เกือบล้านวิว! ความลับของพนักงาน 7-11 ที่ทำให้ทั้งโซเชียลต้องหยุดเลื่อน
“ถูพื้นใกล้เสร็จแล้ว แต่ลูกค้าเดินมาเหยียบ” เรื่องเล่าจากใจพนักงานเซเว่นฯ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
บนแพลตฟอร์ม TikTok ที่ทุกคนใช้แบ่งปันเรื่องราวทั้งสุข เศร้า เหงา รัก หรือแม้กระทั่งความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ล่าสุดมีวิดีโอหนึ่งที่กำลังกลายเป็นไวรัล เป็นเรื่องราวจากพนักงานร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งได้เล่าถึงประสบการณ์หนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนทั่วไป แต่กลับสะท้อนความรู้สึกภายในใจของคนทำงานบริการได้อย่างชัดเจน
“ความลับไม่มีในโลก แล้วความลับของเราคือ ขณะที่เรากำลังถูพื้นใกล้เสร็จ ลูกค้าเดินมาเลือกของพอดี เรายิ้มให้ลูกค้าบอกว่า ‘เดินได้เลยนะคะ’ แต่ในใจอยากกรี๊ดมาก…”
เพียงไม่กี่ประโยคจากวิดีโอนี้ กลับสามารถจุดประกายความเข้าใจและสร้างเสียงสะท้อนจากผู้ชมจำนวนมาก ทั้งจากพนักงานด้วยกันเอง และจากลูกค้าที่เคยพบเห็นเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน
ความในใจที่ไม่ได้พูดออกไป
พนักงานหญิงรายนี้ที่ไม่เปิดเผยชื่อ ได้เล่าความรู้สึกในแบบที่หลายคนอาจไม่เคยรับรู้ว่า ทุกๆ วันที่ร้านสะดวกซื้อเปิดตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ไม่ใช่เพียงการยืนคิดเงิน หรือกดสแกนบาร์โค้ดให้ลูกค้า แต่เบื้องหลังการบริการมีหน้าที่มากมายที่ต้องรับผิดชอบ ตั้งแต่การเติมของ, จัดชั้นวาง, ล้างห้องน้ำ, ไปจนถึง “การถูพื้น” ที่หลายคนอาจมองว่าเป็นแค่งานเล็กๆ แต่กลับใช้แรงและเวลามากกว่าที่คิด
“เราไม่ได้โกรธลูกค้านะคะ เข้าใจว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ และก็ไม่ได้ผิดอะไรด้วย แต่บางทีมันแค่เหนื่อย... ถูใกล้จะเสร็จแล้ว พอมีคนเดินผ่านเราก็ต้องเริ่มถูใหม่ มันแค่เหนื่อยนิดนึงจริงๆ”
ความคิดเห็นของชาวโซเชียล: เข้าใจ – เห็นใจ – และมีมุมมองที่ต่างกัน
หลังจากวิดีโอนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นนับพัน คอมเมนต์ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ โดยเฉพาะจากพนักงานร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าปลีกอื่นๆ ที่เคยเผชิญเหตุการณ์แบบเดียวกัน
หนึ่งในคอมเมนต์ที่ได้รับยอดไลก์จำนวนมากระบุว่า:
“เคยทำงานเซเว่นเหมือนกันค่ะ เข้าใจเลยว่าการถูพื้นตอนกะดึกมันเหนื่อยมาก ต้องถูรอเปลี่ยนกะ พอใกล้เสร็จแล้วลูกค้าเดินผ่านคือแบบใจตกไปเลย แต่อย่างไรก็ต้องยิ้ม”
อีกคนแสดงความคิดเห็นในมุมของลูกค้า:
“เราเคยเห็นพนักงานถูพื้นแล้วก็พยายามเดินอ้อมเสมอค่ะ เพราะรู้ว่าคงเหนื่อยจริงๆ ไม่อยากให้เขาต้องถูซ้ำ”
อย่างไรก็ตาม ก็มีบางเสียงที่ออกแนวไม่เข้าใจ โดยระบุว่า:
“ในเมื่อร้านเปิดตลอด 24 ชั่วโมง จะถูพื้นเวลาไหนก็ต้องยอมรับว่าลูกค้ามีสิทธิจะเดินผ่าน อย่าเอาอารมณ์มาใส่ในงาน”
และยังมีคนเตือนสติในเชิงกลางๆ ไว้ว่า:
“เรื่องนี้เป็นความรู้สึกของพนักงานล้วนๆ ไม่ได้โทษลูกค้าเลยนะ อ่านให้จบก่อนด่า คนทำงานก็บ่นเหนื่อยได้แหละ เพราะทุกอาชีพก็มีเหนื่อยกันทั้งนั้น”
ทำไมต้องถูพื้นในเวลาที่ร้านยังเปิด?
คำถามที่ตามมาอีกมากมายคือ "ทำไมถึงไม่ถูตอนปิดร้าน?" ซึ่งในกรณีของเซเว่น อีเลฟเว่น คำตอบชัดเจนมาก: เพราะร้านไม่เคยปิด
ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง ต้องแบ่งเวรผลัดในการทำความสะอาดช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนกะ หรือเวลาที่ลูกค้าน้อยที่สุด เช่น ช่วงตี 2 – ตี 4 หรือช่วงเช้าก่อนเวลาเร่งด่วน การถูพื้นจึงเป็นหน้าที่ประจำที่เลี่ยงไม่ได้ แม้จะมีโอกาสถูกเหยียบอยู่เสมอ
“เราแค่ต้องทำงานให้เสร็จเท่านั้นเองค่ะ ถ้าไม่มีลูกค้าก็ง่ายหน่อย แต่ถ้ามีลูกค้าเข้ามาตอนที่เราถูพื้นอยู่ก็แค่ต้องเริ่มถูใหม่เท่านั้น มันเป็นงาน เราเข้าใจ ไม่ได้เกลียดลูกค้าเลยนะคะ แค่ในใจมันอาจเหนื่อยนิดนึง”
งานบริการ: ยิ้มที่มาพร้อมความอดทน
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า พนักงานบริการไม่ได้มีหน้าที่ยิ้มให้ลูกค้าเพียงอย่างเดียว แต่เบื้องหลังรอยยิ้มเหล่านั้นเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ความอดทน และความพยายามในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกๆ วัน
หลายครั้งพวกเขาเลือกที่จะยิ้ม แม้จะเจอคำพูดไม่ดี การแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม หรือแม้แต่สถานการณ์ที่ต้องเริ่มต้นทำงานซ้ำเพราะถูกขัดจังหวะจากความจำเป็นของลูกค้า
“ไม่มีใครอยากบ่นหรอกค่ะ ถ้าไม่เหนื่อยจริงๆ แต่พอมีพื้นที่ให้พูดบ้าง เราก็อยากให้คนเข้าใจบ้างว่า งานพวกนี้ก็เหนื่อยเหมือนกัน”
การเข้าใจซึ่งกันและกัน คือคำตอบ
ในโลกที่ทุกคนเร่งรีบ มีภาระหน้าที่ มีเรื่องให้คิดมากมาย เราอาจลืมไปว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเรา อย่างพนักงานร้านสะดวกซื้อ ก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน มีหัวใจ มีความเหนื่อยล้า และมีสิ่งที่อยากพูดแต่ไม่กล้าแสดงออกตรงๆ
วิดีโอนี้จึงไม่ได้เป็นแค่ “การระบาย” ของพนักงานเซเว่นฯ คนหนึ่ง แต่คือการสะท้อนใจของพนักงานนับหมื่นคนทั่วประเทศที่ต้องเจอกับเรื่องราวแบบเดียวกัน และเป็นโอกาสให้เราทุกคนได้หยุดคิดและเรียนรู้ว่า
การเดินเบาๆ – หรือแค่เลี่ยงพื้นที่ที่เขากำลังถูอยู่ อาจเป็นกำลังใจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวันนั้นก็ได้
วิดีโอ TikTok เล็กๆ หนึ่งคลิป กลายเป็นกระบอกเสียงของคนทำงานบริการทั่วประเทศ ที่อยากให้ผู้คนเข้าใจว่า “การยิ้มให้ลูกค้า” ไม่ได้แปลว่าเขาไม่เหนื่อยหรือไม่รู้สึกอะไรเลย
และในฐานะลูกค้า เราเองก็มีโอกาสที่จะช่วยทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นได้ ด้วยความเข้าใจเล็กๆ น้อยๆ เช่น การหลีกเลี่ยงพื้นที่เปียก, การกล่าวคำขอบคุณ, หรือแม้แต่การยิ้มกลับให้คนที่เหนื่อยกว่าคุณตลอดทั้งวัน
เพราะบางครั้ง...การเข้าใจคนอื่น แม้เพียงเสี้ยววินาที ก็อาจทำให้โลกของใครบางคน “ดีขึ้น” ได้ทั้งวัน






















