เมาแล้วพาล! นทท.ต่างชาติปฏิเสธจ่ายเงิน-เหยียดคนไทย สุดท้ายจบที่ห้องขัง
กร่างเกินทน! นักท่องเที่ยวสาวต่างชาติฉาวกลางร้านเหล้าในภูเก็ต โวยวาย-เหยียดคนไทย-ไม่มีเงินจ่าย สังคมเดือดจี้รัฐทบทวนนโยบายฟรีวีซ่า
เมื่อวันที่ผ่านมา สังคมออนไลน์ได้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรง หลังจากมีเหตุการณ์หญิงสาวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายหนึ่งก่อเหตุสุดฉาวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งกลางเมืองภูเก็ต โดยเธอไม่เพียงแต่ปฏิเสธการจ่ายค่าบริการเท่านั้น แต่ยังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โวยวายเสียงดัง ทำลายข้าวของภายในร้าน และที่ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยรู้สึกโกรธเคืองคือการที่เธอแสดงท่าทีเหยียดคนไทยอย่างชัดเจน สุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปกักขังที่สถานีตำรวจ พร้อมยอมรับสารภาพอย่างหน้าชื่นตาบานว่า “ไม่มีเงินจ่าย”
เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ผ่านบัญชี TikTok @tumroychannal ซึ่งระบุว่า หญิงต่างชาติดังกล่าวเดินทางมาเที่ยวที่ร้านเหล้าในจังหวัดภูเก็ต ก่อนจะก่อเหตุอื้อฉาวในช่วงเวลาช่วงกลางวัน โดยเธอพยายามหาข้ออ้างสารพัดเพื่อไม่จ่ายเงิน เช่น หุ้นตกกะทันหัน กดเงินจากตู้ ATM ไม่ได้ ธนาคารระบบล่ม ฯลฯ และเมื่อถูกพนักงานร้านทวงถาม ก็เริ่มโวยวาย ด่าทอ พฤติกรรมเริ่มรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นขว้างปาสิ่งของภายในร้าน พังโต๊ะ เก้าอี้ และทำให้ลูกค้าคนอื่นหวาดกลัว บรรยากาศของร้านเปลี่ยนจากความครึกครื้นกลายเป็นความตึงเครียดทันที
สิ่งที่ทำให้คนไทยหลายคนไม่พอใจอย่างมากคือพฤติกรรมเหยียดหยามที่นักท่องเที่ยวคนนี้แสดงออกมา เธอพูดจาดูถูกเชื้อชาติไทย สบถคำหยาบคายใส่พนักงานที่เป็นคนไทย และยังกล่าวอ้างในเชิง “ดูแคลน” ว่าประเทศไทยเป็นเพียงที่พักผ่อนราคาถูกของชาวตะวันตก และไม่จำเป็นต้องเคารพกติกาหรือวัฒนธรรมของที่นี่
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง เธอก็ยังคงแสดงท่าทีไม่สำนึกผิด กล่าวหาว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของระบบการเงิน พร้อมขอ “หยิบแว่นก่อน” ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นรถไปอย่างสงบ
พฤติกรรมที่ไม่ควรมองข้าม: เมื่อความใจดีของไทยกลายเป็นช่องโหว่
หลายฝ่ายชี้ว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเมืองท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะในจังหวัดยอดนิยมอย่างภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ หรือกรุงเทพฯ ที่มักมีข่าวคราวเกี่ยวกับการก่อความวุ่นวาย การไม่เคารพกฎหมาย หรือแม้แต่การกระทำที่ผิดศีลธรรมอันดี เช่น การเดินเปลือยกายในพื้นที่สาธารณะ การเสพยา การใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ และที่สำคัญคือการ “ไม่จ่ายเงิน” ซึ่งกลายเป็นปัญหาซ้ำซากที่ร้านค้าท้องถิ่นจำนวนมากประสบอยู่
กรณีของนักท่องเที่ยวสาวรายนี้ยังสะท้อนถึง “ช่องโหว่” ของนโยบาย “ฟรีวีซ่า” ที่ประเทศไทยใช้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า ซึ่งถึงแม้ว่านโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ก็เปิดโอกาสให้คนบางกลุ่มที่มีเจตนาไม่ดีแฝงตัวเข้ามาก่อความวุ่นวายได้ง่ายขึ้น
เสียงจากชาวเน็ต: รัฐควรยุติฟรีวีซ่าหรือไม่?
หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างหนัก หลายคนแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลไทยจะต้องทบทวนนโยบาย “ฟรีวีซ่า” และเพิ่มมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวให้มากกว่านี้ เช่น
“รัฐบาลชุดนี้ทำให้ประเทศวุ่นวายไปหมด”
“เห็นแล้วหงุดหงิดเลยค่ะ ฟรีวีซ่าทำพัง พวกนี้เศษ...จริงๆ”
“ยุติฟรีวีซ่าเถอะ ประเทศจะได้สงบสุข”
“ต่างชาติที่มากินอาหาร ควรคิดเงินก่อนเสิร์ฟ แบบนี้จะช่วยร้านค้าได้ 100%”
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้เพิ่มบทลงโทษที่ชัดเจนขึ้นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ก่อเหตุความรุนแรงหรือไม่ชำระค่าบริการ เช่น การยึดหนังสือเดินทาง การแบนไม่ให้เข้าประเทศไทยอีกในระยะเวลา 5-10 ปี หรือการฟ้องร้องเพื่อชดใช้ความเสียหาย
เสียงจากคนในพื้นที่: เราไม่ได้เกลียดนักท่องเที่ยว แต่ขอให้เคารพกันบ้าง
ในขณะเดียวกัน ชาวภูเก็ตจำนวนมากก็ได้ออกมาแสดงจุดยืนว่า “เราไม่ได้เกลียดนักท่องเที่ยว” และยังยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเสมอ เพราะเข้าใจถึงบทบาทสำคัญของภาคการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจไทย แต่ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ภาครัฐ และเจ้าของกิจการเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวมากกว่านี้ อย่าปล่อยให้ความใจดีของคนไทยกลายเป็นเครื่องมือให้ใครบางคนใช้หลบเลี่ยงความรับผิดชอบ
มีผู้ประกอบการร้านอาหารรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า “บางคนมากินดื่มเต็มโต๊ะ บอกเดี๋ยวจ่ายแต่สุดท้ายก็ชิ่งหนี บางคนแกล้งเมา บางคนบอกบัตรเสีย เราเหนื่อยมาก เพราะสุดท้ายเจ้าของร้านต้องรับภาระเอง”
บทเรียนที่ต้องจดจำ: อย่าปล่อยให้ “ฟรีวีซ่า” กลายเป็น “ฟรีพฤติกรรม”
เหตุการณ์นี้ควรเป็นบทเรียนสำคัญที่ทั้งภาครัฐและภาคประชาชนต้องตระหนักว่า “ความสะดวก” ในการเข้าประเทศไม่ควรแปลว่า “ความไร้ระเบียบ” และ “สิทธิพิเศษ” ไม่ควรกลายเป็น “สิทธิในการก่อปัญหา” ในขณะที่เราต้องการรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ก็ต้องไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีของคนไทยให้กับพฤติกรรมแย่ ๆ ของใครก็ตาม
ประเทศไทยควรเป็นประเทศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยไมตรีจิต แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องได้รับความเคารพกลับมาด้วย
เหตุการณ์นักท่องเที่ยวสาวต่างชาติในภูเก็ตที่ก่อเหตุฉาว โวยวาย ทำลายทรัพย์สิน เหยียดคนไทย และไม่มีเงินจ่าย ไม่ใช่แค่เรื่องเฉพาะบุคคล แต่เป็นภาพสะท้อนของปัญหาเชิงโครงสร้างที่รัฐและสังคมต้องร่วมกันแก้ไข ก่อนที่คำว่า “เมืองท่องเที่ยว” จะกลายเป็น “เมืองทนทุกข์” ของคนไทยในบ้านของตัวเอง.
อ้างอิงจาก: TikTok @tumroychannal












