ญี่ปุ่นแหกกฎไม่ควบคุมราคาข้าว
การตัดสินใจของกระทรวงเกษตร ที่จะขายข้าวสารสำรองของรัฐผ่าน "สัญญาตามดุลพินิจ" ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้กำหนดราคาข้าวสาร ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากจุดยืนเดิมที่จะไม่ควบคุมราคาข้าว โดยราคาข้าวเฉลี่ยในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแตะระดับมากกว่า 4,000 เยนต่อข้าวสาร 5 กิโลกรัมในซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้หลายคนให้ความสนใจว่า แนวทางใหม่ของกระทรวงจะได้ผลหรือไม่?
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง "ชินจิโร โคอิซูมิ" กล่าวกับเจ้าหน้าที่กระทรวงว่า "เราจะป้องกันไม่ให้ราคาข้าวสูงขึ้นอีก หยุดการบริโภคข้าวที่ลดลง และ ปฏิบัติตามความรับผิดชอบของเรา" นอกจากนี้ เขายังจัดตั้งทีมพิเศษภาย ในเพื่อรับมือกับปัญหาราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้น
ระบบการประมูลแบบเปิด เป็นมาตรฐานที่มีบทบาทในการผลักดัน ให้ราคาข้าวสูงขึ้น เนื่องจากผู้ที่เสนอราคาสูงสุด จะเป็นผู้ชนะการประมูล ภายใต้สัญญาตามดุลพินิจ ซึ่งรัฐบาลสามารถกำหนดราคาต่ำและตัดสินใจว่า ใครจะได้รับสัญญา แนวทางนี้ยังช่วยลดอัตรากำไรจากคนกลางด้วยการ ข้ามผู้จัดจำหน่ายและผู้ค้าส่ง ซึ่งจะช่วยลดราคาลงได้ด้วย
จากการสำรวจของกระทรวง พบว่า "ข้าวราวๆ 210,000 ตัน ที่ขายทอดตลาดในเดือนมีนาคม 2025 ประมาณ 90% ถูกซื้อโดยสหพันธ์สหกรณ์การเกษตรแห่งชาติ โดยเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2025 มีเพียง 14,998 ตันหรือ 7.1% เท่านั้นที่ส่งถึงผู้ค้าปลีก ปัจจัยสำคัญของมาตรการใหม่ของ "ชินจิโร โคอิซูมิ" คือความรวดเร็วในการกระจายสินค้า ผ่านการขายตรงถึงผู้ค้าปลีก
กระทรวงฯ เริ่มรับสมัครผู้สนใจซื้อข้าวสารตั้ง แต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัท "บริษัท แพน แปซิฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์" ซึ่งดำเนินกิจการเครือร้านสะดวกซื้อ "ดงกิโฮเตะ" กล่าวว่า "บริษัทจะยื่นใบสมัครประมูลดังกล่าว ซึ่งหากเราชนะเราจะ จำกัดปริมาณข้าวที่ผู้บริโภคแต่ละ คนสามารถซื้อได้ และ จะเริ่มจำหน่ายข้าวสารโดยเร็วที่สุด" และ "นี่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภค หากผู้ค้าปลีกอย่างเราเข้าร่วม ในสัญญาตามดุลพินิจ ซึ่งเราจะพยายามกำหนดราคาไว้ที่ระดับ 2,000 เยน"





















