต่ยังเกิด ดราม่าระลอกใหญ่ เมื่อราเชลออกมา โพสต์คลิปวิดีโอผ่านยูทูบช่องของเธอเอง พร้อมน้ำตาและเสียงสั่นสะเทือนอารมณ์ เล่าถึง เบื้องหลังความเจ็บปวดและความไม่เป็นธรรม ที่เธออ้างว่าได้รับจากทางองค์กร Miss Grand International (MGI) นำโดย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้ก่อตั้งและประธานเวที
เปิดใจด้วยน้ำตา: ราเชล เผย "นี่คือช่วงที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต"
ในคลิปวิดีโอความยาวหลายสิบนาที ราเชลกล่าวว่า “ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของฉันคือวันที่ได้สวมมงกุฎ…แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างก็กลายเป็นฝันร้าย” เธอยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า มีปัญหากับองค์กรจริง และสถานการณ์ที่เธอเผชิญอยู่ในช่วงหลายเดือนหลังคว้ามงกุฎนั้น คือสิ่งที่ เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ
เธอกล่าวว่า ถูกบังคับให้ใช้ชีวิตในสภาพที่ย่ำแย่ ขาดความช่วยเหลือจากองค์กร ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย การเดินทาง การกินอยู่ขั้นพื้นฐาน กระเป๋าเดินทางเปิดใช้ไม่ได้ ห้องพักที่อยู่ก็ไม่เหมาะสมต้องอยู่เป็นเดือน ก่อนจะถูกย้ายไปอยู่บ้านหลังเก่าที่อยู่ชานเมืองซึ่งไม่มีรถ ไม่มีซิมการ์ด ไม่มีแม้แต่เครื่องครัวสำหรับทำอาหาร และการขอความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ผลไม้ หรือค่าอาหารกลับไม่ได้รับการตอบสนอง
ข้อกล่าวหาเรื่องการเงิน: ไม่ได้ค่าตอบแทนแม้จะทำงานให้เวที
ราเชลยังเปิดเผยอีกว่า หลังจากได้รับตำแหน่ง เธอได้รับเงินเดือนเพียงแค่ในเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น และ ไม่มีการจ่ายต่อเนื่อง จนต้อง ขอเงินจากพ่อแม่ เพื่อยังชีพ โดยเฉพาะในเรื่องของค่าอาหารและการดำรงชีวิตประจำวัน
มีเหตุการณ์หนึ่งที่เธอเล่าว่า เธอ วางเงินสดจำนวน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้ในกระเป๋าเดินทางที่บ้าน แต่เมื่อกลับมาก็พบว่าเงินหายไป และกระเป๋าก็อยู่ในสภาพเหมือนถูกงัด เธอพยายามขอความช่วยเหลือจากองค์กร แต่กลับไม่ได้รับการดูแลหรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ
สัญญาเหมือนถูกบังคับ: "เหมือนปืนจ่อหัวให้เซ็น"
อีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่ทำให้หลายคนตกใจคือ ราเชลระบุว่า หลังได้รับตำแหน่ง เธอถูกเรียกไปเซ็นสัญญาใหม่ โดยองค์กรนำเอกสารมาให้เซ็นในลักษณะ “เหมือนปืนจ่อหัว” เพราะ เนื้อหาในสัญญานั้นเอื้อประโยชน์ให้องค์กรมากกว่าผู้ครองตำแหน่ง และเมื่อเธอพยายามขอเจรจา ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางส่วน กลับถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย พร้อมคำพูดในทำนองว่า “ไม่เซ็นก็ออกไปได้เลย”
เธอรู้สึกว่า สิ่งที่องค์กรสนใจมีเพียง “เงิน” และ การสร้างรายได้จากผู้ชนะ เท่านั้น ไม่ใช่ความสุข ความปลอดภัย หรือแม้แต่ศักดิ์ศรีของผู้หญิงที่คว้ามงกุฎมาได้ด้วยความสามารถของตัวเอง
ความขัดแย้งภายในและโอกาสที่หายไป
อีกหนึ่งประเด็นที่เธอชี้แจงคือ ความขัดแย้งระหว่าง MGI กับ National Director ของอินเดีย (Nikki) ซึ่งทำให้ราเชล ไม่สามารถรับงานในประเทศตัวเองได้ ส่งผลให้เสียโอกาสในการสัมภาษณ์กับสื่อใหญ่ๆ และงานสำคัญหลายชิ้น แม้จะทำงานกับทาง MGI อย่างต่อเนื่อง แต่กลับถูกขู่ว่าจะปลดตำแหน่งอยู่บ่อยครั้ง
เธอยังเสริมอีกว่า มีคนอื่นๆ ที่มีสัญญากับ MGI ก็ รู้สึกอยากออกจากสัญญาเช่นกัน แต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูด เพราะกลัวการฟ้องร้อง
ฝันสลาย: ความคาดหวังที่จะได้เดินทางกว่า 20 ประเทศ กลายเป็นเรื่องหลอกลวง?
ราเชลเล่าว่า ก่อนประกวด ทางองค์กรพูดไว้ชัดเจนว่า ผู้ครองตำแหน่งจะได้เดินทางทำกิจกรรมใน กว่า 20 ประเทศทั่วโลก แต่เมื่อผ่านมา 7 เดือน เธอได้เดินทางไปเพียง ประเทศเดียว (เช็ก) เท่านั้น ส่วนประเทศกัวเตมาลาที่มีข่าวว่าเธอไม่ไป เธอกล่าวว่าเป็นเพราะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง และไม่รู้สึกปลอดภัยที่ต้องเดินทาง โดยไม่มีการดูแลจากองค์กร
คำเตือนถึงสาวๆ ที่ฝันอยากเป็นมิสแกรนด์
ท้ายที่สุด ราเชลส่งสารถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้าสู่วงการนางงาม โดยกล่าวว่า “อย่าคิดว่าแค่ชนะแล้วจะได้ทุกอย่าง” เพราะ เบื้องหลังมงกุฎอาจเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว การขาดการสนับสนุน และความรู้สึกเหมือนถูกใช้จนหมดประโยชน์
เสียงจากโลกออนไลน์: แฟนนางงามแตกเป็นสองฝั่ง
หลังคลิปวิดีโอของราเชลถูกเผยแพร่ หลายคนออกมาแสดงความเห็นแตกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน ฝ่ายหนึ่งแสดงความเห็นใจในสิ่งที่เธอต้องเผชิญ พร้อมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของเวที MGI และเรียกร้องให้มีการ ตรวจสอบสิทธิขั้นพื้นฐานของนางงามในเวทีระดับโลก
อีกฝ่ายหนึ่งมองว่า ราเชลอาจมีวัตถุประสงค์ส่วนตัว หรือมีเจตนาสร้างกระแสให้ตัวเอง หลังจากหมดตำแหน่ง โดยเห็นว่า การออกมาพูดเพียงฝ่ายเดียว อาจไม่สะท้อนความจริงทั้งหมด
สะเทือนความน่าเชื่อถือของเวที MGI?
กรณีนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ใหญ่ที่ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Miss Grand International อย่างมีนัยสำคัญ เพราะการออกมาแฉของผู้ชนะโดยตรงเช่นนี้ สร้างคำถามให้กับแฟนนางงามทั่วโลกว่า เบื้องหลังแสงไฟและเวทีอลังการนั้น องค์กรให้การดูแลผู้ชนะอย่างไร?
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดเวทีกับผู้เข้าประกวดจึงกลายเป็นประเด็นที่ต้อง เปิดเผยมากขึ้น โปร่งใสมากขึ้น และเคารพในสิทธิมนุษยชนของผู้เข้าร่วมประกวดมากกว่านี้
กรณีของราเชล คุปตะ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของนางงามคนหนึ่งที่ถูกปลดจากตำแหน่ง แต่มันสะท้อนถึงปัญหาที่ลึกกว่าในแวดวงประกวดนางงามระดับนานาชาติ ว่าในขณะที่โลกกำลังพูดถึงความเท่าเทียม การให้เกียรติ และสิทธิมนุษยชน...เวทีประกวดนางงามจะเดินหน้าไปอย่างไร ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
การเป็นนางงาม ไม่ควรต้องแลกกับศักดิ์ศรีหรือความเจ็บปวด
















