หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

จับ 3 พ่อแม่ลูกคาหอพัก! ผัวอดีตตร.โต้ไม่หยุด แต่สุดท้ายยอม

โพสท์โดย zzz1111

จับแล้ว! เจ้าของหอพักฉาว "หึ หึ" ยกครัว 3 คน พ่อแม่ลูก ถูกดำเนินคดีกรรโชกทรัพย์ ปมลูกบ้านแฉถูกทำร้าย-ยึดของไม่ยอมคืน

จากคดีสุดอื้อฉาวที่สร้างแรงสะเทือนในวงการหอพักนักศึกษา เมื่อกลุ่มนักศึกษากว่า 20 ราย รวมตัวกันเข้าแจ้งความเอาผิดเจ้าของหอพักชื่อดังในพื้นที่ ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ภายใต้ชื่อ "หอพักที ที" หลังถูกกระทำรุนแรง ทั้งทางร่างกายและสิทธิในทรัพย์สินส่วนตัว

โดยคดีนี้เริ่มต้นจากความกล้าหาญของนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันเข้าแจ้งความต่อ สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต และยังได้ยื่นเรื่องต่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อขอความเป็นธรรม หลังพวกเขาถูกเจ้าของหอพักทำร้ายร่างกาย ยึดบัตรประชาชน บัตรนักศึกษา รวมถึงสิ่งของมีค่าและทรัพย์สินอื่น ๆ โดยไม่มีการคืนให้เมื่อย้ายออก หรือแม้แต่ในกรณีขอคืนตามปกติ

จนกระทั่งวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ตำรวจชุดใหญ่ภายใต้การนำของ พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้สนธิกำลังบุกเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็น ครอบครัวเดียวกัน ประกอบด้วย:

พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี (อดีตตำรวจ)

นางพัชรียา อายุ 56 ปี (ภรรยา)

น.ส.พูลชนก อายุ 28 ปี (ลูกสาว)

ทั้ง 3 คนถูกตั้งข้อหา กรรโชกทรัพย์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี โดยในวันจับกุมมีการโต้เถียงเกิดขึ้นระหว่างผู้ต้องหาซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับทีมเจ้าหน้าที่ที่เข้าแสดงหมายจับ แต่ในที่สุดก็ต้องยอมจำนนต่อพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักจนศาลอนุมัติหมายจับให้ได้

พฤติกรรมอุกอาจ เหยื่อเผยถูกข่มขู่ ทำร้าย และยึดของโดยไม่คืน

จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าพฤติกรรมของครอบครัวเจ้าของหอพักดังกล่าวมีลักษณะ ข่มขู่ลูกบ้านอย่างเป็นระบบ ผู้เสียหายหลายรายให้ข้อมูลตรงกันว่า ถูกข่มขู่ว่าหากไม่ยอมทำตามกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นเองอย่างไม่มีเหตุผล จะไม่สามารถย้ายออกได้ หรือถูกยึดทรัพย์โดยไม่มีวันได้คืน

บางรายระบุว่าเคยถูก ทำร้ายร่างกาย ด้วยการผลัก ด่าทอ หรือขว้างปาสิ่งของใส่ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เช่น เปิดห้องลูกค้าโดยพลการ ตรวจค้นโดยไม่มีหมาย หรือแม้แต่จับโทรศัพท์มือถือของนักศึกษาไปตรวจดูข้อความ ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรง

อีกทั้ง ยังพบว่ามีการ ยึดเอกสารทางราชการ เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ และบัตรนักศึกษาของผู้เช่า เมื่อเกิดกรณีขอย้ายออก โดยอ้างว่าต้องรอตรวจสอบห้องให้เรียบร้อยก่อนจะคืน ทั้งที่ผู้เช่าหลายรายไม่เคยมีพฤติกรรมทำลายข้าวของใด ๆ

 

ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ – ศาลอนุมัติหมายจับเพียง 1 ข้อหา แต่คดีอื่นรอสอบต่อ

แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอศาลออกหมายจับใน 3 ข้อหา ได้แก่

1. กรรโชกทรัพย์

2. หน่วงเหนี่ยวกักขัง

3. ละเมิดสิทธิในเคหสถาน

แต่ศาลพิจารณาอนุมัติเพียงข้อหาเดียว คือ “กรรโชกทรัพย์” ตามพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักเพียงพอในขณะนี้

พล.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า จากการสอบสวน มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วอย่างน้อย 10 คดี โดยใน 2 คดีได้มีการเรียกสอบปากคำไปแล้ว อีก 2 คดีได้ดำเนินการจับกุมตามหมายเรียบร้อย และอีก 6 คดีกำลังรอผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม

"แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เมื่อศาลอนุมัติหมายจับมาอย่างชัดเจน ก็ต้องดำเนินคดีไปตามกระบวนการ ไม่มีการยกเว้น แม้หนึ่งในผู้ต้องหาจะเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ" พล.ต.ต.ยุทธนากล่าว

ประกันตัวหรือไม่? อยู่ที่ศาลชี้ขาด

ในกรณีของการประกันตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาไปยังศาลเพื่อพิจารณาการประกันตัวตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยยังไม่มีการเปิดเผยว่า ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงินเท่าใด หรือจะคัดค้านการประกันตัวด้วยเหตุผลใด

ด้านชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความคิดเห็นในโลกโซเชียลว่า พฤติกรรมของเจ้าของหอพักครอบครัวนี้ ไม่สมควรได้รับการประกันตัว เพราะถือว่ากระทำผิดโดยตั้งใจ เป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคที่ไม่มีทางสู้ และยังเป็นผู้ที่ควรจะรู้กฎหมายดีจากอดีตอาชีพข้าราชการตำรวจ

 

เสียงสะท้อนจากเหยื่อ – ขอความเป็นธรรม อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นักศึกษาหญิงรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า เธอเคยถูกยึดบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือ โดยไม่มีการคืนคืน ทั้งที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัว และยังถูกกล่าวหาว่าเธอทำห้องพักเสียหายทั้งที่ไม่เป็นความจริง

“หนูแค่อยากได้ของคืน อยากออกจากหอพักนั้นแบบสงบ แต่เขากลับไม่ให้ย้าย และยึดของไว้หมด ตอนนั้นกลัวมาก ไม่กล้าแจ้งความเพราะเขาบอกว่าเป็นตำรวจ ถ้าแจ้งจะมีปัญหา”

อีกหลายรายก็มีประสบการณ์คล้ายกัน บางคนบอกว่าแม้ย้ายออกไปแล้ว ก็ยังถูกเจ้าของหอพักตามข่มขู่ผ่านโทรศัพท์และไลน์ และเมื่อมีข่าวว่าจะรวมตัวแจ้งความ ก็มีคนจากหอพักพยายามโทรมาข่มขู่ว่า "ให้เลิกยุ่ง ถ้าไม่อยากเดือดร้อน"

ข้อคิดสำคัญสิทธิของผู้บริโภคในฐานะผู้เช่าหอพัก

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความจำเป็นของการรู้เท่าทันสิทธิของผู้บริโภค โดยเฉพาะในฐานะผู้เช่าหอพักหรือคอนโดมิเนียม ซึ่งหลายคนยังไม่รู้ว่า:

เจ้าของหอพัก ไม่มีสิทธิ์ยึดทรัพย์สินของผู้เช่า

การเปิดห้องโดยพลการถือว่า ผิดกฎหมาย

การทำร้ายร่างกายแม้เพียงเล็กน้อยก็ถือว่า มีความผิด

หากมีการข่มขู่หรือกรรโชกทรัพย์ ต้อง แจ้งความทันที

นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ยังมีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนกรณีเจ้าของหอพักกระทำผิดสัญญา หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

 

คดีของครอบครัวเจ้าของหอพัก "หึ หึ" ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำคัญที่สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของหอพักที่ขาดการกำกับดูแลอย่างจริงจัง และเผยให้เห็นถึงความเปราะบางของนักศึกษาและผู้เช่าที่ไม่มีเสียงในสังคม

การดำเนินคดีอย่างจริงจังในกรณีนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการเอาผิดผู้กระทำผิดเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณให้เจ้าของหอพักอื่น ๆ เห็นว่า "ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย"

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: paktronghie
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถเจาะลึกสถิติหวยย้อนหลัง: ต้อนรับงวด 1 ธันวาคม ด้วยการวิเคราะห์ตัวเลขเด็ด!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เสร็จสมบูรณ์แล้วญาญ่า บ้านเขาใหญ่ อลังการสวยงามตามากๆ"โก๊ะตี๋-ใบมิ้นต์" โชว์หวานรอบใหม่เด็กเกาหลีจุดไฟเผาบ้านหลังพ่อแม่ไม่ซื้อมือถือให้อดีตนายกแพทองธาร นำพวงมาลัยดอกมะลิกราบบิดาหลังพึ่งผ่าน วันเกิดมารดา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
สาวๆแห่ฉีดน้ำจิปลาใส่หน้านักแสดงดัง "อูโด เคียร์" เสียชีวิตแล้วสาวเนียนเป่าปี่หนุ่มตรงที่นั่งกลางห้างสรรพสินค้ามาเลเซียวางแผนที่จะ "ห้ามเด็กที่อายุน้อยกว่า 16 ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย"
ตั้งกระทู้ใหม่