หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

10,028 ล้าน! ยิ่งลักษณ์มีเงินพอจ่ายหรือไม่? ส่องบัญชี-อสังหาฯ

โพสท์โดย zzz1111

ย้อนรอยคดีจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ถูกสั่งชดใช้หมื่นล้าน – โอกาสต่อสู้ใหม่ยังมีหรือไม่?

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งสำคัญที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคมไทยอีกครั้ง เมื่อมีคำสั่งให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 10,028 ล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งศาลวินิจฉัยว่ามีความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนทำให้รัฐได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง

คำสั่งนี้นับเป็นอีกหนึ่งบทในมหากาพย์ “โครงการจำนำข้าว” ที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านนโยบาย เศรษฐกิจ และการเมือง โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารประเทศ ซึ่งการชดใช้มูลค่าหมื่นล้านบาทครั้งนี้ย่อมส่งผลกระทบไม่เฉพาะต่ออดีตผู้นำหญิงเท่านั้น แต่ยังโยงใยไปถึงมิติทางการเมืองและความยุติธรรมในสังคมไทยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน

 

คำแถลงของยิ่งลักษณ์: “ดิฉันไม่ใช่จำเลยในคดีนี้”

ภายหลังคำสั่งของศาลออกมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันที โดยระบุว่า “ดิฉันไม่ได้เป็นจำเลยในคดีนี้” พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการ จึงเห็นว่าไม่ควรถูกบังคับให้ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการที่มีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย

ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวอีกว่า ในอดีตศาลปกครองกลางเคยวินิจฉัยแล้วว่าเธอไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว ซึ่งการกลับคำวินิจฉัยในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่เธอ “ไม่อาจยอมรับได้” และอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของกระบวนการยุติธรรมไทยในเวทีโลก

 

ภาระชดใช้มหาศาล vs ทรัพย์สินในครอบครอง

จากข้อมูลการแสดงบัญชีทรัพย์สินที่ยิ่งลักษณ์เคยยื่นไว้ต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อปี 2558 พบว่าเธอมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ 610,843,436 บาท ซึ่งแม้จะเป็นจำนวนที่สูง แต่เมื่อเทียบกับภาระที่ศาลสั่งให้ชดใช้กว่า 10,028 ล้านบาท นับว่ายังห่างไกลเกินเอื้อม

รายละเอียดทรัพย์สินที่สำคัญ ได้แก่:

เงินสด: 14.29 ล้านบาท

เงินฝาก: 16 บัญชี รวม 24.9 ล้านบาท

เงินลงทุนและกองทุนรวม: 115.5 ล้านบาท

เงินให้กู้ยืม: 108.3 ล้านบาท

ที่ดิน 14 แปลง: มูลค่ากว่า 117 ล้านบาท (ในเชียงใหม่, เชียงราย, กทม., สมุทรปราการ)

โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 36 รายการ: มูลค่ากว่า 162 ล้านบาท

รถยนต์ 9 คัน: ยี่ห้อหรูรวมมูลค่า 21.9 ล้านบาท

เครื่องประดับและของมีค่า: กว่า 45 ล้านบาท (อัญมณี, นาฬิกา, กระเป๋าแบรนด์เนม)

กรมธรรม์ประกันชีวิต: มูลค่า 596,189 บาท

หากยึดตามรายการทรัพย์สินทั้งหมด จะเห็นได้ชัดว่าไม่มีทางครอบคลุมภาระชดใช้หมื่นล้านบาทได้เลยแม้แต่น้อย

เพื่อไทยเปิดเกมสู้ใหม่: มีพยานหลักฐานใหม่

แม้จะมีคำสั่งจากศาลปกครองสูงสุดออกมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ยังไม่จบลงง่าย ๆ เพราะในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแถลงจุดยืนของพรรคว่า ยอมรับคำตัดสินของศาล แต่ยังมีแนวทางทางกฎหมายที่อาจทำให้ยิ่งลักษณ์หลุดพ้นจากภาระการชดใช้ได้

โดยอ้างถึง มาตรา 75 ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง ซึ่งเปิดช่องให้มีการยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ หากมี พยานหลักฐานใหม่ ที่ไม่เคยปรากฏในการพิจารณาคดีมาก่อน

หลักฐานใหม่ที่พรรคเพื่อไทยอ้างถึงคือ การขายข้าวจำนวน 18.9 ล้านตันในเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นว่าโครงการจำนำข้าวยังสามารถสร้างรายได้กลับคืนให้แก่รัฐ และไม่ใช่ความเสียหายถาวรอย่างที่เข้าใจกันก่อนหน้านี้

 

ข้อถกเถียงทางกฎหมาย: รายได้ย้อนหลังถือเป็นหลักฐานใหม่หรือไม่?

ทว่าประเด็นนี้ก็ไม่พ้นการวิพากษ์วิจารณ์ โดยบางฝ่ายชี้ว่า “การนำผลลัพธ์จากการขายข้าวในอนาคตกลับมาอ้างในคดีเดิม อาจไม่ถือเป็นหลักฐานใหม่” เพราะเท่ากับเป็นการมองย้อนกลับไปแทนที่จะเป็นข้อเท็จจริง ณ เวลาที่เกิดเหตุการณ์

นายดนุพรยืนยันว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจของศาล และพรรคเพื่อไทยขอใช้ “สิทธิ” ที่กฎหมายเปิดช่องไว้เพื่อยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการภายใน 90 วัน ตามขั้นตอน

 

บริบทการเมือง-กฎหมาย: รัฐประหาร 2557 และมาตรา 44

คดีนี้ยังเกี่ยวข้องกับ บริบททางการเมือง โดยเฉพาะในช่วงหลังการรัฐประหารปี 2557 ที่นำโดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งใช้อำนาจมาตรา 44 ในการเร่งรัดกระบวนการตรวจสอบนโยบายรัฐบาลชุดก่อน โดยเฉพาะกรณีโครงการรับจำนำข้าวที่กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองในเวลานั้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติศาสตร์บางรายมองว่า การดำเนินคดีในยุค คสช. นั้น ไม่สามารถแยกออกจากเจตนาทางการเมือง ได้โดยสิ้นเชิง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่หลายฝ่ายตั้งคำถามกับกระบวนการยุติธรรมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว

 

 เส้นทางยิ่งลักษณ์ในวันที่ยังไม่ปิดฉาก

แม้คำสั่งชดใช้หมื่นล้านจะถูกสั่งโดยศาลปกครองสูงสุด ซึ่งถือเป็นองค์กรยุติธรรมชั้นสูงสุดในระบบศาลปกครองของไทย แต่ประเด็นนี้ก็ยังไม่จบลงโดยสมบูรณ์ เพราะยังมีช่องทางตามกฎหมายให้สามารถยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อพิจารณาคดีใหม่ได้ หากหลักฐานใหม่ได้รับการรับรองว่า “เพียงพอและสมเหตุสมผล”

 

สำหรับ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แล้ว นี่อาจเป็นอีกหนึ่งบททดสอบในชีวิตทางการเมืองที่หนักหนาที่สุด ไม่เพียงแต่เธอต้องเผชิญหน้ากับภาระทางการเงินระดับมหาศาล แต่ยังต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองในกระบวนการที่หลายฝ่ายยังมีข้อกังขา

 

สุดท้ายนี้ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบคือ — ศาลจะเปิดโอกาสให้พิจารณาคดีใหม่หรือไม่? และถ้าเปิด ยิ่งลักษณ์จะสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าโครงการที่เคยถูกมองว่าเป็นความเสียหายระดับชาติ จริง ๆ แล้วอาจยังมีคุณค่าทางเศรษฐกิจแฝงอยู่ภายใต้ฝุ่นควันทางการเมือง

โปรดติดตามความเคลื่อนไหวคดีนี้อย่างใกล้ชิด เพราะอาจเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาใหญ่ของสังคมไทยในการทบทวนความสัมพันธ์ระหว่าง “กฎหมาย” กับ “การเมือง” ที่ยังคงซับซ้อนและท้าทายอย่างยิ่งในระบอบประชาธิปไตยแบบไทย ๆ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ตำนาน “นายป่าช้า” : “ยายกะลา ตากะลี”สาวงามผู้เลอโฉมในประวัติศาสตร์ยุโรปยุคกลางสาวขเเมร์ร้องเพลงปลุกปั่น “Don’t Thai to the world” พี่ไทยไม่วายแซว หาคีย์ให้เจอก่อน พ.ส.รถขายปลาหมึกบดระดับพรีเมี่ยม ดูสะอาดถูกหลักอนามัยมาก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สวนสัตว์ที่กว้างใหญ่มากที่สุด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองกรุงเทพมหานคร
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เรือจีนและฟิลิปปินส์ชนกันใกล้แนวปะการังที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้จีนรับประกันว่าคลองของเขมร มูลค่า 1.7 พันล้านเหรียญ จะสร้างเสร็จในปี 2028มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก วัย 81 ปี แต่งงานกับสาวจีน ที่อายุน้อยกว่า 47 ปีชายวัย 45 ถูกจับหลังมีเพศสัมพันธ์ กับเด็กในรถยนต์
ตั้งกระทู้ใหม่