ค่าโดยสารไม่จบ! ดราม่าสาวโวยคนขับแอปฯ เรียกเก็บค่าทางด่วน 50 บ. แบบไม่ถามก่อน
“ก็แค่ 50 บาท” หรือ “ก็แค่สิทธิ์ของผู้บริโภค”? ดราม่าผู้โดยสารขอไปทางธรรมดา แต่แท็กซี่พาขึ้นทางด่วนไม่ถาม ความเข้าใจผิดหรือการเอาเปรียบ?
เมื่อพูดถึงการใช้บริการเรียกรถผ่านแอปในยุคนี้ หลายคนอาจมองว่ามันสะดวก ปลอดภัย และเลือกได้ตามใจ ทั้งเส้นทาง ราคา และประเภทของรถ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ เกิดเหตุการณ์ที่จุดชนวนคำถามสำคัญขึ้นมาว่า “ผู้โดยสารมีสิทธิ์เลือกจริงหรือไม่?” และ “คนขับมีหน้าที่เคารพทางเลือกของผู้โดยสารแค่ไหน?”
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 โดยผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @aomsintupleng ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 2 นาที เล่าเหตุการณ์ที่ตนเองพบเจอระหว่างใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งในตอนแรกเธอเลือกเส้นทางแบบ “ธรรมดา” โดยไม่ใช้ทางด่วน แต่กลับถูกคนขับพาขึ้นทางด่วนโดยไม่สอบถามความสมัครใจใด ๆ ทั้งสิ้น
เธอเล่าว่า เมื่อตัวรถเริ่มวิ่งเข้าสู่ด่านทางด่วน คนขับจึงแจ้งว่า “จะต้องจ่ายค่าทางด่วน 50 บาท” โดยที่เธอไม่รู้มาก่อน และเมื่อเธอแสดงความไม่พอใจ ก็ถูกตอบกลับว่า “มันก็แค่ 50 บาท ทำไมจะซื้อเวลาไม่ได้?”
ความเข้าใจผิดหรือความไม่ใส่ใจ?
จากคำพูดของคนขับ ที่พยายามอธิบายว่า การขึ้นทางด่วนเป็นการ "ช่วยประหยัดเวลา" และราคาแค่ "50 บาท" ดูเหมือนจะสะท้อนความคิดที่คนขับมองว่าเรื่องนี้ "เล็กน้อย" และไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตอะไร แต่สำหรับผู้โดยสารแล้ว สิ่งที่เธอเลือกคือ "ทางธรรมดา" และเธอก็ยืนยันในคลิปชัดเจนว่า "วันนี้หนูว่าง ไม่ได้รีบ ไม่จำเป็นต้องซื้อเวลา"
“ถ้าหนูอยากจะซื้อเวลา หนูก็กดเลือกเส้นทางทางด่วนแต่แรกแล้วค่ะ หนูไม่ได้รีบ และถ้ารีบหนูก็จ่ายได้อยู่แล้วค่ะ 50 บาทไม่ใช่ปัญหา แต่ประเด็นคือหนูเลือกอะไร และคุณต้องเคารพการเลือกนั้น”
คำพูดนี้เป็นประโยคที่สะเทือนใจ และกระตุกต่อมคิดของใครหลายคนบนโซเชียลมีเดีย เพราะมันสะท้อนความจริงว่า บางครั้งในฐานะลูกค้า เราไม่ได้เรียกร้องในสิ่งที่เกินเลย เพียงแค่ต้องการให้คนให้บริการเคารพทางเลือกของเรา
ผู้โดยสารตัดสินใจ “ลงกลางทาง” เพราะไม่โอเค
หลังการโต้เถียงกันพอสมควร เธอตัดสินใจขอคนขับให้จอดกลางทาง และยอมลงจากรถทันที ซึ่งแสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน พร้อมกับระบุในแคปชั่นว่า:
“สุดท้ายก็ต้องเลือกลงกลางทาง แค่ 50 บาท ที่พี่พูดอาจมีมูลค่าเยอะมากกับคนลำบาก ไม่โอเคกับค่านี้เลย”
เธอเสริมในโพสต์ว่า ก่อนจะมีคลิปนี้ เธอกับคนขับมีปากเสียงกันอยู่พักใหญ่ และเพราะกลัว จึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์ไว้ เพราะเธอโดยสารเพียงลำพัง
เสียงสะท้อนจากโลกโซเชียล
คลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นไวรัลทันทีภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังโพสต์ มีผู้ชมและแชร์จำนวนมาก และที่สำคัญคือ คอมเมนต์จากชาวเน็ตหลั่งไหลเข้าไปอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่ต่างเห็นใจผู้โดยสาร และสะท้อนว่าเคยเจอประสบการณ์ในลักษณะคล้ายกัน
บางคนบอกว่า "โดนพาขึ้นทางด่วนโดยไม่รู้ตัวบ่อยมาก" บางคนเล่าว่า "เคยโดนเก็บค่าน้ำมันเพิ่ม โดยอ้างว่าเป็นเพราะรถติด" บ้างก็กล่าวว่า "คนขับไม่ควรบังคับลูกค้าให้จ่ายในสิ่งที่ไม่เลือก"
ในขณะเดียวกัน ก็มีบางเสียงที่มองว่า “อาจเป็นความเข้าใจผิด” หรือ “คนขับอาจรีบไปรับลูกค้าคนต่อไป” ซึ่งในมุมนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาโครงสร้างของแพลตฟอร์ม และความเร่งรีบที่อาจทำให้คนขับตัดสินใจโดยไม่ใส่ใจรายละเอียด
ถามสังคม: เส้นบาง ๆ ระหว่าง “ความสะดวก” กับ “สิทธิผู้บริโภค”
เหตุการณ์นี้อาจดูเล็กน้อยสำหรับบางคน เพราะมันเกี่ยวข้องกับเงินเพียง 50 บาท แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเรื่องของ “หลักการ” และ “ความยุติธรรม” มากกว่า
ถ้าผู้โดยสารไม่อยากจ่ายค่าทางด่วน เขาก็ไม่ควรถูกบังคับ
ถ้าผู้โดยสารเลือกเส้นทางธรรมดา คนขับก็ควรเคารพ
ถ้าผู้โดยสารถูกข่มขู่หรือกดดันให้ยอมในสิ่งที่ไม่ได้เลือก มันก็ไม่ใช่การให้บริการที่ดี
ประเด็นที่ผู้หญิงคนนี้สื่อสารไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน แต่มันคือ “สิทธิ์” และ “ความเคารพ” ที่คนให้บริการควรมีให้กับผู้โดยสาร
เหตุการณ์นี้ควรเป็นสัญญาณเตือนทั้งผู้โดยสารและคนขับให้ใส่ใจในรายละเอียด และเคารพซึ่งกันและกันมากขึ้น โดยเฉพาะในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แต่ถ้าขาดความเข้าใจพื้นฐานใน “สิทธิของผู้อื่น” ก็อาจทำให้ระบบที่ควรจะดี กลายเป็นประสบการณ์แย่ ๆ แทน
หากคุณเคยถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า หรือถูกละเลยสิทธิ์ในการเลือกเส้นทาง คุณรู้สึกอย่างไร? คุณมีวิธีรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ยังไง?
มาร่วมแชร์ประสบการณ์กันได้ในคอมเมนต์นะคะ เพราะบางที “เรื่องเล็กน้อย” ของคุณ อาจเป็น “บทเรียนสำคัญ” ของใครอีกหลายคนบนถนนสายเดียวกัน
อ้างอิงจาก: TikTok@aomsintupleng






















